เมสัน กรีนวูด กลับมามีประเด็นทางหน้าสื่ออีกครั้ง หลังจากปฏิเสธการประเดิมทีมชาติจาเมกาในเดือนกันยายน
เหตุผลที่ได้รับคือ ต้องการใช้เวลาในการพิจารณาอนาคตของตัวเองในระดับทีมชาติอีกสักระยะ และต้องการมุ่งมั่นรับใช้ต้นสังกัด โอลิมปิก มาร์กเซย ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล 2025-26
แต่เหตุผลที่ใครๆ ก็คงคาดเดาเหมือนกัน กรีนวูด น่าจะลังเลการเล่นให้ทีมชาติจาเมกา ชาติในโซนคอนคาเคฟ และยังแอบมีความหวังเล็กๆ ที่จะถูกเหลียวมองจาก โธมัส ทูเคิ่ล
21 ประตูจาก 34 เกมลีกเอิง ฤดูกาล 2024-25 (เท่ากับดาวซัลโวลีกเอิง) น่าจะสะกิดสายตา ทูเคิ่ล บ้างไม่มากก็น้อย แม้ดูเหมือนจะถูกแบล็คลิสต์จากสมาคมฟุตบอลอังกฤษก็ตาม
ย้อนกลับไปเล่าถึงเรื่องราวของ กรีนวูด ในอดีต เด็กปั้นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลายเป็นที่รักของแฟนๆ ปีศาจแดง อย่างรวดเร็ว หลังจากก้าวขึ้นชุดใหญ่ในฤดูกาล 2018-19
17 ประตูจาก 49 เกมในฤดูกาล 2019-20 ทำให้ กรีนวูด ได้เปลี่ยนมาสวมเสื้อหมายเลข 11 ที่เคยเป็นของตำนาน ไรอัน กิ๊กส์ และทำไปอีก 12 ประตูจาก 52 เกมในฤดูกาล 2020-21
แต่ในช่วงกลางฤดูกาล 2021-22 ก็เกิดเรื่องที่กลายเป็นจุดพลิกผันในชีวิต เมื่อ กรีนวูด ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเกรทเตอร์แมนเชสเตอร์จับกุมตัว ในข้อหาข่มขืนและทำร้ายร่างกายผู้หญิง ซึ่งสุภาพสตรีคนนั้นก็คือแฟนสาว
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จึงสั่งพักงานตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม ปี 2022 แบบไม่มีกำหนด
กับทีมชาติอังกฤษ กรีนวูด ก็เคยก่อเรื่องเอาไว้เช่นกัน เมื่อครั้งถูกเรียกตัวติดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกในเดือนสิงหาคม ปี 2020 และได้ประเดิมสนามในเกมยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ที่ ไอซ์แลนด์ วันที่ 5 กันยายน
อีกสองวันต่อมา กรีนวูด ถูกตัดชื่อออกจากทีม และส่งตัวกลับอังกฤษ พร้อมเพื่อนร่วมทีม ฟิล โฟเด้น
เหตุผลคือ กรีนวูด กับ โฟเด้น ฝ่าฝืนกฏการกักตัวโควิด-19 ระหว่างที่อยู่ในประเทศไอซ์แลนด์ เพราะทั้งสองคนได้ออกจากบริเวณที่ทีมชาติพักอยู่ในโรงแรม
ขณะที่สื่ออังกฤษเปิดเผยข้อมูลเบื้องลึกว่าเป็นเพราะ กรีนวูด กับ โฟเด้น ได้นัดพบกับหญิงสาวสองคนอีกด้านหนึ่งของโรงแรม ด้วยจุดประสงค์ที่น่าจะคาดเดากันได้
กรีนวูด ไม่เคยถูกพิจารณาจาก แกเร็ธ เซาธ์เกต อีกเลย ตรงกันข้ามกับ โฟเด้น
และพอเกิดคดีข่มขืนและทำร้ายแฟนสาว ประตูสำหรับทีมชาติอังกฤษของ กรีนวูด ก็แทบจะถูกปิดถาวร
อนาคตของ กรีนวูด กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ดับลงเรียบร้อยเช่นกัน แม้ ริชาร์ด อาร์โนลด์ ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งซีอีโอของสโมสรในช่วงเวลานั้น มีการเปรยกับคณะกรรมการบริหารของสโมสรว่ามีแผนที่จะดึง กรีนวูด กลับมาร่วมทีมตามสัญญาที่ยังคงมีอยู่
แต่คำพูดนี้เอง ทำให้ อาร์โนลด์ ถูกต่อต้านอย่างหนักจากบุคลากรภายในองค์กร นักการเมือง องค์กรการกุศล และแฟนบอลที่เสียงแตกออกไปสองฝั่ง
สุดท้าย กรีนวูด ก็ถูกปล่อยยืมไป เคตาเฟ่ และขายขาดให้ โอลิมปิก มาร์กเซย หลังจากนั้น
ขณะที่ อาร์โนลด์ ก็ลงจากเก้าอี้ที่นั่งได้เพียง 20 เดือน และปิดฉากการทำงาน 16 ปีกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายหลังการมาของผู้บริหารชุดใหม่ที่นำโดย เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์
กรีนวูด เริ่มต้นใหม่กับ โอลิมปิก มาร์กเซย และมีแผนการที่จะเปลี่ยนไปเล่นให้ทีมชาติจาเมกาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2024
มาร์ค บัลลิงแฮม ประธานบริหารของ เอฟเอ ยืนยัน กรีนวูด ยื่นคำร้องขอเปลี่ยนไปเล่นให้ จาเมกา และผู้จัดการทีมคนใหม่ ทูเคิ่ล ก็แจ้งแล้วว่า อดีตกองหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่อยู่ในแผนการทำทีม
ถึงตอนนี้ จาเมกา ทางสะดวกในการต้อนรับ กรีนวูด มาเป็นสมาชิกใหม่ของ สตีฟ แม็คคลาเรน หลังจากได้รับหนังสือเดินทางจาเมกัน ตามสายเลือดของมารดา
แผนการของสหพันธ์ฟุตบอลจาเมกา คือการร่วมงานกับ กรีนวูด ครั้งแรกในเดือนกันยายน ซึ่งมีเกมฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนคอนคาเคฟ พบกับ เบอร์มิวดา และ ตรินิแดดฯ
แต่ แม็คคลาเรน ไม่ได้รับคำตอบที่คาดหวังจาก กรีนวูด
กองหน้าวัย 23 ปี แจ้งว่าต้องการเวลาในการพิจารณาอนาคตเรื่องทีมชาติอีกสักระยะ และต้องการมุ่งมั่นรับใช้ต้นสังกัด โอลิมปิก มาร์กเซย ในช่วงต้นซีซั่นใหม่
สถานการณ์ตอนนี้กลับกลายเป็นไม่แน่นอนเสียแล้ว การรอความหวังจาก ทูเคิ่ล เป็นเรื่องที่อาจไม่เกิดขึ้น และการผิดคำพูดกับสหพันธ์ฟุตบอลจาเมกา ก็อาจทำให้ กรีนวูด ไม่ได้สัมผัสเกมทีมชาติ หรือศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย อีกต่อไป