ยุคสมัยที่แข้งสหราชอาณาจักรขายดี

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ชื่อว่าคือลีกฟุตบอลที่พลังดึงดูดสูงสุดเจ้าหนึ่งของโลก มีพลังกระชากนักเตะจากหลากซอกมุมของทั่วพิภพให้มาฟาดเกือกได้ 

ภาพจำครั้งวันวานเราจึงไม่ค่อยเห็นผู้เล่นจากสหราชอาณาจักรออกไปค้าแข้งให้ทีมชั้นนำอื่นนอกเกาะมากเท่าไหร่ เพราะสะดวกใจเตะยังแผ่นดินแม่ 

แม้แต่ผู้เล่นทีมชาติอังกฤษชุดที่ถูกขนานนามว่า ‘ยุคทอง’ (ยกเว้น เดวิด เบ็คแฮม) ยังมีช่วงเวลาที่ดีสุดของตัวเองบนลีกสูงสุดเมืองผู้ดี

ยกตัวอย่างขุมกำลังชุดลุย เวิลด์ คัพ 2010 ที่แอฟริกาใต้ นักเตะทุกคนของทีมล้วนค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 

ฟุตบอลโลกหนเดียวกันนั้นยังมีทีมชาติอิตาลีและทีมชาติเยอรมัน ที่ผู้เล่นซึ่งถูกเรียกตัวค้าแข้งในลีกประเทศตัวเองทั้งหมด  

เข็มนาฬิกาหมุนวนมาถึงปี 2025 ความเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่เกิดขึ้น เมื่อกลุ่มแข้งหัวกะทิจากสหราชอาณาจักรออกไปค้าแข้งต่างแดนกันมากขึ้น 

ยกตัวอย่างกองกลาง จู๊ด เบลลิงแฮม ผู้มีราคาประเมินสูงสุดของโลกจากเว็บไซต์ ทรานส์เฟอร์ มาร์เก็ต ที่ 180 ล้านยูโร ก็ค้าแข้งตลอด 6 ฤดูกาลหลังสุดนอกเกาะอังกฤษใต้เครื่องแบบ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ เรอัล มาดริด

แฮร์รี่ เคน กัปตันทีมชาติก็มาเตะกับ บาเยิร์น มิวนิค ครบ 2 ซีซั่นแล้ว 

ยิ่งปิดฤดูกาล 2025 กระแสแข้งอังกฤษขายดีไม่ว่า โจ๊บ เบลลิงแฮม ตามรอยพี่ชายสู่ ดอร์ทมุนด์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ออกจากคอมฟอร์ต โซน ที่ ลิเวอร์พูล สู่ เรอัล มาดริด 

หรือแม้แต่ ยาเรลล์ ควอนซาห์ แข้งทีมชาติอังกฤษ ยู-21 ยังจ่อไป ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น  

ตัวเลขสถิติคือสิ่งยืนยันได้ว่าแข้งจากสหราชอาณจักรกำลังเป็นเทรด์ซึ่งหลายค่ายยุโรปต้องการร่วมงาน 

ไล่ย้อนตั้งแต่ฤดูกาล 2011-12 จนถึง 2020-21 รอบทศวรรษพอดี

ระหว่างนั้นมีแค่ฤดูกาลเดียวคือ 2013-14 ที่การซื้อผู้เล่นจากสหราชอาณาจักรเกิน 100 ล้านยูโร

ทว่าตัวเลข 113 ล้านยูโร หักเป็นค่าตัวที่ เรอัล มาดริด จ่ายให้ สเปอร์ส แลก แกเร็ธ เบล ไปแล้วกว่า 101 ล้านยูโร 

กระแสแข้งผู้ดียังจุดไม่ติดเท่าไหร่ 

เพิ่งมาใน 2023-24 เทรนด์มาดี 

เพราะแค่ค่าตัว เคน จาก สเปอร์ส ไป บาเยิร์น มิวนิค (95 ล้านยูโร) หรือ จู๊ด จาก ดอร์ทมุนด์ สู่ มาดริด (113 ล้านยูโร) ก็ทะลุ 200 ล้านยูโร มีผลให้ซีซั่นดังกล่าวแข้งสหราชอาณาจักรจำหน่ายรวมกว่า 289 ล้านยูโร 

ซัมเมอร์ต่อมาแข้ง ยูเค ยังขายดี 

เด่นๆก็เช่น คอเนอร์ กัลลาเกอร์ จาก เชลซี ไป แอต.มาดริด 42 ล้านยูโร เท่ากับที่ อัล-อาห์ลี ซาอุดี สอย ไอแวน โทนี่ย์ จาก เบรนท์ฟอร์ด 

ทิศทางต่อเนื่องสวยๆถึงซัมเมอร์ 2025 เมื่อเปิดตลาดสั้นๆก่อนคลับ เวิลด์ คัพ ล่อกันแล้วกว่า 80 ล้านยูโร ดีลเด่นๆคือ โจ๊บ (30.5 ล้านยูโร) กับ เทรนท์ (10 ล้านยูโร)

พวกจ่อๆก็เช่น ควอนซาห์ ที่อาจขายได้แพงถึง 42 ล้านยูโร 

ไหนยัง เจดอน ซานโช่, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เตรียมส่งออกนอกเกาะอีก 

แล้วสถิติขายออกของบรรดารุ่นก่อนๆ แพงสุดเป็นอย่างไรบ้าง? 

ท็อปสามกล่าวไปแล้วทั้งสิ้นไม่ว่า จู๊ด (113 ล้านยูโร), เบล (101 ล้านยูโร)หรือ เคน (95 ล้านยูโร) เจ้าของตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยม บุนเดสลีกา เยอรมัน ในปีที่สองของเขากับ บาเยิร์น 

แต่มีคนหนึ่งที่ไม่เอ่ยถึงไม่ได้นั่นคือกองกลาง สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ จาก แมนฯ ยูไนเต็ด ไป นาโปลี ซีซั่นก่อน 30.5 ล้านยูโร 

แข้งสกอตต์มีอิทธิพลทันทีช่วย ‘อัซซูร์ร่า’ คว้าสคูเด็ตโต้สมัยที่ 4 ในประวัติศาสตร์สโมสร ทั้งคว้าตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลเซเรีย อา อิตาลี 

น่าติดตามจากนี้ใครจากสหราชอาณาจักรจะไปเด่นที่ต่างแดนอีก 

เอาใจช่วยเป็นพิเศษที่ศิษย์เก่า ‘หงส์แดง’ อย่าง เทรนท์ รวมถึงคนที่กำลังจะไปทั้ง ควอนซาห์ และ ‘ร็อบโบ้’