เหตุล้มเหลวของมาเรียโน่

วันศุกร์ที่ 18 เมษายน 2568 คอลัมน์ ลูกหนังนอกกรอบ โดย JOKE
642
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
มาเรียโน่ ดีอาซ เผยว่าเขาเลือกสวมเบอร์เสื้อ 7 ด้วยตัวเอง ก่อนกลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่สวมหมายเลขตำนานของ เรอัล มาดริด แย่สุดของสโมสร

มาเรียโน่ ดีอาซ อดีตกองหน้า เรอัล มาดริด ได้เปิดใจถึงช่วงเวลาที่ล้มเหลวระหว่างการค้าแข้งช่วงที่สองกับทัพ 'โลส บลังโกส' รวมถึงวิธีที่เขาถูกปฏิบัติจาก ซีเนดีน ซีดาน เทรนเนอร์ทีมชุดขาวในขณะนั้น

ที่สำคัญกว่านั้น มาเรียโน่ ยังพูดถึงแรงกดดันที่มากับการสวมหมายเลขระดับตำนานอย่างเบอร์ 7 หลังจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ย้ายออกจากถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว

เมื่อถูกถามว่าเขาเป็นคนตัดสินใจสวมเสื้อหมายเลข 7 หรือไม่ มาเรียโน่ ตอบว่า 'มันเป็นการตัดสินใจของผมเอง ผมตั้งเป้าหมายนี้ให้กับตัวเองด้วยการพยายามเล่นด้วยเสื้อเบอร์ 7'

'แต่ถ้าคุณไม่ได้เล่น มันเป็นเรื่องปกติที่คนจะวิจารณ์คุณมากมาย สิ่งนี้เกิดขึ้นกับ (เอแด็น) อาซาร์ และกับนักเตะคนอื่นๆในทีมอื่นๆด้วยเช่นกัน มันเป็นเพียงเรื่องของนักเตะที่จะได้ลงเล่นหรือไม่'

มาเรียโน่ เคยเป็นนักเตะเยาวชนของ เรอัล มาดริด ก่อนก้าวขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่เต็มตัวในซีซั่น 2016-2017 จากนั้นเขาย้ายไปค้าแข้งกับ โอลิมปิก ลียง และทำผลงานน่าประทับใจกับทีมดังฝรั่งเศส จนกระทั่งทัพ 'โลส บลังโกส' ใช้อ็อปชั่นดึงกลับมาร่วมทีมอีกครั้งในช่วงหน้าร้อนปี 2018

อย่างไรก็ตาม มาเรียโน่ ทำผลงานน่าผิดหวังในฤดูกาล 2018-2019 โดยทำเพียง 3 ประตูจากการลงเล่น 13 เกม 


เมื่อถูกถามว่าการสวมเสื้อหมายเลข 7 ของ เรอัล มาดริด มีส่วนทำลายชื่อเสียงของเขาหรือไม่ มาเรียโน่ ตอบว่า 'ไม่, บางครั้งสิ่งต่างๆก็เกิดขึ้นแบบนั้น ผมมาถึงมาดริดและพวกเขามอบเสื้อเบอร์ 7 แก่ผม ซึ่งเป็นหมายเลขในตำนานของ เรอัล มาดริด ที่สวมใส่โดยบรรดานักเตะระดับสตาร์ หลังจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทิ้งมันไป'

มาเรียโน่ ยังพูดถึงการถูกปลดออกจากตำแหน่งของ จูเลน โลเปเตกี และการมาถึงของ ซีเนดีน ซีดาน ซึ่งกลายเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้กองหน้าเชื้อสายโดมินิกันล้มเหลวในการค้าแข้งกับทีมชุดขาว

แต่กองหน้าวัย 31 ปีปฏิเสธที่จะยอมรับว่าการจากไปของ โลเปเตกี ก่อนเวลาอันควรมีผลต่อโชคชะตาของเขา โดยกล่าวว่า 'ไม่, เพราะสโมสรเดิมพันกับผมเช่นกัน ในท้ายที่สุด ทั้งสโมสรที่รู้จักผมอยู่แล้ว และ โลเปเตกี ซึ่งเป็นโค้ชคนใหม่ก็ต้องการผม'

'ผมชอบ จูเลน ในฐานะโค้ชจริงๆ ผมพูดแบบนั้นมาตลอด การถูกไล่ออกในช่วงเวลานั้น หลังจากเกม 'เอล กลาซิโก้' ที่ยากลำบากที่ คัมป์ นู มันเป็นเรื่องน่าเศร้า'

โลเปเตกี ถูกแทนที่โดย ซีดาน ซึ่งรู้จักเขาดีจากช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันที่ เรอัล มาดริด กาสตีย่า แต่ปฏิเสธที่จะมอบโอกาสแก่เขา เนื่องจากการมี คาริม เบนเซม่า เป็นกองหน้าตัวหลัก


'เบนเซม่า เป็นผู้เล่นหลักของเขา ผู้เล่นหลักของ มาดริด จากนั้นก็มีส่วนช่วงที่ (ลูก้า) โยวิช ได้รับโอกาส' มาเรียโน่ กล่าว 'แต่ก็มีหลายครั้งอย่างเช่น 'เอล กลาซิโก้' กับ บาร์เซโลน่า ที่ผมลงเล่นแทนเขา เขามีกองหน้าที่ลงเล่นตลอดเวลา และผมยังต่อสู้เพื่อโอกาสอยู่เสมอ'

