การเริ่มต้นบทใหม่ของอลอนโซ่

เรอัล มาดริด เปิดตัว ชาเบียร์ อลอนโซ่ ในฐานะเทรนเนอร์คนใหม่ หลังอดีตมิดฟิลด์และตำนานสโมสรวัย 43 ปีเข้ามารับงานต่อจาก คาร์โล อันเชล็อตติ ที่อำลาทีมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังการนำทีมชุดขาวเอาชนะ เรอัล โซเซียดาด 2-0 ในเกมส่งท้ายฤดูกาล

อลอนโซ่ จะเริ่มงานอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้ โดยจะคุม เรอัล มาดริด ลงทำศึก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ที่จะแข่งขันกันในช่วงวันที่ 14 มิถุนายนจนถึงวันที่ 13 กรกฎาคม ซึ่งเทรนเนอร์วัย 43 ปีคาดหวังถึงการนำทีมชุดขาวคว้าแชมป์รายการนี้ในการเริ่มต้นอาชีพของเขาที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว

เทรนเนอร์วัย 43 ปีได้พูดถึงความพิเศษในวันนี้สำหรับเขาว่า 'มันเป็นวันที่น่าตื่นเต้นมาก เป็นวันที่น่าจดจำ ผมคิดว่ามีเพียงครั้งเดียวในชีวิตที่คุณสามารถคุม เรอัล มาดริด และวันนี้คือวันแรก'

'ผมรู้สึกภาคภูมิใจ มีความรับผิดชอบ และมีพลังงาน ผมตั้งตารอที่จะเริ่มต้นขั้นตอนใหม่'

เมื่อถูกถามว่ามีเรื่องให้กังวลหรือไม่ที่ต้องมารับงานต่อจาก อันเชล็อตติ, อลอนโซ่ ตอบว่า 'ไม่, เห็นได้ชัดว่า มาดริด มีความต้องการสูงสุด และคุณต้องยอมรับความท้าทายนี้'

'แต่มันเป็นความท้าทายที่ยอดเยี่ยมมาก และเราสามารถทำสิ่งต่างๆที่จะทำให้แฟนมาดริดตื่นเต้น ซึ่งจะทำให้ผู้คนตื่นเต้น นั่นคือสิ่งที่เราอยู่ที่นี่ ผมแน่ใจว่าเรามีพลังงานที่เราต้องการ'

เมื่อพูดถึงตอนที่เขาตัดสินใจรับงาน เรอัล มาดริด, อลอนโซ่ กล่าวว่า 'มันต้องเกิดขึ้นทั้งสองทาง นั่นคือ มาดริด ต้องการคุณ และคุณต้องการให้พวกเขาต้องการคุณ ตั้งแต่เมื่อวานเป็นต้นมา ผมถือว่าตัวเองเป็นโค้ชของ เรอัล มาดริด'

'ผมรู้สึกถึงพลังงาน ความตื่นเต้นนั้นเมื่อประกาศอย่างเป็นทางการ วันนี้มันมากกว่านั้นอีก ขั้นตอนต่อไปคือการอยู่กับนักเตะ ผมเคยอยู่กับพวกเขาบางคนแล้ว และกับคนอื่นๆ ผมจะต้องอยู่กับพวกเขา แต่ผมรู้สึกถึงมันแล้ว'

เมื่อพูดถึงการตัดสินใจรับงานก่อนการแข่งขัน ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ อลอนโซ่ อธิบายว่า 'สถานการณ์ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว ผมมองว่ามันเป็นโอกาสด้วยสองเหตุผล ประการแรกคือเพื่อก้าวไปข้างหน้าในกระบวนการ อีกประการคือการต่อสู้เพื่อแชมป์อีกครั้ง นี่เป็นการแข่งขัน คลับ เวิลด์ คัพ ครั้งแรก มีความทะเยอทะยานอยู่ที่นั่น'

เมื่อถูกถามว่าเขารู้ได้อย่างไรว่าพร้อมสำหรับการทำงานกับสโมสรอย่าง เรอัล มาดริด, เทรนเนอร์วัย 43 ปีตอบว่า 'ผมรู้สึกได้ ผมรู้สึกว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ทุกส่วนทำงานร่วมกันได้ดี แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือเพื่อผู้คน ผู้คนตื่นเต้น พวกเขาจินตนาการและต้องการเชื่อ และนั่นทำให้มีพลังมาก จากนั้นคุณต้องทำงานเพื่อมัน แต่มันเป็นช่วงเวลาที่ดี'

ทุกอย่างดำเนินไปตามแผนการย้ายทีมอย่างรวดเร็ว เมื่อถูกถามว่าเขาจะขอให้สโมสรเซ็นสัญญากับมิดฟิลด์คนใหม่ในช่วงซัมเมอร์นี้หรือไม่ อลอนโซ่ ตอบว่า 'หน้าที่ของเราคือต้องการพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ดังนั้นเนื่องจากผมเป็นโค้ชของ มาดริด ผมจึงต้องการมีการสื่อสารและวิสัยทัศน์กับสโมสรเพื่อให้บรรลุฉันทามติว่าเราต้องการพัฒนาตัวเองอย่างไร'

'ทีมนี้ดีมาก และผมต้องการเริ่มทำงานกับพวกเขา ผมตั้งตารอจะทำงานเป็นทีมและสามารถพัฒนาตัวเองได้'

เมื่อถูกถามว่าเขาคิดว่า เรอัล มาดริด ต้องปรับปรุงอะไรบ้างในอนาคต อลอนโซ่ ตอบว่า 'ผมวิเคราะห์แล้วว่าทีมเล่นได้ดีแค่ไหน นักเตะเป็นอย่างไร และผมใช้ข้อมูลนั้นมาช่วยในการคิดของผม ในฐานะโค้ช เราพึ่งพานักเตะ และผมคิดว่านักเตะอยู่ในระดับสูง'

'ความท้าทายคือการสร้างทีมขึ้นมา เพื่อดึงศักยภาพออกมาจากนักเตะเหล่านี้และเราทุกคนร่วมมือกัน หากเราทุกคนร่วมมือกัน เราจะมีพลังที่แข็งแกร่งมาก'

เกี่ยวกับการจากไปของตำนานสโมสรและอดีตเพื่อนร่วมทีมของเขาอย่าง ลูก้า โมดริช เทรนเนอร์วัย 43 ปีกล่าวว่า 'ผมไม่ค่อยเป็นกลางกับ ลูก้า เพราะพวกเราเป็นเพื่อนร่วมทีมกัน และเมื่อเขามาถึง พวกเราเข้ากันได้ดี เขากลายเป็นคอนดักเตอร์ของวงออร์เคสตรา เขาคือตำนาน'

'การได้เห็นการอำลาเมื่อวันก่อนทำให้คุณรู้สึกภาคภูมิใจ ผมอยู่กับเขามาสักพักแล้ว ผมโชคดีมากที่มีโอกาสเป็นโค้ชให้เขาในศึก คลับ เวิลด์ คัพ ถือเป็นสิทธิพิเศษอย่างหนึ่ง'

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับแผนการดึงเอาสิ่งดีที่สุดออกมาจาก วินิซิอุส จูเนียร์ และ คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ อย่างไร อลอนโซ่ ตอบว่า 'โชคดีที่เรามีผู้เล่นในระดับนั้น ไม่ใช่แค่ คีลียัน หรือ วินิซิอุส เท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายคน พวกเขามีความแตกต่างกัน พวกเขาสร้างความแตกต่าง และเราต้องดึงทุกอย่างที่พวกเขามีออกมาจากพวกเขา ผมมีไอเดียอยู่แล้ว'

'ยังมีเวลาอีกมากก่อนที่เราจะได้พบกับพวกเขา แต่สำหรับผมแล้ว การสื่อสารถึงสิ่งที่เราต้องการนั้นสำคัญมาก พวกเขาเป็นนักเตะระดับท็อป และนั่นคือหน้าที่ของผม'

เมื่อถูกถามว่าเขามีส่วนร่วมในการตัดสินใจเรื่องการซื้อขายนักเตะหรือไม่ อย่างเช่นการมาของ ดีน เฮาเซ่น และการจากไปของ โมดริช เทรนเนอร์วัย 43 ปีตอบว่า 'เราตกลงและหารือกันเรื่องนี้แล้ว มีเรื่องที่ผมประทับใจและเรื่องที่ไม่ประทับใจ แต่นั่นจะเป็นแนวทาง ตอนนี้ผมกำลังดำเนินการตัดสินใจอย่างเป็นทางการแล้ว'

อลอนโซ่ ยังพูดถึง โรดรีโก้ โกเอส หลังมีการคาดเดากันมากมายเกี่ยวกับอนาคตของแนวรุกวัย 24 ปีว่า 'โรดรีโก้ เป็นนักเตะของ เรอัล มาดริด และผมจะพูดคุยกับทุกคนที่เป็นนักเตะของ เรอัล มาดริด พวกเขาสมควรได้รับสิ่งนี้และเราต้องการสิ่งนี้ โรดรีโก้ เป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม เราต้องการเขา'

เมื่อถูกถามถึงตำแหน่งการเล่นของ จูด เบลลิงแฮม เทรนเนอร์ป้ายแดงของมาดริดตอบว่า 'เราสามารถทำสิ่งพิเศษได้ทุกพื้นที่เพราะเขาเป็นผู้เล่นพิเศษ เขาเป็นผู้เล่นแห่งยุคของ เรอัล มาดริด เขาอายุ 21 ปีและเขาจะเป็นพื้นฐานสำหรับโปรเจ็กท์ใมนอนาคตของสโมสรแห่งนี้'

'เขาอยู่ในช่วงเวลาที่ดีในการทำงานร่วมกับเขา ผมมองว่าเขาเป็นกองกลาง เราจะพยายามทำให้เขามีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้'

มีการคาดเดากันว่า อลอนโซ่ จะเลือกใช้แนวรับ 3 คนเหมือนตอนที่เขาทำงานกับ เลเวอร์คูเซ่น เมื่อถูกถามถึงแผนที่เขาจะใช้กับทัพ 'โลส บลังโกส' อย่างไร 

'นั่นเป็นคำถามที่ดี และผมชอบมัน เพราะฟุตบอลสมัยนี้ต้องการให้คุณมีความยืดหยุ่นและคล่องตัว มันต้องการให้คุณรู้ว่าจะเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนต่างๆอย่างไร ผมมีแนวคิดว่าเขาต้องการเล่นอย่างไร แต่ภาพที่แน่นอนของระบบสามารถเปลี่ยนแปลงได้'

'ผมต้องการให้ทีมถ่ายทอดอารมณ์ร่วม, พลังงาน, เล่นอย่างทะเยอทะยานและเชื่อมต่อกับผู้คน ความสัมพันธ์แบบพึ่งพาอาศัยกันที่เรามองหาเป็นพื้นฐานสำหรับการเริ่มต้นสเตจได้ดี ผมอยากปรับปรุงศักยภาพของทุกคนเพื่อเชื่อมโยงชิ้นส่วนต่างๆเข้าด้วยกัน'

เมื่อถูกถามถึงความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับระบบเพรสซิ่งสูง อลอนโซ่ กล่าวว่า 'สิ่งที่ผมชอบคือเรารู้วิธีเลือกช่วงเวลา ด้วยแนวคิดที่ว่าต้องรู้วิธีทำ รู้ว่าต้องควบคุมอย่างไร และรู้ว่าต้องทำอะไร'

'แต่เราต้องรู้วิธีจัดการกับบริบทต่างๆ มองหาการเพรสสูง และถอยหนีเมื่อจำเป็น แต่แนวคิดของเกมที่ทะเยอทะยานและกระตือรือร้นที่รู้วิธีที่จะริเริ่ม เรามีนักเตะที่จะทำแบบนั้น'

เมื่อพูดถึงโค้ชที่มีอิทธิพลต่อปรัชญาของเขา อลอนโซ่ กล่าวว่า 'ผมเคยพูดมาก่อนแล้วว่าบางทีการที่ผมมาอยู่ที่นี่ก็ต้องขอบคุณพวกเขาทุกคน ผมโชคดีที่มีโค้ชที่ดีมาก ผมพยายามอยู่ใกล้ชิดพวกเขาและพยายามเข้าใจพวกเขา'

'พ่อของผมซึ่งเป็นโค้ชน่าจะเป็นคนที่มีอิทธิพลมากที่สุด สำหรับโค้ชทุกคน คุณต้องมีความเป็นมืออาชีพ มีสมุดเล่มเล็กๆของผม ผมมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเขาทุกคน'

แนวรับที่เปราะบางของ เรอัล มาดริด เป็นประเด็นที่น่ากังวลในฤดูกาลที่ผ่านมา เมื่อถูกถามถึงแผนของเขาในการแก้ไขปัญหานี้ในอนาคต อลอนโซ่ ตอบว่า 'ผมได้ดูเกมและวิเคราะห์มันแล้ว ตอนนี้ผมกำลังคิดว่าจะสร้างทีมที่สมดุลได้อย่างไร เราทุกคนรู้ว่าเราต้องการทำอะไร นั่นจะช่วยให้เรามีความมั่นคงที่ทำให้คุณภาพของแต่ละคนพัฒนาขึ้น'

อลอนโซ่ ยังกล่าวเสริมถึงแผนของเขาสำหรับการเล่นเกมรุกของทีมชุดขาวว่า 'ฟุตบอลเป็นเกมที่มีความคล่องตัว ผมต้องการให้เราตีความ และผมต้องการให้นักเตะสามารถเล่นในจุดที่พวกเขารู้สึกสบายใจที่สุดเ ที่ที่พวกเขาสามารถแสดงคุณสมบัติทางกายภาพ, แท็คติก และจิตใจของพวกเขา'

'สิ่งที่ดีคือการมีนักเตะที่ดี จากนั้นมันก็เป็นปัญหาของผมแล้วล่ะ (หัวเราะ)'

เมื่อพูดถึงแนวทางการจัดการนักเตะ อลอนโซ่ ตอบว่า 'ผมไม่ชอบอธิบายตัวเองมากเกินไป แต่ผมต้องการความใกล้ชิดและความสนิทสนมกับนักเตะ ผมต้องการเชื่อมโยงเพื่อรับรู้ถึงความเป็นไปของทีม และความต้องการของผู้เล่นแต่ละคน ผมรู้ว่าผมต้องทำอะไร ผมรู้ว่าผมคือโค้ช ผมอยากอยู่ใกล้ชิดพวกเขา'

ส่วน ฟลอเรนตีโน่ เปเรซ ประธานทีมชุดขาวได้กล่าวต้อนรับเทรนเนอร์คนใหม่ของเขาว่า 'นั่นคือเหตุผลว่าทำไมวันนี้จึงเป็นวันที่พิเศษมาก โค้ชมาถึงแล้ว เขาเป็นหนึ่งในโค้ชดีที่สุดในโลก และใครจะรู้ว่า เรอัล มาดริด คืออะไร เสื้อตัวนี้มีความหมายอย่างไร วันนี้เรายินดีต้อนรับหนึ่งในคนของเรา ชาบี อลอนโซ่'

จากนั้น ฟลอเรนตีโน่ ยังเล่าถึงช่วงเวลาที่ อลอนโซ่ อยู่กับ เรอัล มาดริด ในฐานะนักเตะและความสำเร็จของเขา พร้อมแสดงความหวังว่าเทรนเนอร์วัย 43 ปีจะนำทีมไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในฐานะโค้ชได้เช่นกัน

'ชาบี ที่รัก, ยินดีต้อนรับสู่บ้านของคุณ ยินดีต้อนรับสู่ เรอัล มาดริด ผมแน่ใจว่าวันนี้คุณกำลังมีช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นมาก คุณแสดงให้เห็นแล้วว่าเมื่อคุณมาถึงในปี 2009 เพื่อปกป้องเสื้อตัวนี้ คุณคว้าแชมป์มาแล้ว 6 รายการ ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์ของ เรอัล มาดริด'

'คุณยังเป็นหนึ่งในตำนานที่ยิ่งใหญ่ของทีมชาติสเปนอีกด้วย กับการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2010 และแชมป์ยุโรป 2 สมัย แต่ตอนนี้คุณกำลังกลับบ้าน'

'เราทุกคนต่างทราบดีว่าโชคชะตาของคุณจะเป็นอย่างไรเมื่อคุณคุมทีม อินฟานตีล อา (ยู-14 ของ เรอัล มาดริด) คุณประสบความสำเร็จบางอย่างซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์ของฟุตบอลเยอรมนีไปแล้ว นั่นคือการคว้าแชมป์บุนเดสลีกากับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น'

'เส้นทางนี้ทำให้คุณเป็นหนึ่งในบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการฟุตบอลและเป็นหนึ่งในโค้ชดีที่สุดในโลก วันนี้คุณกลับมาที่ มาดริด ในฐานะโค้ชทีมชุดใหญ่เพื่อเผชิญความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต'