ช่องว่าง 10 คะแนนหลังผ่าน 17 เกม แฟร้งค์ แลมพาร์ด กำลังนำ โคเวนทรี ซิตี้ บินสูงแบบติดลมบน การวางแผนลุยพรีเมียร์ลีกซีซั่นหน้าได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
นี่คือฤดูกาลที่แปลกสำหรับ โคเวนทรี การเสริมทัพเพียงเล็กน้อยที่ดูเหมือนจะส่งผลต่อการทำทีมของ แลมพาร์ด ตั้งแต่ช่วงต้นซีซั่น เกมแรกที่เปิดบ้านเสมอ ฮัลล์ 0-0 มีคำถามคาใจแฟนบอลเกิดขึ้นมากมาย
แต่หลังจากนั้น โคเวนทรี คว้าชัยชนะแบบบ้าคลั่ง บุกอัด ดาร์บี้ เคาน์ตี้ 5-3 และเปิดรังถล่ม ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส 7-1 ทำให้ทุกคนลืมผลการแข่งขันเกมแรกไปหมดสิ้น
แล้ว โคเวนทรี ก็มาสะดุดเสมอ 3 เกมติดต่อกัน อ็อกซ์ฟอร์ด (เยือน) 2-2, นอริช (เหย้า) 1-1, เลสเตอร์ (เยือน) 0-0 ถึงตอนนี้แฟนๆ เดอะ สกาย บลูส์ เริ่มสับสนกับผลงานของทีมหลังผ่าน 6 เกมแรก
แลมพาร์ด เองก็คงเช่นกัน
ใครจะเชื่อว่า โคเวนทรี กลับมาชนะหลังจากนั้น 6 เกมติดต่อกัน ยิงแหลก 19 ประตู เสียไปเพียง 2 ประตู เก็บคลีนชีตถึง 4 เกมในช่วงเวลานั้น
พอยึดครองจ่าฝูงของตารางได้ในช่วงต้นเดือนตุลาคม โคเวนทรี ก็ไม่เคยปล่อยบัลลังก์หลุดมือไปอีกเลย
ชัยชนะ 10 จาก 11 เกมหลังสุดในลีก ประกอบกับคู่แข่งที่ตามมาสลับหน้ากันไปเรื่อย มีช่วงเวลาที่ดีและแย่สลับกันไป แม้แต่ มิดเดิลสโบรช์ ที่เคยครองจ่าฝูงมาก่อน โคเวนทรี ก็มาสะดุดหลายเกมในเดือนพฤศจิกายน
ช่องว่างถูกขยายออกไปเรื่อยๆ จนมาถึง 7 คะแนน ก่อนเกม มิดเดิลสโบรช์ เปิดบ้านรับมือ โคเวนทรี
เป้าหมายของ โบโร่ แน่นอนคือการลดช่องว่างให้เหลือ 4 คะแนน แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น
ไม่มีอะไรหยุดเกมรุกที่จัดจ้านของ โคเวนทรี ได้ การขาดหายไปของ ฮาจี้ ไรท์ ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบมากนัก เพราะตัวเลือกสำรองอย่าง เอลลิส ซิมม์ส ลงมายิง 2 ประตูที่ ริเวอร์ไซด์ สเตเดี้ยม และเป็น 3 ประตูใน 2 เกมหลัง
อาวุธในการทำประตูของ แลมพาร์ด มีให้เลือกหลากหลาย นอกจากกองหน้าที่ผลิตประตูเป็นกอบเป็นกำอย่าง ฮาจี้ ไรท์ กับ แบรนดอน โธมัส-อาซานเต้
ต้องไม่ลืมให้เครดิตตัวปั้นเกมรุกอย่าง ทาสึฮิโระ ซาคาโมโตะ และ เอฟรอน เมสัน-คล้าร์ก
หรือแม้แต่กองกลางอย่าง วิคตอร์ ทอร์ป ก็ยิงไปแล้ว 7 ประตูในลีกฤดูกาลนี้
ที่น่าสนใจคือ ผู้เล่นเอาท์ฟิลด์ที่ผลัดกันลงสนามทั้งหมด เป็นหน้าเดิมจากฤดูกาลที่แล้ว มีเพียงผู้รักษาประตูมือหนึ่งที่ย้ายมาใหม่ คาร์ล รัชเวิร์ธ ยืมมาจาก ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน
ชัยชนะ 4-2 ของ โคเวนทรี ที่ ริเวอร์ไซด์ สเตเดี้ยม จึงทำให้ช่องว่างถูกยืดออกไปเป็น 10 คะแนน เท่ากันทั้งอันดับ 2 และ 3
10 คะแนนห่างจากพื้นที่เพลย์ออฟ แม้ยังเหลือหนทางอีกถึง 29 เกม แต่เป็นใครก็ต้องเริ่มต้นวางแผนสู้ศึกพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2026-27 เป็นธรรมดา
เชื่อว่าทีมชุดนี้ของ แลมพาร์ด ต่อให้ปราศจากการเสริมทัพ ก็ยังคงสามารถสู้ศึกพรีเมียร์ลีกได้สบายๆ
โดยเฉพาะบรรดาแนวรุกที่มีอยู่ในมือ ฮาจี้ ไรท์, แบรนดอน โธมัส-อาซานเต้, เอลลิส ซิมม์ส, ทาสึฮิโระ ซาคาโมโตะ, เอฟรอน เมสัน-คล้าร์ก
พรีเมียร์ลีก เตรียมต้อนรับ โคเวนทรี กลับคืนเวทีเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2000-01 เอาไว้ได้เลย
