'เสียงในหัว' แฟนเซลติก

วันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม 2568 คอลัมน์ Football Therapy โดย บี้ เดอะสปา
225
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
แฟนๆ เซลติก คงตั้งคำถามอยู่ในหัวว่าสโมสรกำลังคิดอะไรอยู่กับการตัดสินใจแต่งตั้งเฮดโค้ชคนใหม่

ภายหลังการปลด เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่ไม่สามารถควบคุมลูกทีมได้อีกต่อไปแล้ว แผนการของ เซลติก คือการมอบหมายให้ มาร์ติน โอนีล คุมทัพชั่วคราว และแต่งตั้งเฮดโค้ชคนใหม่โดยเร็วที่สุด

แต่ตอนนี้มีสองคำถามที่น่าสงสัย
หนึ่ง วิลฟรีด น็องซี่ หมอนี่คือใคร? แล้วทำไมถึงมาเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของบอร์ดบริหารสโมสร
สอง ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมหรือไม่ สำหรับการประเดิมคุมทีมในเกมสำคัญกับจ่าฝูง ฮาร์ทส์
เกมสุดท้ายในการคุมทีมของ ร็อดเจอร์ส คือเกมบุกแพ้ ฮาร์ทส์ 1-3 เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม สถานการณ์ตอนนั้นแฟนๆ เซลติก เริ่มกังวลใจหนักขึ้นเรื่อยๆ เพราะตามห่างถึง 8 คะแนน
การเข้ามากอบกู้ เซลติก ของ โอนีล ผลงานเป็นไปอย่างที่ทุกคนคาดหวัง ชนะรวดทั้ง 5 เกมในสกอตติช พรีเมียร์ชิพ ประกอบกับ ฮาร์ทส์ สะดุดขาตัวเองหลายเกม ทำให้ทั้งสองทีมกลับมามีคะแนนเท่ากัน แถม ม้าลายเขียวขาว เตะน้อยกว่า 1 เกมด้วย
เดิมที โอนีล มีกำหนดอำลาทีมตั้งแต่จบเกมบุกชนะ ฮิเบอร์เนียน 2-1 เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน แต่ปัญหาเรื่องเอกสารทำให้การมาถึงของ น็องซี่ ล่าช้า
โอนีล ต้องคุมทัพต่อในเกมกลางสัปดาห์ที่ เซลติก ชนะ ดันดี 1-0 แผนการประเดิมคุมทัพของ น็องซี่ จึงถูกขยับออกไปเป็นเกมใหญ่เปิดบ้านรับมือจ่าฝูง ฮาร์ทส์
การเปิดตัวในเกมสำคัญแบบนี้ เซลติก กำลังเผชิญความเสี่ยงโดยไม่จำเป็น เพราะผลงานของ โอนีล กำลังเข้าที่เข้าทางมากๆ แฟนบอลคงเห็นพ้องต้องกันว่าควรให้ผ่านเกมใหญ่เสียก่อน ถึงค่อยเริ่มต้นกับ น็องซี่
ว่าแต่ ย้อนกลับไปคำถามข้อที่หนึ่ง น็องซี่ เป็นใคร? มาจากไหน?
โค้ชชาวฝรั่งเศส (เชื้อสายกวาดาลูป, เซเนกัล, เคปเวิร์ด) วัย 48 ปี ไม่มีชื่อเสียงในฐานะนักฟุตบอล และมีประสบการณ์โค้ชอยู่แค่ระดับเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ สหรัฐอเมริกา
น็องซี่ เริ่มต้นกับ มอนทรีออล และสร้างชื่อกับ โคลัมบัส ครูว์ จนเป็นที่ยอมรับ จากการคว้าแชมป์เอ็มแอลเอส คัพ ซีซั่น 2023 และลีกส์ คัพ ซีซั่น 2024 กลายเป็นโค้ชยอดเยี่ยมแห่งปีของเอ็มแอลเอสในปี 2024
