แฟนๆ เดอะ สกาย บลูส์ เริ่มวาดฝันถึงการกลับสู่พรีเมียร์ลีก แม้ว่าซีซั่นนี้เพิ่งออกเดินทางไปแค่ 1 ใน 4 ของเส้นทางอันยาวไกลก็ตาม
การนำจ่าฝูง แชมเปี้ยนชิพ หลังผ่าน 11 เกมแรก ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติทั่วไป แต่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด กำลังนำพา โคเวนทรี ซิตี้ ทำผลงานอันน่าทึ่ง ชนะ 7 เสมอ 4 ยังไม่แพ้
และที่น่าตะลึงคือการยิงไปแล้วถึง 31 ประตูจาก 11 เกมแรก เฉลี่ยแล้วตกอยู่ที่ 2.8 ประตูต่อ 1 เกม
แลมพาร์ด กำลังสร้าง โคเวนทรี ให้กลายเป็นทีมที่เน้นเกมรุกเต็มพิกัด ที่สำคัญคือไม่มีคำสั่งให้ 'หยุดยิง'
เห็นได้จากผลการแข่งขันที่ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ ชนะ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ (เยือน) 5-3, ชนะ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส (เหย้า) 7-1, ชนะ มิลล์วอลล์ (เยือน) 4-0, ชนะ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ (เยือน) 5-0
สองศูนย์หน้า ฮาจี้ ไรท์ กับ แบรนดอน โธมัส-อาซานเต้ ก็นำดาวซัลโว แชมเปี้ยนชิพ เท่ากันที่ 8 ประตู ตามด้วยกองกลาง วิคเตอร์ ธอร์ป ที่ยิงไปแล้ว 6 ประตู
นอกจาก ไรท์ กับ โธมัส-อาซานเต้ ที่ผลิตประตูได้อย่างสม่ำเสมอ แลมพาร์ด ยังมีตัวรุกชั้นดีอย่าง เอฟรอน เมสัน-คล้าร์ก, ทาสึฮิโระ ซาคาโมโตะ, เอลลิส ซิมม์ส
แม้ว่าฤดูกาล 2025-26 เพิ่งผ่านไปแค่ควอเตอร์เดียว แต่ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับสโมสร โคเวนทรี เริ่มวาดภาพคร่าวๆ ถึงการเป็นสมาชิกพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2026-27 กันแล้ว
การมาของ แลมพาร์ด ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ปี 2024 เวลานั้น โคเวนทรี อยู่อันดับ 17 ของตาราง และทุกอย่างไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือการชนะ 9 ใน 10 เกม ระหว่างเดือนมกราคม ถึงต้นเดือนมีนาคม รวมแล้วชนะถึง 16 เกมจาก 29 เกมในลีก กระโดดขึ้นมาจบอันดับ 5 ได้อย่างน่าทึ่ง
น่าเสียดายที่ในเพลย์ออฟ รอบรองชนะเลิศ มาเสียประตูแพ้ ซันเดอร์แลนด์ ในช่วงทดเจ็บของการต่อเวลาพิเศษ 120+3 ทำให้ โคเวนทรี ต้องฝันค้าง
ย้อนกลับไปในฤดูกาล 2022-23 โคเวนทรี ภายใต้การคุมทัพของเฮดโค้ชคนก่อน มาร์ค โรบิ้นส์ และมีศูนย์หน้าตัวเก่ง วิคเตอร์ โยเคอเรส ใกล้เคียงกับการเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกมากกว่า
โคเวนทรี ล้ม มิดเดิลสโบรช์ ในรอบรองฯ เพลย์ออฟ ผ่านเข้าชิงฯ ไปพบกับ ลูตัน ทาวน์ เกมสูสีและยืดเยื้อไปถึงการดวลจุดโทษ และเป็นแฟนๆ เดอะ สกาย บลูส์ ที่ต้องเสียน้ำตา
แฟนบอลทีมอื่นๆ ก็คงคิดถึง โคเวนทรี หนึ่งในสโมสรสมาชิกพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลแรก 1992-93 เพราะนับตั้งแต่ตกชั้นในปี 2001 เดอะ สกาย บลูส์ ไม่เคยกลับคืนสู่เวทีลีกสูงสุดได้อีกเลย
มิหนำซ้ำ ยังเคยร่วงลงสู่ลีกวัน และไปไกลถึงลีกทู ในฤดูกาล 2017-18 ด้วย แต่ยังดีที่ตั้งลำกลับมาได้
ฤดูกาลนี้จึงเป็นโอกาสเหมาะสมที่สุดแล้วที่ แลมพาร์ด จะพา โคเวนทรี กลับสู่พรีเมียร์ลีก อาจไม่ต้องกดคันเร่งหนักเหมือนช่วงต้นซีซั่น แต่ขอแค่อย่าเครื่องดับกลางทางก็พอ