เปดรี้หวังเลียนแบบตำนาน'ชาบี-อีเนียสต้า'

เปโดร กอนซาเลซ โลเปซ เปดรี้ กำลังมีฤดูกาลดีที่สุดในอาชีพค้าแข้งของเขาและมิดฟิลด์วัย 22 ปีเป็นแรงผลักดันเบื้องหลังความสำเร็จของ บาร์เซโลน่า จนถึงตอนนี้
เปดรี้ มีบทบาทสำคัญในการคว้าแชมป์ ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า และ โกปา เดล เรย์ ในฤดูกาลนี้ของทีมอาซูลกราน่า โดยเขาเป็นคนทำประตูแรกในนัดชิงชนะเลิศ ก่อน บาร์เซโลน่า จะเบียดเข้าวินจากการทำประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษ 3-2 ของ ชูลส์ กุนเด้ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
จากความสำเร็จเมื่อวันเสาร์เป็นการจุดประกายความหวังในการไล่ล่า 'ทริเปิ้ลแชมป์' ของ บาร์เซโลน่า หลังทีมอาซูลกราน่าจะเป็นจ่าฝูง ลา ลีกา โดยทิ้ง เรอัล มาดริด อยู่ 4 คะแนนก่อนการลงเล่น 5 นัดสุดท้าย และทีมของ ฮันซี่ ฟลิค กำลังเตรียมตัวลงเล่นรอบรองชนะเลิศรายการแชมเปี้ยนส์ลีกกับ อินเตอร์ มิลาน ของอิตาลี
เมื่อไม่นานมานี้ เปดรี้ ได้เปิดใจผ่านสื่อเกี่ยวกับความทะเยอทะยานของเขา โค้ชของเขา และความทรงจำในวัยเด็กของเขาในฐานะแฟนบอล บาร์เซโลน่า
เมื่อพูดถึงความเป็นไปได้ในการคว้ารางวัล บัลลง ดอร์ ปีนี้ เปดรี้ กล่าวว่า 'นับตั้งแต่ โรดรี้ คว้ารางวัล บัลลง ดอร์ มาได้ มันก็ชัดเจนว่าผู้เล่นที่ควบคุมแดนกลาง และเป็นคนกำหนดจังหวะการเล่นได้นั้นสามารถคว้ารางวัลนี้ได้ ความฝันของผมคือการคว้ารางวัล บัลลง ดอร์ มาตลอด'
อย่างไรก็ตาม เปดรี้ ได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่าเขาโฟกัสอย่างเต็มที่ไปที่การคว้าแชมป์ร่วมกับทีม มากกว่าเกียรติยศส่วนตัว โดยกล่าวว่า 'ตอนนี้เหลือเวลาอีกหนึ่งเดือน และผมโฟกัสไปที่ทีมเป็นอันดับแรก การคว้าแชมป์ 3 รายการ และนั่นคือสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ หลังจากเดือนนี้สิ้นสุดลง เราจะดูว่าเราสามารถเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวได้หรือไม่'
เปดรี้ ยังพูดถึงความสัมพันธ์ของเขากับ ฮันซี่ ฟลิค เทรนเนอร์ชาวเยอรมันที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น โดยอธิบายถึงอิทธิพลของนายใหญ่วัย 60 ปีทั้งในและนอกสนามว่า 'ฟลิค เป็นเหมือนพ่อของเรา'
'เขาพยายามดูแลเราเสมอ เขาคอยสนับสนุนคุณถ้าคุณไม่ได้ลงสนาม และเขาพยายามช่วยเหลือคุณเสมอ'
'และนอกเหนือจากความเข้มงวด ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณสังเกตุเห็นได้จากภายนอก ด้านที่คุณมองไม่เห็นคือเขาคอยอยู่เคียงข้างคุณเมื่อคุณผ่านช่วงเวลาที่เลวร้าย เขาพูดคุยกับคุณและถามคุณว่าเป็นอย่างไรบ้าง'
มิดฟิลด์วัย 22 ปียอมรับว่าการปรับตัวให้เข้ากับการดันไลน์แนวรับขึ้นสูงของ ฟลิค นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยในช่วงแรกๆ โดยกล่าวว่า 'การปรับตัวให้เข้ากับไลน์แนวรับสูงนั้นยาก โดยเฉพาะเมื่อผมดูจากภายนอกระหว่างการเตรียมตัวก่อนเริ่มต้นฤดูกาล'
'แต่ตั้งแต่เริ่มต้น ผมคิดว่าทีมทำได้ดี และเมื่อคุณเห็นว่าแนวคิดของโค้ชประสบความสำเร็จ มันทำให้คุณมีความมั่นใจมากขึ้น'
เมื่อมองย้อนกลับไปถึงประสบการณ์ในช่วงแรกๆของเขาในฐานะแฟนบอล บาร์เซโลน่า มิดฟิลด์วัย 22 ปีหวนนึกถึงปี 2015 ที่ทัพอาซูลกราน่ายุค หลุยส์ เอ็นรีเก้ มาร์ตีเนซ ที่คว้าแชมป์ 3 รายการในปีดังกล่าว
'ผมจำนัดชิงชนะเลิศและการทำประตูของ (อีวาน) ราคิติช ได้อย่างชัดเจน มันเป็นเกมที่ผมสนุกมากกับสโมสรของแฟนบอล'
'มันเป็นนัดชิงชนะเลิศที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องขอบคุณสไตล์การเล่นของสามประสานแนวรุก (เนย์มาร์, หลุยส์ ซัวเรซ, ลีโอเนล เมสซี่) พวกเขาเป็นสตาร์ตัวจริงที่มีสถิติที่น่าเหลือเชื่อ และฟุตบอลของพวกเขาก็ดูสนุกมาก'
สำหรับแรงบันดาลใจของเขา เปดรี้ อธิบายว่าการชมตำนานอย่าง อันเดรส อีเนียสต้า และ ชาบี เอร์นานเดซ ช่วยหล่อหลอมพัฒนาการของเขาได้อย่างไร
'การชมการแข่งขันทางโทรทัศน์และวิดีโอของ อันเดรส และ ชาบี เป็นจำนวนมาก ผมคิดว่ามีบางอย่างฝังแน่นในตัวคุณ คุณพยายามเลียนแบบพวกเขา คุณพยายามฝึกซ้อมตามสไตล์ของพวกเขา แต่การจะไปถึงระดับนั้นเป็นเรื่องยาก'
'ดังนั้นคุณต้องพยายามพัฒนาตัวเองทุกวัน เพื่อว่าวันหน่งคุณอาจจะทำได้อย่างที่พวกเขาทำ ผมเคยดูวิดีโอของ อีเนียสต้า ซึ่งเป็นไอดอลของผมเยอะมาก และผมพยายามเลียนแบบสิ่งที่เขาทำ ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงบอลหรือการปกป้องบอล'
'บางครั้งคุณประสบความสำเร็จในการเลียนแบบเขา และบางครั้งคุณพบว่ามันยากเพราะมันไม่ง่าย แต่คุณพยายามต่อไปในวิธีดีที่สุด'
เปดรี้ ยังพูดถึงเรื่องที่ครอบครัวของเขา โดยเฉพาะพ่อของเขาที่ปลูกฝังความรักที่ลึกซึ้งต่อ บาร์เซโลน่า ให้กับเขามาตั้งแต่ยังเด็ก
'พ่อของผมปลูกฝังความรักต่อสโมสรให้กับผมมาตั้งแต่ผมยังเด็ก ผมมักจะไปดูการแข่งขันในสโมสรของแฟนบอลเสมอ และผมอยากให้พวกเขาชนะเสมอ และตอนนี้ผมสนุกกับมันจากใจจริง'
'ผมใช้ชีวิตตามความฝันทุกอย่าง และตอนนี้มันมีความหมายกับผมมาก'
สุดท้ายแล้ว เปดรี้ ยังพูดถึงเพื่อนร่วมทีมที่มีความสนิทสนมของเขา พร้อมชื่นชมคุณภาพของพวกเขาทั้งในและนอกสนาม
เริ่มต้นจาก ปาโบล มาร์ติน ปาเอซ กาบีร่า กาบี ว่า 'เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก ถ้าเขาอยู่กับคุณ เขาจะอยู่กับคุณจนวันตาย และพร้อมจะไปกับคุณในทุกที่ที่คุณต้องการ นี่คือลักษณะพื้นฐานในบุคลิกภาพของเขา'
ต่อด้วยการพูดถึง ดาเนียล โอลโม่ ว่า 'คุณมักจะพบเขาถูกล้อมรอบด้วยกองหลัง 4 คน และเพียงแค่สัมผัสเพียงครั้งเดียว จากนั้น 4 คนนี้ก็หายไป และเขาพบว่าตัวเองกำลังเผชิญหน้ากับประตู'
ก่อนจะพูดถึง เฟร์ราน ตอร์เรส ว่า 'เฟร์ราน เป็นเหมือนพี่ชายของผม ผมคิดว่าเขาเป็นคนที่ช่วยเหลือมากมากที่สุด ทั้งในและนอกสนาม นอกเหนือจากประตูที่เขาทำได้แล้ว เขายังเป็นคนทำงานหนักที่สุดในการฝึกซ้อมทุกครั้ง และพยายามพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ'
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT