:::     :::

ราคาที่ต้องจ่าย

วันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม 2567 คอลัมน์ ผีตัวที่ 13 โดย โกสุ่ย
637
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
สุดท้ายก็ต้องแยกจาก แต่เป็นการจากลาที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กระเป๋าฉีกอีกครั้ง

การแยกทางกับ เอริก เทน ฮาก ไม่ได้เป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย ซึ่งจะว่าไปแล้วเป็นการแยกจากกันที่ช้าเกินไปด้วยซ้ำ เพราะหากสโมสรยอมตัดสินใจให้จบ ๆ ตั้งแต่ช่วงปิดซีซั่นก็คงไม่ต้องแบกภาระค่าชดเชยมหาศาลที่ต้องจ่ายให้กุนซือชาวเนเธอร์แลนด์มากเท่านี้

จึงไม่แปลกที่หลายคนมองว่าเป็น 'ค่าโง่' ของฝ่ายบริหารยุคใหม่ที่ถูกมองว่าจะเข้าไปปฏิวัติสโมสร แต่ไม่ทันไรก็ดันเสียเงินมากเกินความจำเป็นทั้งที่ก่อนหน้านี้ไล่บี้ไล่ปลดพนักงานพร้อมเหตุผลต้องการประหยัดและลดค่าใช้จ่ายภยในสโมสร

แต่ลงท้ายดันมาเสียเงินมหาศาลกับการปลด 'อีทีเอช' และทีมงาน ซึ่งหอบเงินก้อนโตกลับไปใช้จ่ายที่เนเธอร์แลนด์แบบสบายใจ

กรณีนี้เข้าอีหรอบ 'เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย' และกลายมาเป็นจุดด่างพร้อยของบอร์ดบริหารที่ถูกชมนักชมหนาก่อนหน้านี้

ไหนจะเงินอีกราว ๆ 11 ล้านยูโรที่ต้องจ่ายให้ สปอร์ติ้ง ลิสบอน เพื่อดึง รูเบน อาโมริม มาเป็นเทรนใหม่ นี่จึงเป็นการลงทุนมหาศาล (อีกครั้ง) ซึ่งไม่มีอะไรการันตีว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามที่บอร์ดบริหารคาดหวัง

จะว่าไป ปิศาจแดง เหมือนสโมสรที่ถูกสาป เพราะตั้งแต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ลงจากตำแหน่งผู้จัดการทีม สโมสรดังแห่งถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้องห่างไกลจากคำว่า 'แชมป์' ลีก มาจนถึงตอนนี้ ไหนจะเงินจำนวนมหศาลที่ทุ่มลงไปแต่ผลตอบแทนนั้นแสนจะน้อยนิด 

แน่นอนว่ามีความสำเร็จเกิดขึ้นประปราย แต่คงไม่ผิดหากจะพูดว่าทีมทำได้ต่ำกว่าที่คาดหวังและโดนคู่แข่งทีมอื่น ๆ แซงหน้าไปไกลแล้วหากวัดจากเม็ดเงินจำนวนมากที่ใช้จ่ายในตลาดนักเตะหรือการจ้างกุนซือมาทำหน้าที่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ด้วยเรื่องราวของ เทน ฮาก กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ตอนนี้กลายเป็นอดีต พร้อมกับการรอรับอนาคตใหม่ภายใต้การนำของ รูเบน อาโมริม สิ่งที่แฟนบอล ผีแดง คาดหวังคือทรงการเล่นที่ต้องเป็นรูปเป็นร่างชัดเจนกว่าที่ผ่านมา

แม้ทาง เทน ฮาก เข้ามาพร้อมความคาดหวังรวมถึงการเล่นช่วงแรกที่ (เหมือนจะ) ดูดี แต่จนแล้วจนรอดทุกอย่างกลับไร้ทิศทางสะเปะสะปะไปเสียหมด 

การเปลี่ยนแปลงจึงจำเป็นต้องเกิดขึ้น แต่ด้วยค่าชดเชยที่ต้องเสียไป รวมถึงการทุ่มเงินเพื่อฉีกสัญญาของ อาโมริม กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ได้กลายมาเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ และอาจกลายมาเป็นดาบสองคมที่พร้อมทิ่มแทงสโมสรอีกครั้งในอนาคตหากทุกอย่างไม่เป็นไปดังหวัง

คนที่ต้องเข้ามาแบกรับภาระคือกุนซือคนใหม่ของสโมสรที่ไม่เพียงแค่การทำงานเพื่อผลักดัน แมนฯ ยูไนเต็ด ให้กลับาเข้ารูปเข้ารอยเท่านั้น แต่ยังต้องปะทะแรงกดดันที่จะโถมเข้ามาแบบไม่ให้ได้พัก ทั้งจากสื่อ แฟนบอล และฝ่ายตรงข้ามที่พร้อมจัดการนำ ปิศาจแดง มาเป็นตัวตลกผ่าน โซเชีย มีเดีย

หลายคนเอาชื่อมาทิ้งไว้ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด  (แต่กลับออกไปพ้อมเงินก้อนโต)  ส่วนกรณีของ อาโมริม คงไม่มีใครทราบจนกว่าจะได้ลองของกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 



คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})