บรรลุความฝันของการ์เซีย
เอริก การ์เซีย แนวรับวัย 24 ปีเซ็นสัญญาฉบับใหม่อย่างเป็นทางการส่งผลให้เขาจะค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า ไปจนถึงช่วงซัมเมอร์ปี 2031 หลังก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในแข้งคนสำคัญของ ฮันซี่ ฟลิค เทรนเนอร์ชาวเยอรมัน
กองหลังวัย 24 ปีได้กล่าวถึงเส้นทางอาชีพ, การพัฒนาและความทะเยอทะยานของเขา โดยเริ่มต้นด้วยการพูดถึงความหมายของการขยายสัญญาครั้งนี้ด้วย
'มันคือความฝันของนักฟุตบอลทุกคน ผมมีความสุขมาก มันคือสิ่งที่ผมฝันมาตลอด และมันกลายเป็นจริง' เอริก การ์เซีย กล่าว 'มีช่วงหนึ่งที่ผมคิดว่าการย้ายทีมน่าจะเป็นทางเลือกดีที่สุด เพื่อลงเล่นมากขึ้นและกลับมาแข็งแกร่งขึ้น'
'ตอนนี้มันง่ายที่จะพูด แต่ผมคิดว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง และผมมีความสุขที่จะอยู่ที่นี่ต่อไปอีกหลายปี'
กองหลังวัย 24 ปียังเผยเพิ่มเติมว่าการพูดคุยกับ ฟลิค มีส่วนช่วยให้เขาตัดสินใจต่อสัญญาครั้งนี้ โดยกล่าวว่า 'ผมได้คุยกับ ฟลิค และเขาอธิบายทุกอย่างชัดเจนให้ผมฟัง คุณสามารถเห็นได้ในสนาม และนั่นสำคัญมากในการตัดสินใจ'
บาร์เซโลน่า ดึง เอริก การ์เซีย มาจาก แมนฯซิตี้ แบบไม่มีค่าตัวในช่วงซัมเมอร์ปี 2021 ก่อนสโมสรจะปล่อยนักเตะย้ายไปเล่นกับ จีโรน่า ด้วยสัญญายืมตัวในฤดูกาล 2023-2024 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขาพัฒนาการเล่นในฐานะนักเตะ

'ผมคิดว่าการไปเล่นที่ จีโรน่า หนึ่งฤดูกาลนั้นสำคัญมากสำหรับผมในการลงเล่นและพัฒนาฝีเท้า (มิเกล อังเคล ซานเชซ มูนญอซ) มิเชล บอกผมเสมอว่าผมมีความสำคัญมาก'
'ตอนที่ผมกลับมา ผมมีปัญหาเรื่องสภาพร่างกาย แต่ ฟลิค ไว้วางใจผมในการเล่นตำแหน่งต่างๆ มีบางช่วงที่คุณได้ลงเล่น บางช่วงที่คุณได้ลงเล่นน้อย แต่ตอนนี้ผมได้ลงเล่นเยอะมาก และผมรู้สึกขอบคุณ ฮันซี่ ที่มอบความไว้วางใจให้ผม'
เอริก การ์เซีย ยังย้อนนึกถึงช่วงเวลาที่เล่นกับ จีโรน่า ด้วยสัญญายืมตัวว่า 'จีโรน่า มีความสำคัญมากสำหรับผม ส่วนใหญ่เป็นเพราะความเชื่อมั่นที่ มิเชล มีต่อผม'
'เมื่อปีที่แล้ว มีโอกาสที่จะย้ายทีม แต่เกมกับ เบนฟิก้า ก็เปลี่ยนทุกอย่าง และ ฟลิค ทำให้ผมเข้าใจชัดเจนว่าเขาต้องการให้ผมอยู่ในทีม'
'มันเป็นการสนทนาที่สำคัญมาก ซึ่งเปลี่ยนทิศทางของฤดูกาลไปเลย'
เมื่อถูกถามว่าเขาจะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในกัปตันทีมในวันหนึ่งข้างหน้าหรือไม่ กองหลังวัย 24 ปีตอบว่า 'มันไม่ใช่ผมที่ต้องเลือก มันต้องเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โค้ชเชื่อมั่นในตัวผมเสมอในเรื่องนี้ มันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติสำหรับผม'
'มันไม่ใช่เป้าหมาย มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติสำหรับผม'
'ท้ายที่สุดแล้ว ผมมีบุคลิกแบบนี้ในสนาม แต่มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ การตั้งเป้าหมายไว้คงไม่ดีนัก'
เอริก การ์เซีย ยังพูดถึง แมนฯซิตี้ หลังทีมเก่าของเขาบุกชนะ เรอัล มาดริด บนสังเวียน 'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว' บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกด้วยสกอร์ 2-1
'ผมย่อมมีความสุขเสมอเมื่อทีมเก่าของคุณชนะ พวกเขาเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม และผมมีความสุขกับชัยชนะของพวกเขา'
กองหลังวัย 24 ปียังพูดถึงผลงานที่ย่ำแย่ของคู่ปรับสำคัญอย่าง เรอัล มาดริด ก่อนหน้านี้ว่า 'หลังจากเกม 'เอล กลาซิโก้' และ เชลซี มันดูเหมือนว่าเรากำลังจะทิ้งฤดูกาลไป แต่สิ่งนั้นไม่มีความหมายอะไร'

'ในฟุตบอล มันมีทั้งช่วงเวลาที่ดีและช่วงที่แย่ เราเริ่มต้นฤดูกาลอย่างยากลำบากด้วยการบาดเจ็บมากมาย ผมจะไม่มีความสุขเลยเมื่อสิ่งต่างๆไม่เป็นไปตามที่ต้องการ'
เอริก การ์เซีย กลายเป็นแข้งสารพัดประโยชน์ของ ฮันซี่ ฟลิค เนื่องจากเขาสามารถเล่นได้ทั้ง เซนเตอร์, แบ็กขวา, แบ็กซ้ายและมิดฟิลด์ตัวรับ ตอบสนองทุกความต้องการของเทรนเนอร์ชาวเยอรมัน
'ตำแหน่งเดียวที่ผมไม่เคยเล่นคือกองหน้า ผมเล่นตำแหน่งเซนเตอร์มาตลอด แต่ผมรู้สึกสบายใจมากในตำแหน่งแบ็กขวาหรือซ้าย'
'ปีนี้ผมยังเล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ และผมกำลังปรับตัว ผมพยายามทำอย่างดีที่สุดทุกครั้งที่โค้ชขอให้ผมทำ'
'เมื่อมีสถานการณ์ฉุกเฉิน ฟลิค จะถามผมว่าผมเล่นตำแหน่งนั้นได้หรือไม่ ที่ จีโรน่า ผมเริ่มต้นเล่นตำแหน่งแบ็กขวา/ซ้าย'
'ผมมีตัวเลือกในการเล่นมากขึ้น มีความเป็นไปได้มากขึ้น และนั่นสำคัญมากในทีม'
เอริก การ์เซีย ยังได้สะท้อนถึงความหมายของสโมสรที่มีต่อเขาเป็นการส่วนตัว นับจากการติดตามทีมอาซูลกราน่าตั้งแต่ยุคของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

'ตั้งแต่วัยเด็ก ผมดู บาร์เซโลน่า เล่นกับคุณปู่ และไปที่สนามหลายครั้ง ผมได้เห็นยุคของ เป๊ป' กองหลังวัย 24 ปีกล่าว 'ผมไม่เคยสงสัยเลยว่าผมจะย้ายออกไป ผมต้องการบรรลุข้อตกลงที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป'
'ฤดูกาลที่แล้วเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับผม และผมมีความสุขมากกับสิ่งที่ผมประสบในฤดูกาลนี้'
ตบท้ายด้วยการพูดถึง โรนัลด์ อาเราโฮ ที่สโมสรอนุญาตให้พักฟื้นฟูสภาพจิตใจ ซึ่ง เอริก การ์เซีย แสดงการสนับสนุนเพื่อนร่วมทีมอย่างเต็มที่
'เราคิดถึงเขา ไม่ใช่แค่ในฐานะนักฟุตบอล แต่ในฐานะคนๆหนึ่งด้วยเช่นกัน เขาเป็นที่รักของเราทุกคน เรายินดีต้อนรับเขากลับมาด้วยความเต็มใจ'
'เมื่อพูดถึงเรื่องสุขภาพ ทุกคนต้องดูแลตัวเอง เราหวังว่าเขาจะมีความอดทนและสามารถกลับมาได้ เขามีความสำคัญมากและพวกเราคิดถึงเขา'

