ความทะเยอทะยานของ'ฟลิค'

ฮันซี่ ฟลิค เริ่มต้นงานเทรนเนอร์ปีแรกของ บาร์เซโลน่า อย่างยอดเยี่ยมด้วยการนำทัพอาซูลกราน่าคว้าแชมป์ 3 รายการในประเทศทั้ง ลา ลีกา, โกปา เดล เรย์ และ ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า จนกระทั่งได้รับรางวัลตอบแทนด้วยสัญญาใหม่อีกหนึ่งปีขยายเพิ่มไปจนถึงปี 2027
หลังจากเข้ามารับงานต่อจาก ชาบี เอร์นานเดซ ในช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว ฟลิค พลิกโฉมหน้า บาร์เซโลน่า กลับมาเป็นยอดทีมเมืองกระทิงและบนเวทียุโรปด้วยการเล่นฟุตบอลที่น่าตื่นเต้น
ฟลิค ได้พูดถึงความสำเร็จของทัพอาซูลกราน่าพร้อมเน้นย้ำถึงความทะเยอทะยานในอนาคตว่า 'เราทำงานหนักและพยายามเล่นในระดับสูงสุด ซึ่งแน่นอนว่านี่คือระดับแชมเปี้ยนส์ลีก และเราต้องการคว้าแชมป์ด้วย'
'ท้ายที่สุดแล้ว ที่ บาร์เซโลน่า มันเป็นแบบนั้นเสมอ คุณต้องคว้าแชมป์และแน่นอนว่าในฤดูกาลแรก เราคว้าแชมป์ 3 รายการ ซึ่งถือว่าดีมาก'
เมื่อพูดถึงวิธีที่เขาต้องการให้ทีมเล่นในสนาม ฟลิค กล่าวว่า 'ผมรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สุดท้ายแล้วเราต้องทำงานหนัก'
'นอกจากนี้เราต้องสามัคคีกัน แสดงให้เห็นว่าเราเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม และนั่นสามารถแสดงให้เห็นได้ในแนวรับ แต่ยังรวมถึงแนวรุกด้วย และนั่นคือสิ่งที่ผมต้องการเห็นในทีมของผม'
เทรนเนอร์วัย 60 ปีกล่าวเพิ่มเติมว่า 'สำหรับผมแล้ว มันไม่ใช่เรื่องของความสมบูรณ์แบบ ผมพูดแบบนั้นมาตลอด แต่มันเป็นเรื่องของความก้าวหน้า'
'เมื่อผมเห็นทีมพัฒนาขึ้น ดีขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมต้องการ การช่วยนักเตะแต่ละคนแสดงเวอร์ชั่นดีที่สุดของพวกเขาเพื่อสโมสรแห่งนี้เป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ นั่นคือสิ่งที่เราอยู่ที่นี่เพื่อสิ่งนี้'
ฟลิค ยังกล่าวชื่นชมสองแข้งดาวรุ่งอย่าง ลามีน ยามาล และ เฟร์มีน โลเปซ ซึ่งมีส่วนช่วยทัพอาซูลกราน่าประสบความสำเร็จในฤดูกาลที่ผ่านมา
'ลามีน เป็นอัจฉริยะที่อายุเพียง 17 ปี ผมคิดว่าเราต้องช่วยเขา ผมหวังว่าเขาก็ต้องการเช่นกัน เราดูแลเขาได้ เพราะเขายังเด็กและตอนนี้ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะง่ายไปหมด และมันดูเหมือนจะง่าย แต่ไม่ใช่เลย'
'ถ้าคุณต้องการเล่นในระดับสูงในอีก 15 ปีข้างหน้า คุณจะต้องฝึกซ้อมให้ดีมากและมีสภาพจิตใจที่ดีในระดับสูงสุดด้วย ซึ่งนั่นเป็นสิ่งสำคัญ'
'ลามีน มีความสามารถพิเศษ เขาเป็นเด็กฉลาดและไม่ใช่แค่สนุกกับทุกอย่างเท่านั้น คุณต้องทำงานและทำงาน เพราะนักเตะที่มีพรสวรรค์แบบนี้ก็ต้องทำแบบนั้นด้วย'
ฟลิค ยังพูดถึงความสำคัญของ เฟร์มีน โลเปซ ที่มีบทบาทชี้ขาดในหลายเกมโดยเฉพาะนัดสยบ เอสปันญ่อล จนนำทัพอาซูลกราน่าเถลิงบัลลังก์แชมป์ ลา ลีกา สมัยที่ 28
