ฤดูกาลที่แล้ว เซาธ์แฮมป์ตัน เอาตัวรอดจากการทำสถิติแย่ๆ ในฐานะทีมบ๊วยพรีเมียร์ลีก มาซีซั่นนี้ วูลฟ์แฮมป์ตัน กำลังเสี่ยงสร้างเรคคอร์ดที่ไม่อยากให้เกิด
สถิติที่พูดถึงก็คือการเก็บคะแนนได้น้อยที่สุดในพรีเมียร์ลีก ที่ปัจจุบันเรคคอร์ดนี้ยังเป็นของ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ภายใต้การคุมทัพของ พอล จีวล์ ในฤดูกาล 2007-08 เก็บได้เพียง 11 คะแนน
ฤดูกาล 2024-25 เซาธ์แฮมป์ตัน เกือบทำลายสถิตินี้ หลังจากรอมอบตัวตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกตั้งแต่เปลี่ยนศักราชใหม่ และเมื่อจบเกมที่ 29 ในเดือนมีนาคม เดอะ เซนต์ส เพิ่งเก็บไปเพียง 9 คะแนน
แต่ เซาธ์แฮมป์ตัน ก็เอาตัวรอดใน 9 เกมสุดท้ายได้สำเร็จ เก็บ 3 คะแนนที่ต้องการจากการเสมอ คริสตัล พาเลซ 1-1 (เหย้า), เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1 (เยือน) และคะแนนสุดท้ายที่เซอร์ไพรส์จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-0 (เหย้า)
ผลเสมอสามเกมนี้ทำให้ เซาธ์แฮมป์ตัน รอดตัวจากการทำลายสถิติหรือเทียบเท่าสถิติเลวร้ายของ ดาร์บี้
หนึ่งฤดูกาลผ่านไป ดูเหมือนว่า วูลฟ์แฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส กำลังป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ กับสถิตินี้อีกแล้ว
จากผลงาน 15 เกมแรกในฤดูกาล 2025-26 วูลฟ์แฮมป์ตัน เพิ่งเก็บได้เพียง 2 คะแนน เป็นทีมเดียวที่ยังไม่ชนะใครเลย เรื่องโอกาสอยู่รอดในพรีเมียร์ลีกคงไม่ต้องพูดถึงแล้ว แม้ยังไปไม่ถึงครึ่งซีซั่นก็ตาม
ภายใต้การคุมทีมของ วิตอร์ เปเรร่า วูล์ฟส์ เก็บได้เพียง 2 คะแนนจาก 10 เกมแรก และที่หนักกว่าเดิมคือผลงานของเฮดโค้ชคนใหม่ ร็อบ เอ็ดเวิร์ดส์ ที่ทำทีมแพ้รวด
แนวทางการเล่นต่อบอลสั้นของ วูลฟ์แฮมป์ตัน ใช้ไม่ได้ผลในฤดูกาลนี้ และยังมองไม่เห็นทรงที่จะกลับมาได้
การตามหลังพื้นที่สีขาว น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ห่างถึง 13 คะแนน กลายเป็นการตั้งโจทย์ยากเกินไปสำหรับ วูล์ฟส์ เพราะบรรดาทีมคู่แข่งยังคงทะยอยกันเก็บคะแนนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้น โจทย์ที่ดูเหมาะสมสำหรับ วูล์ฟส์ ที่จะต้องไปให้ถึงเป้าหมาย อาจเป็นสถิติ 11 คะแนนของ ดาร์บี้
จาก 23 เกมที่เหลืออยู่ เอ็ดเวิร์ดส์ จะต้องพาทีมเก็บให้ได้ขั้นต่ำ 10 คะแนน เพื่อหลีกเลี่ยงสถิติที่เลวร้าย และจะต้องค้นหาชัยชนะเกมแรกให้เจอเร็วที่สุด
ภายใต้การคุมทีมของ เอ็ดเวิร์ดส์ ก่อนหน้าเกมล่าสุดที่แพ้คาบ้านต่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบหมดรูป 1-4 สิ่งที่เห็นได้จากเกมแพ้ คริสตัล พาเลซ (เหย้า) 0-2, แพ้ แอสตัน วิลล่า (เยือน) 0-1 และแพ้ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ (เหย้า) 0-1 ก็คือการพยายามครองบอลสู้คู่แข่งได้อย่างสูสี
แต่สิ่งที่เป็นรองอย่างเห็นได้ชัดคือจังหวะสุดท้าย หรือโอกาสยิงประตู
นั่นคือสิ่งที่ เอ็ดเวิร์ดส์ จะต้องเปลี่ยนแปลง วูล์ฟส์ ให้ได้ ไม่ใช่แค่ฤดูกาลนี้ แต่อาจจะรวมถึงในแชมเปี้ยนชิพซีซั่นหน้า ตามสัญญาที่เซ็นยาวถึงสามปี
