มัตซ์ เซลส์...จากซีโร่สู่ฮีโร่

ช่วงตลาดนักเตะเดือนมกราคม ปี 2024 ถูกบดบังด้วยกฎกำไรและความยั่งยืน (PSR) ซึ่งทำให้การใช้จ่ายและความตื่นเต้นลดลง
ในตลาดนั้นมีการทำข้อตกลงถาวรจากสโมสรในพรีเมียร์ลีกรวมแค่ 17 ครั้งเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม การย้ายทีมของ เซลส์ ก็ไม่ได้เป็นอะไรที่น่าสนใจสักเท่าไหร่
เขาดูเหมือนจะเป็นผู้เล่นอีกคนที่ย้ายมายังสโมสรที่ดูเหมือนจะอยู่ในวัฏจักรแห่งความโกลาหลอย่างต่อเนื่อง
หนึ่งฤดูกาลกับ นิวคาสเซิ่ล เมื่อ 9 ปีที่แล้วเป็นประสบการณ์ครั้งเดียวของเขาในอังกฤษ แต่ ฟอเรสต์ ได้จ่ายเงิน 5 ล้านปอนด์เพื่อให้ผู้รักษาประตูชาวเบลเยียมเข้ามาเป็นมือหนึ่งคนที่สามของฤดูกาลดังกล่าว
เซลส์ ตอบรับการเดิมพันนันด้วยการออกจากชีวิตในคอมฟอร์ตโซนที่ สตาร์สบูร์ก ในลีก เอิง เพื่อกระโดดร่มลงสู่สงครามการหนีตกชั้นของ ฟอเรสต์
เกมประเดิมสนามของเขาในนัดเสมอ บอร์นมัธ 1-1 เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ทำให้ทีมใหม่ของเขารั้งอันดับ 3 จากท้ายตาราง โดยห่างจากโซนปลอดภัย 3 แต้ม
นอกจากนี้ ฟอเรสต์ ยังถูกพรีเมียร์ลีกหักคะแนนไป 4 แต้ม หลังจากที่เขาย้ายมาอยู่กับทีมได้เพียงเดือนเดียว
นี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่จะมองโลกในแง่ดีได้เลย แต่เมื่อผ่านไปหนึ่งปี การเดิมพันครั้งนี้กลับคุ้มค่ามาก
แม้จะเพิ่งแพ้ บอร์นมัธ ที่ไวทาลิตี้ สเตเดี้ยม เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่ ฟอเรสต์ ก็รั้งอันดับ 3 ในพรีเมียร์ลีก และ เซลส์ ก็เป็นผู้นำในการแย่งรางวัลถุงมือทองคำด้วยการเก็บคลีนชีตไป 9 ครั้ง
เขาเป็นส่วนหนึ่งในแนวรับที่ดีที่สุดอันดับสี่ของลีก และมีอิทธิพลอย่างมากในการพลิกสถานการณ์อันน่าเหลือเชื่อนี้
"ตอนที่ผมเซ็นสัญญา ผมรู้ดีว่าพวกเขากำลังมองหาผู้รักษาประตู และผมรู้ดีว่าพวกเขาต้องการรอดตายในลีกนี้ต่อไป" เซลส์ กล่าว
"เมื่อคุณเลือกผู้รักษาประตูในเดือนมกราคม ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นช่วงที่ทีมกำลังประสบปัญหา"
"การได้เล่นในพรีเมียร์ลีก นั่นคือเหตุผลที่ผมอยากกลับมา เพื่อที่จะทำตามความฝันอีกสักหน่อย และผมก็มีความสุขมากกับฤดูกาลนี้"
"แม้กระทั่งตอนที่ผมมาถึงเมื่อฤดูกาลที่แล้ว มันก็ไม่ง่ายเลย แต่ผมรู้ถึงสถานการณ์ดีเมื่อตอนที่ผมเซ็นสัญญา คุณไม่สามารถมองไปไกลเกิน แต่คุณต้องพยายามดูว่ามันเป็นก้าวที่ดีหรือไม่"
"ไม่มีใครคิดว่ามันจะเป็นในแบบที่เราทำอยู่ในตอนนี้ แต่มีคุณภาพมากมายในทีม ผมเห็นมันเมื่อตอนที่ผมเซ็นสัญญา"
ผลกระทบของ เซลส์ ในปีนี้ช่างแตกต่างจากตอนที่เขาย้ายไปยังถิ่นเซนต์ เจมส์ พาร์ค เมื่อปี 2016 หลังจากเป็นแชมป์ลีกเบลเยียมกับ เกนท์
เขาได้เล่นให้ สาลิกาดง เพียง 14 นัด เป็น 9 นัดในแชมเปี้ยนชิพ และเมื่อทีมของ ราฟาเอล เบนิเตซ เลื่อนชั้นกลับมายังพรีเมียร์ลีกในปี 2017 เขาก็ย้ายไป อันเดอร์เลชท์ ด้วยสัญญายืมตัว
"เมื่อผมมาที่ นิวคาสเซิ่ล มันไม่ง่ายเลย มันเป็นครั้งแรกที่ผมออกมาต่างแดนและผมเพิ่งอายุแค่ 22 ปี ผมไม่อยากบอกว่าตอนนั้นผมยังเด็ก แต่ตอนนั้นผมก็ยังเด็กมากจริงๆ" เขากล่าว