'ท้ายที่สุดแล้ว แม้จะเก็บคลีนชีตไม่ได้ และแน่นอนว่าการมี ลามีน และ เฟร์มีน อยู่ด้วย มันยอดเยี่ยมมากที่มีนักเตะดาวรุ่งเหล่านี้ในระดับนี้ พวกเขายังตัดสินเกมหลายเกมและการคว้าแชมป์ด้วย'
ฟลิค ยังอธิบายว่าการเผชิญหน้ากับทีมคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง เอสปันญ่อล เป็นหนึ่งในเกมยากที่สุดของพวกเขาในฤดูกาลนี้
'แมตช์สำคัญที่สุดไม่ใช่เกมใหญ่ๆ สำหรับผมมันคือ เอสปันญ่อล เพราะผมรู้ว่ามันจะยากมาก หนึ่งวันก่อนหน้านั้น มาดริด ทำประตูได้ก่อนหมดเวลา 5 วินาที และผมรู้ว่าการเผชิญหน้ากับ เอสปันญ่อล จะเป็นเกมยาก'
'เดลา (โฆเซ่ เด ลา ฟวนเต้) และคนอื่นๆบอกผมแล้วว่ามันจะไม่ง่าย เพราะมันเป็นเกมดาร์บี้แมตช์ แต่เราทำได้ดี'
'เอสปันญ่อล ก็เล่นได้ดีมากเช่นกัน พวกเขาเล่นเกมรับได้ดีและเล่นงานเล่นในจังหวะสวนกลับ แต่สุดท้ายแล้วด้วยการเก็บคลีนชีต และแน่นอนว่ากับ ลามีน และ เฟร์มีน มันยอดเยี่ยมมาก'
ฟลิค ยังพูดถึงการทำงานร่วมกับทีมสตาฟฟ์และผู้บริหารด้านกีฬาที่นำโดย อันแดร์ซอน เดโก้ ผู้อำนวยการกีฬา และ โบยาน เกร์กิช ผู้ช่วยของเขาว่าดำเนินไปอย่างราบรื่นและกลมกลืน
'จากสไตล์ จากปรัชญาที่เราต้องการเล่น เราต้องการให้นักเตะมีทางเลือกมากขึ้น รวมถึงทีมด้วย'
'และมันเป็นเรื่องดีมากที่จะได้พูดคุยกับ โบยาน และ เดโก้ เกี่ยวกับอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ไม่ใช่แค่เรื่องหนึ่งปี แต่เกี่ยวกับอนาคต และเราจะดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราสามารถพูดคุยเกี่ยวกับฤดูกาล 2026-2027 ได้ด้วยว่าจะเกิดอะไรขึ้น'
เทรนเนอร์วัย 60 ปียังให้เครดิตกับโค้ชฟิตเนสของทีมอย่าง ฆูลีโอ ตูส รวมถึง เดโก้ สำหรับการแต่งตั้งของเขา
'การมีเทรนเนอร์ด้านร่างกายดีที่สุดที่นี่เป็นเรื่องสำคัญ คนดีที่สุดใน บาร์เซโลน่า และแน่นอนว่าผมสามารถนำใครสักคนจากเยอรมนีมาด้วยได้ แต่ที่นี่มีปรัชญาที่แตกต่างกันออกไป'
'นักเตะเหล่านี้ต้องการปรัชญาที่สอดคล้องกับแนวทางการเล่นฟุตบอลของเรา สำหรับผมแล้ว นี่คือผลงานที่ยอดเยี่ยมของ เดโก้ ด้วยเช่นกัน เพราะเขานำคนที่มีประสบการณ์มากมายเข้ามา ฆูลีโอ ตูส เป็นหนึ่งในคนดีที่สุด บางทีอาจจะเก่งที่สุดในด้านนี้ด้วยซ้ำ'
ฟลิค ยังเผยว่าเขารู้สึกประทับใจกับพาเหรดฉลองแชมป์ 3 รายการของทีมอาซูลกราน่า โดยกล่าวว่า 'มันน่าเหลือเชื่อจริงๆ เมื่อคุณเห็นสิ่งนี้ เราเห็นผู้คนจำนวนมากร้องไห้ด้วยความดีใจเพราะพวกเขาพึงพอใจกับทีมและกับสิ่งที่เราทำสำเร็จในฤดูกาลนี้'
'นั่นคือความยิ่งใหญ่ของงานของเรา ที่เราสามารถทำให้คนอื่นมีความสุข แฟนๆและสาวกกูเล่ นั่นคือสิ่งที่ดีมาก'
'ตอนนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองมีความรับผิดชอบที่จะต้องทำงานหนักอีกครั้งในฤดูกาลหน้า ผมรู้สึกว่าผมต้องทำมัน นี่คือหน้าที่ของผมและผมจะทำเพื่อพวกเขา'