'ท้ายที่สุดแล้ว โค้ชแต่ละคนต่างก็มีเดิมพันของพวกเขา เบนเซม่า ได้ลงเล่น เขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม สุดท้ายแล้ว นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น'

เมื่อถูกถามว่า ซีดาน มอบโอกาสให้เขาหรือไม่ มาเรียโน่ ตอบว่า 'ใช่, ผมเริ่มต้นฤดูกาลกับเขา จากนั้นเขาก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นโค้ชทีมชุดใหญ่'

'จากนั้นผมสามารถทำผลงานได้ดีมากในครึ่งหลังของฤดูกาล และผมขยายสัญญา หลังจากนั้นเมื่อผมเลื่อนขึ้นอยู่ทีมชุดใหญ่ แต่ผมไม่มีโอกาสมากนัก'

มาเรียโน่ ยืนยันว่าการเลือกอยู่กับ เรอัล มาดริด ต่อไปนั้นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง แม้ว่าทัพ 'โลส บลังโกส' จะเซ็นสัญญากับ เอแด็น อาซาร์ และ ลูก้า โยวิช ในช่วงซัมเมอร์ถัดมาก็ตาม 


'เมื่อฤดูกาลแรกจบลง ผมจำได้ว่าพวกเขาเซ็นสัญญากับ โยวิช และ อาซาร์ ด้วย มันเป็นโอกาสสำหรับผมที่จะจากไป ผมอยู่กับ เรอัล มาดริด ได้เพียงปีเดียว ผมต้องการประสบความสำเร็จที่ มาดริด ผมอยู่กับทีมต่อไปเพื่อต่อสู้เพื่อตำแหน่ง'

'ผมมีความสุขมากที่ได้กลับมา เรอัล มาดริด จากนั้นก็สวมเสื้อหมายเลข 7 และมีช่วงเวลาอื่นๆอีกมากมาย ได้สัมผัสประสบการณ์ทุกอย่างกับทีมดีที่สุดในโลก ครอบครัวของคุณ และความตื่นเต้นทั้งหมดที่ตามมาด้วย'

'การได้กลับไปยังสถานที่ที่ผมเติบโตขึ้นมาและเล่นฟุตบอล และไม่กี่วันต่อมา ในช่วงที่ผมลงประเดิมสนามในแชมเปี้ยนส์ลีก ผมมีโอกาสทำประตูที่ดีได้ นั่นเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก'

กองหน้าชาวโดมินิกันยังเปิดเผยว่า เซบีย่า เป็นทีมแรกที่แสดงความสนใจเขาตอนที่กำลังจะย้ายออกจาก ลียง แต่ เรอัล มาดริด มีสิทธิ์ที่จะเซ็นสัญญากับเขาก่อนตามอ็อปชั่น 

'ตอนนั้นผมไม่มีข้อสงสัยเลย สิ่งเดียวที่ผมรู้สึกเสียใจจริงๆคือ เซบีย่า พวกเขาเป็นทีมแรกที่สนใจผม ผมเข้าใจว่าเนื่องจากสภาวะตลาด มาดริด อาจไม่สามารถเข้ามาแทรกแซงได้จนกว่า เซบีย่า จะยื่นข้อเสนอเข้ามา ผมรู้สึกแย่มากจริงๆ เพราะพวกเขาสามารถโน้มน้าวผมได้'


มาเรียโน่ ยังเผยถึงความปรารถนาในการย้ายมาค้าแข้งกับ เซบีย่า ว่า 'ผมตื่นเต้นมากที่ได้เซ็นสัญญากับ เซบีย่า นี่คือสโมสรที่ผมรักมาตั้งแต่เด็ก'

อย่างไรก็ตามการย้ายไปสู่แคว้นอันดาลูเซียในช่วงซัมเมอร์ปี 2018 ไม่เกิดขึ้น หลัง เรอัล มาดริด เข้ามาพร้อมใช้สิทธิ์ตามอ็อปชั่น ซึ่งดาวยิงโดมินิกันไม่สามารถปฏิเสธโอกาสย้ายมาเล่นกับทีมดีที่สุดในโลก

'ผู้จัดการทั่วไป (โฆเซ่ อังเคล), โค้ช (โลเปเตกี) และ ประธาน (ฟลอเรนตีโน่ เปเรซ) โทรหาคุณและขอให้คุณกลับบ้าน ดังนั้นผมจึงกลับมาพร้อมความกระตือรือร้นและพยายามทำอย่างเต็มที่เพื่อทีมในฝันของผม'

ในที่สุด มาเรียโน่ ย้ายมาค้าแข้งกับ เซบีย่า สมความปรารถนาหลังสิ้นสุดสัญญาในช่วงซัมเมอร์ปี 2023 แต่เขาอยู่กับทีมดังแคว้นอันดาลูเซียเพียงฤดูกาลเดียว ก่อนถูกปล่อยตัวออกจากทีมและยังคงเป็นนักเตะไร้สังกัดมาจนถึงปัจจุบัน


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด