มาเรสก้าพร้อมดวลครูชิงดำคอนเฟอเรนซ์ลีก

เอ็นโซ่ มาเรสก้า กุนซือชาวอิตาเลียนกำลังจะนำ เชลซี ลงเผชิญหน้ากับ เรอัล เบติส ในนัดชิงชนะเลิศรายการ คอนเฟอเรนซ์ ลีก ในวันพุธที่ 28 พฤษภาคมนี้ ซึ่งทีมสิงห์น้ำเงินกำลังลุ้นคว้าโทรฟี่แชมป์ยุโรปรายการที่ 5 ของสโมสร หลังเคยคว้าแชมป์ คัพวินเนอร์ส คัพ 2 สมัย (1970–1971, 1997–1998) และ แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย (2011–2012, 2020–2021) 

มาเรสก้า จะนำทีมสิงห์น้ำเงินลงดวลฝีมือกับ มานูเอล หลุยส์ เปเยกรีนี่ ในฐานะกุนซือครั้งแรก หลังเคยเป็นลูกทีมของเทรนเนอร์ชาวชิลีที่ มาลาก้า (2011-2012) รวมถึงการทำงานฐานะผู้ช่วยของนายใหญ่ทีมเบตีโก้ตอนทำงานกับ เวสต์แฮม ในซีซั่น 2018-2019 ซึ่งถือเป็นความท้าทายของกุนซือชาวอิตาเลียน

'มันพิเศษอย่างที่คุณพูด ผมใช้เวลา 4 ปีกับ มานูเอล เขาคือบุคคลอ้างอิงสำหรับผม เพราะอาชีพของเขา เพราะประวัติศาสตร์ของเขา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะในแง่ความเป็นมนุษย์ เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยม ผมนิยามเขาเหมือนมืออาชีพชั้นครู เพราะหลายครั้งที่ผมต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ เรามักจะติดต่อกัน' มาเรสก้า กล่าว

เมื่อถูกถามว่าเขาจะพูดคุยกับ เปเยกรีนี่ ก่อนหน้าเกมหรือไม่ 'ผมคุยกับ มานูเอล ก่อนหน้านี้แล้ว บอกตามตรง เราสนิทกันมาก เราพูดคุยกันมามากแล้วในอดีต และเราจะพูดคุยกันต่อไปทั้งในปัจจุบันและอนาคต'

ก่อนการลงเล่นนัดชิงชนะเลิศคอนเฟอเรนซ์ลีก เชลซี ยังมีโปรแกรมเยือน น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ในเกมปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีกวันอาทิตย์นี้ เมื่อถูกถามว่าเขาบอกอะไรกับนักเตะบ้าง 

มาเรสก้า ตอบว่า 'ผมยังไม่ได้พบนักเตะตั้งแต่เกมกับ แมนฯยูไนเต็ด ดังนั้นผมจะพบพวกเขาวันนี้เพราะเมื่อวานผมไม่ได้มาที่นี่ด้วยเหตุผลส่วนตัว แล้ววันเสาร์และวันอาทิตย์ เราจะหยุด ดังนั้นวันนี้ผมจะพบกับนักเตะ และโฟกัสอยู่ที่ช่วงเวลานี้เพื่อเตรียมตัวให้พร้อม แล้วหลังหลังจากนัดสุดท้ายของฤดูกาล เราจะโฟกัสไปที่นัดชิงชนะเลิศ'

เมื่อถูกถามว่าเขาเคยเล่นร่วมกับ อีสโก้ อาลาร์กอน เพลย์เมกเกอร์คนดังของ เรอัล เบติส ตอนค้าแข้งด้วยกันที่ มาลาก้า ใช่ไหม มาเรสก้า ตอบว่า 'ใช่,  เขาเป็นนักเตะระดับท็อป อีสโก้ เป็นนักเตะระดับท็อป อาชีพค้าแข้งของเขาบ่งบอกด้วยตัวมันเอง หลายปีกับ เรอัล มาดริด เราเล่นด้วยกันตอน อีสโก้ ยังเด็กมาก เขาย้ายจาก บาเลนเซีย มาอยู่กับเรา เราเป็นทีมระดับท็อป กองหน้าคือ รุด ฟาน นิสเตลรอย เรามี อีสโก้, เรามี ฆัวกิน (ซานเชซ), เรามี ซานติ กาซอร์ล่า และผม นั่นเป็นทีมระดับท็อป'

เมื่อถูกถามว่าเขาพอใจกับเวลาการเตรียมตัวสำหรับนัดชิงชนะเลิศ คอนเฟอเรนซ์ ลีก หรือไม่ หลัง เชลซี ต้องลงเล่นวันอาทิตย์ ขณะที่ เรอัล เบติส ได้ลงเล่นตั้งแต่วันศุกร์

'ผมไม่พอใจ 100 เปอร์เซ็นต์ คุณไม่สามารถปล่อยให้ทีมอื่นมีเวลาพักมากกว่าอีกทีมถึง 48 ชั่วโมง เมื่อคุณต้องลงเล่นนัดชิงชนะเลิศของการแข่งขันระดับยุโรป ดังนั้นคุณคิดว่าคุณคิดได้รับอนุญาตหใเล่นในวันศุกร์หรือไม่? หรือพวกเขาจะลงเล่นในวันอาทิตย์เหมือนเรา'

เมื่อถูกถามถึงการเลือก 11 ตัวจริงที่แข็งแกร่งสุดในนัดชิงชนะเลิศ มาเรสก้า ตอบว่า 'เราพยายามจะใช้ 11 ตัวจริงที่แข็งแกร่งสุดในแต่ละเกม ดังนั้นหากระหว่างฤดูกาล เราเล่นในคอนเฟอเรนซ์ลีกกับทีมอื่นหรือผู้เล่นที่แตกต่าง แต่เราแน่ใจในตอนนั้นว่าในเกมนั้นไม่ใช่เกมที่แข็งแกร่งสุด เราคงต้องรอดูในนัดชิงชนะเลิศ'

ต่อด้วยการพูดถึงการเลือกผู้รักษาประตูที่จะลงเฝ้าเสาในเกมชิงชนะเลิศ คอนเฟอเรนซ์ลีก ว่า 'ใช่, ตอนนี้ ฟิลิป (ยอร์เกนเซ่น) จะได้ลงเล่นนัดชิงชนะเลิศ'

'เพราะเขาลงเล่นตลอดการแข่งขัน ดังนั้นตอนนี้มันไม่ยุติธรรมเลยที่คุณเข้ารอบชิงชนะเลิศแล้วและเขาไม่ได้ลงเล่นเกมชิงดำ ดังนั้นสำหรับเกมกับ เบติส จะเป็น ฟิลิป กับนักเตะอีก 10 คน ผมไม่รู้ว่าคนไหนบ้างกับอีก 10 คนที่เหลือ แต่แน่นอนว่า ฟิลิป จะได้เล่นเพราะเขาสมควรเล่นในรอบชิงชนะเลิศ'

เมื่อถูกถามว่าเขาเตรียมตัวรับมือกับแรงกดดันอย่างไร มาเรสก้า ตอบว่า 'เป้าหมายหลักคือแน่นอน สำหรับคนๆนั้นมันสำคัญ แต่เป้าหมายหลักคือการคว้าชัยชนะในการแข่งขันระดับยุโรปอีกครั้งกับ เชลซี ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญสำหรับสโมสรในช่วงเวลานี้ สำหรับแฟนๆ สำหรับทุกคน'

'เพราะมันหมายความว่าเรากำลังเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง และโดยส่วนตัวแล้ว ผมจะพยายามเตรียมเกมให้เหมือนกับที่ผมเตรียมพร้อมสำหรับเกมอื่นๆทั้งหมด เพราะผมคิดว่าทุกเกมต่างมีความสำคัญ'

'แน่นอนว่ามันเป็นนัดชิงชนะเลิศที่ตอนท้ายจะตัดสินด้วยตำแหน่งแชมป์ แต่เราจะพยายามเตรียมพร้อมสำหรับเกมให้ดีที่สุดและหวังว่าเราจะคว้าแชมป์'

เมื่อถูกถามว่า มานูเอล หลุยส์ เปเยกรีนี่ พูดอะไรกับคุณบ้างโดยเฉพาะการช่วยเหลือคุณในฐานะโค้ช กุนซือวัย 45 ปีตอบว่า 'ผมพยายามเรียนรู้สิ่งต่างๆ จากผู้จัดการทีมทุกคน แน่นอนว่าถ้าวันนี้ผมอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ก็เป็นเพราะ มานูเอล ด้วยเช่นกัน สิ่งต่างๆที่ผมเรียนรู้จากเขาในแง่ของการจัดการนักเตะ การจัดการห้องแต่งตัว การจัดการสถานการณ์ที่ยากลำบาก เสียงรอบๆสโมสร'

'เขาเป็นบุคคลอ้างอิง เขามีความใกล้ชิดมากในวิธีการจัดการสิ่งต่างๆกับ คาร์โล อันเชล็อตติ ดังนั้นพวกเขาจึงค่อนข้างใกล้เคียงกันในแง่นั้น'

'ผมจึงพยายามเรียนรู้หลายๆอย่าง จากนั้นผมเคยเป็นลูกทีมเขา 2 ปี และทำงานร่วมกับเขาในฐานะโค้ชอีก 2 ปี ดังนั้นสำหรับผมมันเป็นเวลาเพียงพอที่จะพยายามเรียนรู้จากเขาให้มากที่สุดเท่าที่ผมสามารถทำได้'

เมื่อถูกถามว่า มานูเอล หลุยส์ เปเยกรีนี่ ควรเป็นหนึ่งในโค้ชที่ยอดเยี่ยมหรือไม่ มาเรสก้า ตอบว่า 'ถ้าดูประวัติของเขาแล้วกับ เรอัล มาดริด, เคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับ แมนฯซิตี้,  รองแชมป์กับ บียาร์เรอัล, รอบก่อนรองชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีก, รอบรองชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกกับ มาลาก้า และตอนนี้กับ เรอัล เบติส, แน่นอนเขาสมควรเป็นยอดโค้ช'

การเผชิญหน้ากันในนัดชิงชนะเลิศ คอนเฟอเรนซ์ ลีก จะทำให้มิตรภาพระหว่างเขากับ เปเยกรีนี่ เกิดความตึงเครียดหรือไม่ มาเรสก้า ตอบว่า 'ใช่ เราทั้งคู่ต่างต้องการชัยชนะ แต่เขาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเตรียมเกมและคว้าชัยชนะ ผมจะทำเหมือนกันทุกประการ และสิ่งที่ดีคือไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหลังจากเกมในแง่ของความสัมพันธ์'

'ผมบอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่าเราสนิทกับ มานูเอล มาก เราอาศัยอยู่ที่เดียวกัน เมื่อเราไม่ได้ทำงาน เราก็อาศัยอยู่ที่เดียวกัน เราอาศัยอยู่ใกล้กันมากในสเปน'

'ดังนั้นมันไม่ใช่แค่เรื่องความสัมพันธ์ในฟุตบอลเท่านั้น มันคือความสัมพันธ์ในชีวิต และอายุของ มานูเอล ก็เท่ากับอายุพ่อของผม ดังนั้นเมื่อก่อนผมมักจะนั่งข้างคนที่อายุมากกว่าผม เพราะพวกเขาสามารถสอนเราได้ตลอดเวลา เพราะพวกเขามีประสบการณ์มากกว่าเรา'

'มานูเอล จึงไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมงานสำหรับผม เขาคือบุคคลอ้างอิงและเป็นคนระดับท็อป ดังนั้นคุณจึงใช้ช่วงเวลาหน้าร้อนด้วยกัน เขามาที่สระว่ายน้ำ บาร์ และที่อื่นๆอีกมากมาย'