คาร์ล เอ็ตต้า เอย็อง เป็นแข้งดาวรุ่งที่น่าจับตามองมากที่สุดในขณะนี้ หลังกองหน้าชาวแคเมอรูนย้ายจาก บียาร์เรอัล มาค้าแข้งกับ เลบันเต้ ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาด้วยค่าตัว 3 ล้านยูโร แต่มูลค่าของเขาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังดาวยิงวัย 22 ปีทำผลงานโดดเด่นกระทุ้ง 6 ประตูกับ 3 แอสซิสต์จากการลงเล่น 12 เกม
ปัจจุบัน เอย็อง อยู่อันดับ 4 ของตารางดาวซัลโว ลา ลีกา ตามหลัง คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ กองหน้า เรอัล มาดริด ที่ทำ 13 ประตูกับ 2 แอสซิสต์ ขณะที่ ฮูเลียน อัลวาเรซ ของ แอตเลติโก มาดริด ทำ 7 ประตูกับ 2 แอสซิสต์ ส่วน โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ของ บาร์เซโลน่า ทำเพียวๆ 7 ประตู
เอย็อง ทำประตูได้ในการเผชิญหน้ากับ เรอัล มาดริด เมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา เขายังได้แลกเสื้อกับ เอ็มบั๊ปเป้ ทั้งคู่มีเชื้อสายแคเมอรูนเหมือนกัน เนื่องจาก วิลฟรีด บิดาของ เอ็มบั๊ปเป้ เกิดที่เมืองดูอาลา ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ เอย็อง
'ผมแค่รู้สึกว่าผมจะทำประตู เรอัล มาดริด ได้ ดังนั้นเมื่อถึงเวลานั้นผมจึงไม่แปลกใจเลย' เอย็อง กล่าว 'มันเป็นเกมพิเศษสำหรับผม น่าเสียดายที่เราชนะเกมนี้ไม่ได้ แต่ผมดีใจที่ประตูของผมสามารถสร้างเสียงปรบมือให้กับแฟนๆ เลบันเต้ ได้'
'มันไม่ใช่ประตูที่สวยหรูนัก แต่มันเป็นเกมที่ยาก เพราะผมต้องเอาชนะการดวลลูกกลางอากาศกับผู้รักษาประตูที่มีทั้งความสูงและมากฝีมืออย่าง ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผมแค่กระโดดเพื่อลูกบอลด้วยใจและความทะเยอทะยาน'
'หลังจบเกม ผมอยากได้เสื้อของ เอ็มบั๊ปเป้ และ โอเรเลียง ชูอาเมนี่ ด้วย ทั้งคู่ต่างมีเชื้อสายแคเมอรูนอยู่ในตัว ผมคุยกับ เอ็มบั๊ปเป้ ในสนามและบอกว่า 'ช่วยเก็บเสื้อของคุณไว้ให้ผมด้วย''
'ผมต้องการเก็บเสื้อทุกตัวที่ผมแลกไว้ และเมื่อผมมีบ้านเป็นของตัวเอง ผมจะแขวนมันไว้บนผนัง ผมอยากให้ลูกๆในอนาคได้เห็นนักเตะดาวดังที่ผมเคยเล่นด้วย โดยเฉพาะซูเปอร์สตาร์อย่าง เอ็มบั๊ปเป้ และบางทีมที่ผมยิงประตูได้'
เอย็อง ใช้เวลาส่วนใหญ่ในวัยเด็กของเขาในการถือแร็กเก็ตมากกว่าลูกฟุตบอล เนื่องจาก โจเซฟ พ่อของเขาเป็นนักเทนนิสในแคเมอรูน เขาสามารถแสดงฝีมือบนคอร์ตดินในสเปนแทนการเล่นฟุตบอลได้แบบไม่ยากเย็นนัก หากเขาไม่แพ้ในการแข่งขันชิงแชมป์เยาวชนและตัดสินใจเปลี่ยนมาเล่นกีฬาประเภททีมอย่างฟุตบอล
'พ่อของผมสอนผมเล่นเทนนิสมาตั้งแต่เด็ก' เอย็อง กล่าว 'ผมไม่ใช่นักเทนนิสที่แย่ แต่เมื่อผมแพ้ในรอบชิงชนะเลิศ ผมตัดสินใจเลิกเล่นและหันมาเล่นฟุตบอลแทน ผมรู้ได้ทันทีว่านี่คือเส้นทางของผม'
เอย็อง เผยว่าเขาได้รับแรงบันดาลใจมาจาก มานูเอลล่า เบกอมโบ คุณป้าของเขา ซึ่งในขณะนั้นเล่นกับทีมชาติหญิงแคเมอรูน เธอชักชวนครอบครัวของ เอย็อง ให้สนับสนุนเส้นทางอาชีพค้าแข้งของเขา
เขาเริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง ก่อน เอย็อง จะเปลี่ยนมาเล่นตำแหน่งกองหน้าจนกระทั่งพัฒนาฝีเท้าจนกลายเป็นที่จับตามองในปัจจุบัน
'ผมเป็นหนี้บุญคุณป้าของผมมาก' เอย็อง กล่าว 'มันสนุกมากที่ได้เห็นเธอเล่น ยิงประตูและฉลองกับเพื่อนๆของเธอ ผมสัมผัสได้จากเธอว่าการมีเพื่อนร่วมทีมที่เรารักนั้นเป็นอย่างไร ในวงการเทนนิส เราจะต้องยืดหยัดโดยลำพังกับคู่แข่งที่อยูอีกฝั่งของตาข่าย ส่วนในฟุตบอล เรามีครอบครัวและสร้างมิตรภาพที่ยั่งยืน ผมจึงพัฒนาความรักในฟุตบอลผ่านป้าของผม นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ'
'การมาถึงจุดนี้ถือเป็นความท้าทาย เพราะเรามีเงินไม่มากนัก และผมต้องไปฝึกซ้อมในเมืองอื่นที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 10 กิโลเมตร ผมไม่มีรถบัสส่งกลับบ้านตลอดเวลา ดังนั้นบางครั้งจึงต้องเดินกลับหรือแบ่งปันจักรยานของเพื่อนๆ แต่ผมเชื่อมั่นในตัวเองเสมอ และจะบอกพ่อแม่ว่า 'ไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะทำสำเร็จ''
โอดีล วังก้า คุณยายของ เอย็อง ก็ให้การสนับสนุนการเลือกเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพของหลานชายด้วยเช่นกัน และเมื่อเธอเสียชีวิตในเดือนกรกฎาคมปี 2021 เอย็อง รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งกับการสูญเสียครั้งนี้ เขาจะดูรูปคุณยายก่อนเกมทุกครั้งและยังสักเพื่อเป็นเกียรติแก่ความทรงจำด้วย
'ขอให้คุณยายไปสู่สุขคติ ท่านเป็นเหมือนแม่ของผม' เอย็อง กล่าว 'ท่านเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่สุดในชีวิตผม ท่านเชื่อมั่นเสมอว่าผมจะได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพ และท่านสอนให้ผมรู้จักคุณค่าของความรักและความเมตตา เพราะท่านทำให้ผมไม่เคยลืมรากเหง้าของตัวเอง'
'และนั่นคือเหตุผลที่ผมอยากตอบแทนและสนับสนุนครอบครัว เป้าหมายของผมคือการสร้างบ้านให้พ่อและจ่ายค่าเล่าเรียนให้น้องชายและน้องสาว นั่นเป็นสิ่งดีสุดที่ผมสามารถทำได้ ผมมีความสุขมากที่ได้เห็นน้องๆไปโรงเรียนพร้อมหนังสือของพวกเขา'
