ช่วงเวลาเพียง 6 เดือน มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นกับสโมสร เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เหตุการณ์ที่ทุกคนโดยเฉพาะแฟนบอล เดอะ เบลดส์ นึกว่าหลับตาแล้วเจอฝันร้าย
ย้อนกลับไปในช่วงท้ายฤดูกาล 2024-25 ทุกคนที่สโมสร เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด กำลังมีความสุขกับการเริ่มต้นปี 2025 อย่างยอดเยี่ยม การชนะ 11 จาก 15 เกมในแชมเปี้ยนชิพ ทำให้ ดาบคู่ ก้าวขึ้นเป็นจ่าฝูงของตารางได้อย่างน่าทึ่ง
อีกเพียง 7 เกมสุดท้าย ในช่วงเวลา 29 วัน เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด มีโอกาสเลื่อนชั้นอัตโนมัติในฐานะสองอันดับแรก และมีลุ้นแชมป์แข่งกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด และ เบิร์นลี่ย์ ม้าสามตัวที่ขับเคี่ยวกันมาตลอด
แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด การแพ้สามเกมรวดตั้งแต่เริ่มเดือนเมษายนต่อ อ็อกซ์ฟอร์ด (เยือน) 0-1, มิลล์วอลล์ (เหย้า) 0-1 และ พลีมัธ (เยือน) 1-2 ส่งผลให้เสียการเป็นผู้นำทันที
และความพ่ายแพ้ที่บ้าน เบิร์นลี่ย์ 1-2 ในเกมที่ 44 ก็ดับฝัน เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด กับการเลื่อนชั้นอัตโนมัติ
อย่างไรก็ตาม รอบเพลย์ออฟยังเป็นความหวังสุดท้ายของ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด แต่ก็อดห่วงไม่ได้ เพราะจากประวัติการเล่นเพลย์ออฟเลื่อนชั้น เดอะ เบลดส์ ผิดหวังทั้งหมด 9 ครั้ง ในจำนวนนั้น 4 ครั้งผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ
เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ คริส ไวล์เดอร์ เหลือเวลาอีกเพียง 14 นาทีสุดท้าย ก็จะได้ฉลองการเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อ ซันเดอร์แลนด์ มายิงสองประตูแซงชนะ
โดยเฉพาะประตูชัยเกิดขึ้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 90+5 พรากความฝันทั้งหมดไปจาก เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
ลีดส์ ยูไนเต็ด เคยตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้มาแล้วในฤดูกาล 2023-24 แต่ก็รวบรวมพลังและความเชื่อมั่นกลับมาได้ในปีต่อมา นั่นคือแนวทางที่ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ต้องทำให้ได้
ไวล์เดอร์ หารือร่วมกับสโมสร ก่อนตัดสินใจยุติบทบาท เปิดทางให้คนใหม่เข้ามาปลุกทีมกลับมาในซีซั่นหน้า
รูเบน เซเยส โค้ชชาวสเปน คือคนที่ถูกเลือก แม้ประวัติการทำงานไม่มีอะไรน่าสนใจเลยกับทั้ง เซาธ์แฮมป์ตัน, เร้ดดิ้ง และ ฮัลล์ ซิตี้ ดีที่สุดคือสโมสรสุดท้ายพาทีมรอดตกชั้นในแชมเปี้ยนชิพแล้วโดนไล่ออก
ฤดูกาล 2025-26 เปิดฉากขึ้น เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด แพ้คาบ้านต่อ บริสตอล ซิตี้ 1-4 ทั้งที่ ดาบคู่ เคยถล่มมาแบบไป-กลับ 6-0 รอบรองชนะเลิศ เพลย์ออฟ ซีซั่นก่อน
การแพ้รวด 5 เกมแรกในแชมเปี้ยนชิพ กับอีก 1 เกมในคาราบาวคัพ รอบแรก มีน้ำหนักมากพอที่จะปลด เซเยส ออกจากตำแหน่งทันที โดยไม่ต้องรีรอ
ไวล์เดอร์ ถูกดึงตัวกลับมากอบกู้วิกฤติสโมสร จากที่คาดหวังถึงการเลื่อนชั้น เปลี่ยนเป็นประคองตัวไม่ไห้ตกชั้นสู่ลีกวันซีซั่นหน้า
แต่ดูเหมือนงานยากที่สุดคือการกอบกู้สภาพจิตใจของผู้เล่นหน้าเดิม ขณะที่ผู้เล่นหน้าใหม่ที่เสริมทัพเข้ามายังไม่มีใครสอบผ่านเลยแม้แต่คนเดียว
การแพ้ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-2 ในเกมกลางสัปดาห์ เป็นการแพ้ 2 ใน 3 เกมของ ไวล์เดอร์ ที่สำคัญเป็นการแพ้ทั้ง 2 เกมในรังบรามอลล์ เลน
จาก 8 เกมแรกในแชมเปี้ยนชิพซีซั่นนี้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด แพ้ไปแล้ว 7 เกม และเป็นการแพ้ทั้งหมด 4 เกมแรกในสนามบรามอลล์ เลน เป็นผลงานย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1954
นับเป็นช่วงเวลา 6 เดือนที่ทำร้ายความรู้สึกทุกคนที่สโมสร เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เป็นอย่างมาก จากที่จบเดือนมีนาคมยังวาดฝันถึงการเล่นพรีเมียร์ลีก
และตอนนี้ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน กว่าจะฟื้นฟูสภาพจิตใจกลับมาได้