คำถามคือ ผู้บริหาร เซลติก รู้จักแนวทางการทำทีมของ น็องซี่ มากน้อยแค่ไหน? และพร้อมที่จะเสี่ยงในเกมสำคัญ ในช่วงเวลาที่โปรแกรมอัดแน่นแบบนี้เลยเหรอ?
น็องซี่ จัดทีมตัวจริง เซลติก เป็นครั้งแรกในระบบการเล่น 3-4-3
เซลติก ภายใต้การคุมทีมของ แอนจ์ พอสเตโคกลู และ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ยึดระบบการเล่น 4-3-3 มานานหลายฤดูกาลแล้ว อาจมีปรับเปลี่ยนไปบ้างเป็น 4-2-3-1 หรือ 4-4-2 ในระหว่างเกม
แต่การปรับเปลี่ยนมาเป็นระบบกองหลังสามคน ที่มีวิงแบ็ก สร้างความแตกต่างมากเกินกว่าที่จะติวเข้มลูกทีมในช่วงเวลาเพียง 2-3 วัน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผ่านประสบการณ์แบบนี้มาแล้วเมื่อเลือก รูเบน อาโมริม เป็นเฮดโค้ชคนใหม่ จนทุกวันนี้ก็ยังถูกตั้งคำถามเรื่องระบบการเล่นอยู่เลย ทุกครั้งที่ทีมแพ้
ผลการแข่งขันเป็นคำตอบของทุกอย่าง
เซลติก แพ้ ฮาร์ทส์ 1-2 และ เซลติก แพ้ โรม่า 0-3 ในเกมยูโรปา ลีก
สองเกมในบ้านที่หนักหนาเอาการอยู่ สำหรับการประเดิมเฮดโค้ชใหม่ ที่มาพร้อมระบบการเล่นและแท็กติกใหม่
สถานการณ์ในสกอตติช พรีเมียร์ชิพ ยังไม่น่ากังวลสักเท่าไหร่ แม้ เซลติก กลับไปตาม ฮาร์ทส์ 3 คะแนนอีกครั้ง แต่ ม้าลายเขียวขาว ยังมีเกมตกค้างอยู่ในมือ
ขณะที่ยูโรปา ลีก โอกาสลุ้นเข้ารอบ หรือไปต่อในรอบเพลย์ออฟ งานหนักทีเดียว สองเกมสุดท้ายในลีกเฟส เยือน โบโลญญ่า และเปิดบ้านรับมือ อูเทรคท์
แต่เชื่อว่าที่น่ากังวลสำหรับแฟนๆ เดอะ บอยส์ มากกว่าโปรแกรมการแข่งขันก็คือระบบการเล่น 3-4-3
เซลติก ยังเล่นไม่เป็นทรงเลย และไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนในการปรับตัว
น็องซี่ มีโอกาสงามๆ ที่จะได้ฉลองความสำเร็จแรกกับ เซลติก ทั้งที่ยังไม่ได้พิสูจน์ตัวเอง เพราะมีเกมรอบชิงชนะเลิศ สกอตติช ลีกคัพ พบกับ เซนต์ เมียร์เรน รออยู่ในวันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม
โอนีล พาทีมผ่านเกมหนัก โอลด์เฟิร์ม ดาร์บี้แมตช์ ที่ต้องเล่นถึงช่วงต่อเวลาพิเศษล้ม เรนเจอร์ส มาได้ในรอบรองชนะเลิศ เหลือแค่รอบชิงชนะเลิศเกมเดียวที่ น็องซี่ ห้ามพลาดอีกแล้ว
หาก น็องซี่ พา เซลติก เอาชนะ เซนต์ เมียร์เรน คว้าแชมป์ได้ตามเป้า สถานการณ์ที่กำลังกดดันก็จะคลี่คลายลงไปมาก แต่ถ้าหากไม่เป็นไปตามนั้น บอกได้คำเดียวว่า 'อยู่ยาก'

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด