หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ ซันเดอร์แลนด์ กำลังบินสูงอยู่ในเวลานี้ เกมในบ้าน แฟนบอล ทีมเวิร์ค และสปิริตในทีมที่สูงลิ่ว
ซันเดอร์แลนด์ คือทีมที่คว้าตั๋วใบสุดท้ายสู่พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2025-26 เป็นการฉกตั๋วมาจากมือของ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในช่วง 15 นาทีสุดท้ายของรอบชิงชนะเลิศ เพลย์ออฟ ที่เวมบลีย์
บทถูกขีดเขียนให้ตัวละครสุดท้ายคือ ซันเดอร์แลนด์ แต่ก็ถูกกำหนดให้เป็นทีมเต็งที่จะตกชั้นด้วย
หากพิจารณาจากผลงานในแชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2024-25 แน่นอนว่า ลีดส์ ยูไนเต็ด กับ เบิร์นลี่ย์ สองทีมที่เลื่อนชั้นอัตโนมัติ มีขุมกำลังที่แข็งแกร่งกว่า ซันเดอร์แลนด์ ไม่มากก็น้อย
การเสริมทัพอุตลุตในตลาดใหญ่หน้าร้อนของ ซันเดอร์แลนด์ จึงเกิดขึ้น
ผู้เล่นใหม่หลายคนทำผลงานได้ดีเกินคาด หนึ่งในนั้นคือ กรานิต ชาก้า กองกลางทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกยกย่องให้เป็นการเสริมทัพที่ดีที่สุดในช่วงซัมเมอร์
แต่หัวใจสำคัญที่สุดในการหลอมรวมผู้เล่นหน้าใหม่และหน้าเก่า ก็คือเฮดโค้ช เรจิส เลอ บริส
การเริ่มด้วยชัยชนะสองเกมแรกในรัง สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ ส่งผลต่อสภาพจิตใจและความมุ่งมั่นของทีมอย่างมาก
ผลงานในบ้านของ ซันเดอร์แลนด์ ยอดเยี่ยมเกินคาด จาก 8 เกมแรก ชนะ 5 เสมอ 3 ไม่มีแพ้ เกาะอยู่อันดับ 4 ของตาราง เป็นรองแค่สามทีมนำ อาร์เซน่อล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ แอสตัน วิลล่า
ขณะที่ผลงานเกมเยือน มีสองเกมในพรีเมียร์ลีกที่น่าจดจำ บุกชนะ เชลซี 2-1 วันที่ 25 ตุลาคม และบุกเสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 วันที่ 3 ธันวาคม
และเกมล่าสุด ไทน์-แวร์ ดาร์บี้แมตช์ ซันเดอร์แลนด์ มอบความสุขให้แฟนๆ เดอะ แบล็คแคตส์ ด้วยชัยชนะในบ้านเหนือ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 1-0
นี่คือชัยชนะเกมที่ 7 จาก 16 เกมแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2025-26 ทำให้ ซันเดอร์แลนด์ มี 26 คะแนนเท่ากับสองทีมใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล
ขณะเดียวกัน อีกสองทีมที่เลื่อนชั้นด้วยกันมา ลีดส์ ยูไนเต็ด อยู่อันดับ 17 เหนือพื้นที่สีแดงอันดับเดียว และห่างจากโซนตกชั้น 3 คะแนน
เบิร์นลี่ย์ อาการหนักมากขึ้น มีอยู่เพียง 10 คะแนน ตามพื้นที่สีขาวอยู่ถึง 6 คะแนน
นี่คือความแตกต่างที่เกิดขึ้น ท้ายสุดแล้ว ซันเดอร์แลนด์ อาจยืนระยะในการลุ้นพื้นที่ยุโรปไม่ถึงช่วงท้ายซีซั่น แต่การเริ่มต้นได้ดีขนาดนี้จาก 16 เกมแรก ก็ถือว่าน่ายกย่องมากๆ แล้ว
และที่สำคัญ ซันเดอร์แลนด์ คงไม่ต้องไปลุ้นหนีตกชั้น แบบที่ ลีดส์ และ เบิร์นลี่ย์ กำลังเผชิญอยู่