"บางครั้งมันก็ผ่านไปด้วยดี บางครั้งมันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น บางครั้งประสบการณ์ที่เลวร้ายก็ทำให้คุณเข้มแข็งขึ้น ทุกคนต่างก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบากในชีวิต มันขึ้นอยู่กับว่าคุณจะรับมือกับมันอย่างไร ตอนนี้ผมอยู่ที่นี่แล้ว และผมก็มีความสุขมาก"
นอกจากความแข็งแกร่งในสนามแล้ว เซลส์ ก็ยังพอใจกับชีวิตนอกสนามเช่นกัน โดยภรรยาและลูกเล็กสองคนก็ย้ายมายังอังกฤษด้วย
"การย้ายทีมของผมเกิดขึ้นในวันสุดท้าย และคุณต้องใช้ชีวิตทั้งชีวิตของคุณไป"
"เราอยู่ที่ฝรั่งเศสมา 5 ปีครึ่ง ลูกคนโตของผมเรียนอยู่ชั้นอนุบาล และเริ่มพูดภาษาฝรั่งเศสได้บ้างแล้ว ตอนนี้ภาษาอังกฤษของลูกคนโตดีกว่าผมเสียอีก!"
"หากครอบครัวไม่ได้รู้สึกดี สักวันมันก็อาจต้องเปลี่ยนอีก เพราะครอบครัวคงจะอยากย้ายกลับไปเบลเยียมหรือที่อื่น"
"สิ่งสำคัญคือครอบครัวโอเคดี เพื่อที่คุณจะได้เล่นได้ดีในสนาม"
ฟอเรสต์ เสียไปเพียง 27 ประตู จาก 23 เกมที่ลงสนาม โดยมีเพียง ลิเวอร์พูล, อาร์เซน่อล และ บอร์นมัธ ที่สถิติดีกว่าพวกเขา
เปอร์เซ็นต์การเซฟของ เซลส์ ก็อยู่ที่ 74.42 ซึ่งดีที่สุดในบรรดาผู้รักษาประตูทุกคนที่ลงเล่นมากกว่า 8 เกมในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้
ความยอดเยี่ยมของเขาถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ ฟอเรสต์ พลิกสถานการณ์กลับมาจากการรอดพ้นการตกชั้นอย่างเป็นทางการในวันสุดท้ายของฤดูกาลที่แล้ว
ก่อนที่พวกเขาจะออกไปแพ้ บอร์นมัธ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แต้มเดียวที่พวกเขาเสียไปใน 8 เกมก่อนหน้านั้นมาจากการเสมอ ลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูง 1-1 ซึ่งตัวของ เซลส์ ก็โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น รวมถึงการเซฟลูกยิงอันยอดเยี่ยมจากทั้ง ดีโอโก้ โชต้า และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ด้วย
จนถึงตอนนี้ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต ผู้จัดการทีมปฏิเสธที่จะตอบคำถามใดๆ เกี่ยวกับโอกาสที่จะคว้าโควต้าไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก หรือกระทั่งพูดถึงการลุ้นแชมป์
อย่างไรก็ตาม เซลส์ ยอมรับว่ามุมมองได้เปลี่ยนไปแล้ว
"เราไม่สามารถพูดอะไรได้อีกต่อไป มันเป็นเรื่องของการอยู่รอดในลีก" เขายอมรับ
"เราพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายให้สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่หากคุณต้องการอยู่ในอันดับต้นๆ คุณก็ต้องเก็บทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แอสตัน วิลล่า และ นิวคาสเซิ่ล ไว้ข้างหลังคุณ"
"มันยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงแชมเปี้ยนส์ลีก เราไม่สามารถเอาชนะได้ทุกเกม เราจะเสียประตู แต่เราก็ต้องรับมือกับเรื่องนี้"
"การพูดเรื่องแชมป์อยู่นอกบริบท เรากำลังพยายามทำบางอย่างที่ยิ่งใหญ่ แต่เราจะรอดูกันในตอนจบฤดูกาล"
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT