ย้อนกลับไป 10 ปีที่แล้ว แฟนบอลและทุกคนที่ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ เชื่อว่าสโมสรกำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคใหม่ที่ดีขึ้น ภายใต้การบริหารของนักธุรกิจชาวไทย
กลุ่มทุนที่นำโดย เดชพล จันศิริ ซื้อหุ้น 100 เปอร์เซนต์ของสโมสร เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ จาก มิลาน มานดาริช มูลค่า 37.5 ล้านปอนด์ โดยมีเป้าหมายเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกภายในระยะเวลา 2 ปี
แฟนบอล ดิ อาวล์ มองเห็นสัญญาณที่ดี หลังจาก เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ จบฤดูกาล 2015-16 ที่อันดับ 6 มีลุ้นเลื่อนชั้นจนถึงเกมชิงชนะเลิศ เพลย์ออฟ แต่ไปแพ้ต่อ ฮัลล์ ซิตี้ อย่างน่าเสียดาย
เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งอย่างสม่ำเสมอ จบอันดับ 4 ในฤดูกาล 2016-17 แต่ครั้งนี้จอดป้ายเพียงแค่รอบรองชนะเลิศ เพลย์ออฟ
นั่นคือสองปีแรกที่ชื่อเสียงของ เดชพล จันศิริ เป็นไปในทางที่ดีในสายตาแฟนบอล
บวกกับความสำเร็จของ วิชัย ศรีวัฒนประภา อดีตประธานสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ ที่พาทีมครองแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2015-16 ยิ่งทำให้ความน่าเชื่อถือของนักธุรกิจไทยมีมากขึ้นไปอีก
แต่หลังจากผ่านสองฤดูกาลแรก ผลงานของ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ไม่ใกล้เคียงกับการลุ้นเพลย์ออฟ แถมต้องตกชั้นจากการจบอันดับสุดท้ายในฤดูกาล 2020-21
เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ใช้เวลาสองปีถึงเลื่อนชั้นขึ้นมาจากลีกวันได้ และเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เจ้าของสโมสรชาวไทยเริ่มประสบปัญหาการเงินอย่างรุนแรง
สื่ออังกฤษหลายสำนักเคยเขียนบทความถึงสถานการณ์ของ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ มาหลายครั้งแล้ว หนึ่งในนั้นก็มี บีบีซี ที่พยายามตั้งคำถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบจากฝ่ายใด
ปัญหาหนี้สิน การชำระเงินล่าช้าให้กับกรมสรรพากรแห่งสหราชอาณาจักร การจ่ายค่าจ้างผู้เล่น, สต๊าฟฟ์ และทุกคนที่สโมสรล่าช้า การถูกลงโทษห้ามเสริมทัพ และการถูกสั่งปิดอัฒจันทร์บางส่วน (เพราะเรื่องโครงสร้าง)
การแยกทางกับ แดนนี่ โรห์ล เฮดโค้ช เป็นสถานการณ์ที่พอเข้าใจได้ ซึ่งการแก้ปัญหาคือการแต่งตั้งมือขวา เฮนริค พีเดอร์เซ่น ขึ้นเป็นเฮดโค้ชคนใหม่
คำถามคือ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ จะพร้อมลงเล่นเกมแรกของแชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2025-26 หรือไม่?
เดิมที สุดสัปดาห์สุดท้ายก่อนเปิดซีซั่นใหม่ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ มีคิวอุ่นเครื่องกับ เบิร์นลี่ย์ แต่มีการประท้วงจากผู้เล่นเกิดขึ้น กรณีได้รับค่าจ้างล่าช้า ทำให้เกมต้องถูกยกเลิกไป
อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นในทีมชุดปัจจุบันมีแนวโน้มว่าจะลงเล่นเกมแชมเปี้ยนชิพอย่างเป็นมืออาชีพ แม้ไม่รู้ว่าจะเหลือผู้เล่นในทีมชุดใหญ่ให้ใช้งานกี่คนก็ตาม
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายเรื่องที่แฟนๆ ดิ อาวล์ ตั้งข้อสงสัยว่า เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ จะสามารถลุยฤดูกาล 2025-26 ไปได้นานแค่ไหน เพราะความล้มเหลวในการขายสโมสรของนักธุรกิจชาวไทย
แม้แสดงท่าทีเปิดรับพิจารณาข้อเสนอ แต่ เดชพล ถูกมองว่าขาดความจริงจังในการพยายามขายสโมสร ขณะที่ข้อเสนอสองฉบับที่ถูกส่งมา เชื่อว่ามีมูลค่า 30 ล้านปอนด์ และ 40 ล้านปอนด์
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผู้บริหารชาวไทยประเมินมูลค่าของ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ นาทีนี้สูงเกินไป และจะมีการประท้วงจากแฟนบอลอย่างหนักหน่วงขึ้นในฤดูกาลนี้
ที่น่าหงุดหงิดใจของแฟนๆ ดิ อาวล์ ก็คือไม่มีใครรับทราบข้อมูลใดๆ มากนัก แม้ บีบีซี พยายามสอบถามข้อมูลจากทั้ง เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์, เจ้าของสโมสรชาวไทย และฟุตบอลลีกอังกฤษ แต่ทุกฝ่ายปฏิเสธที่จะแสดงความเห็น