สถานีต่อไปของ เดอ บรอยน์

เพลย์เมกเกอร์ชาวเบลเยียมวัย 33 ปี ประกาศเมื่อเดือนเมษายนว่าเขาจะออกจากทีมเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล
เขาจะออกจากทีมในฐานะหนึ่งในผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคพรีเมียร์ลีก โดยคว้าแชมป์มาแล้ว 16 ครั้ง ตั้งแต่ย้ายจาก โวล์ฟสบวร์ก มาอยู่กับ ซิตี้ ในปี 2015
เว้นแต่เขาจะต่อสัญญาระยะสั้นเพื่อช่วยทีมต่อไปในศึกชิงแชมป์สโมสรโลก ดูเหมือนว่า เดอ บรอยน์ จะมีอีกแค่ 3 เกมที่เหลือกับ แมนฯ ซิตี้ เท่านั้น
ปรมาจารย์การผ่านบอลในแดนกลางจะไปลงเอยที่ไหน? อาจเป็นที่สหรัฐอเมริกา, ซาอุดีอาระเบีย, ยุโรป หรือแม้กระทั่งแขวนสตั๊ดเลย ทั้งหมดนี้คือทางเลือก...
สหรัฐอเมริกา
การย้ายข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกไปยังเมเจอร์ลีก (เอ็มแอลเอส) ดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่งและเป็นไปได้มากเลยทีเดียว
สโมสร ซานดิเอโก ซึ่งกำลังจะเป็นทีมน้องใหม่ในเมเจอร์ลีก ถือครองสิทธิ์กับ เดอ บรอยน์ ซึ่งหมายความว่าไม่มีสโมสรอื่นใดที่สามารถเจรจากับเขาได้ แต่สิทธิ์นั้นถูกยกเลิกไปแล้ว
มีสถานการณ์ที่คล้ายกันกับ อินเตอร์ ไมอามี่ ซึ่งก็ยกเลิกสิทธิ์ในการเจรจากับ เดอ บรอยน์ ซึ่งหมายความว่าเขาจะไม่ย้ายไปเล่นกับ ลีโอเนล เมสซี่ และ หลุยส์ ซัวเรซ กับทีมที่ เดวิด เบ็คแฮม เป็นเจ้าของร่วม
หากมีการย้ายไปยังเมเจอร์ลีก ชิคาโก ไฟร์ ก็อยู่ในตำแหน่งที่จะเซ็นสัญญากับเขา เนื่องจากพวกเขามีตัวเลือกแรกในการเจรจา และแหล่งข่าวระบุว่าตัวแทนของ เดอ บรอยน์ จะเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ของสโมสร
ซาอุดีอาระเบีย
คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาริม เบนเซม่า, ซาดิโอ มาเน่ เป็นตัวอย่างของดาวดังระดับโลก 3 รายที่ลีกอันร่ำรวยอย่างซาอุดีอาระเบียดึงดูดเข้ามาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ไมเคิ่ล เอเมนาโล่ ผู้อำนวยการกีฬาของลีกเป็นคนที่นำ เดอ บรอยน์ มายัง เชลซี เมื่อปี 2012 แม้ว่าการย้ายครั้งนั้นเขาจะได้ลงสนามให้ทีมชุดใหญ่ไปเพียง 9 เกมเท่านั้น
ตัวแทนของ เดอ บรอยน์ เคยพูดคุยกับสโมสรจากซาอุดีอาระเบียมาก่อน ดังนั้นการติดต่อในทิศทางดังกล่าวจึงได้มีการดำเนินการแล้ว
แต่ในตอนนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่เขาจะย้ายไปยังตะวันออกกลาง เนื่องจากเป็นที่เข้าใจกันว่าเขาต้องการเล่นในสหรัฐอเมริกาหรือยุโรปมากกว่าด้วยเหตุผลด้านชีวิตครอบครัว
ยุโรป
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวฮือฮาจาก จานลูก้า ดิ มาร์ซิโอ ว่า ลิเวอร์พูล พยายามที่จะคว้าตัว เดอ บรอยน์ มาจาก แมนฯ ซิตี้
อย่างที่ทราบกัน เดอ บรอยน์ เป็นแฟนบอลของ ลิเวอร์พูล มาตั้งแต่เด็ก และหากการย้ายทีมครั้งนี้เกิดขึ้นมันคงเป็นเหมือนฝันสำหรับแฟนๆ หงส์แดง เอง และตัวของนักเตะ
แต่หากมองในโลกความเป็นจริง มันคงแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่ เดอ บรอยน์ จะยอมหักหลังแฟนบอล แมนฯ ซิตี้ เพื่อที่จะมาเล่นกับคู่ปรับแย่งความสำเร็จมาตลอดในช่วงหลายปีหลัง
หากจะมีทีมไหนในยุโรปที่ถือเป็นผู้นำที่จะคว้าตัว เดอ บรอยน์ ไปก็คงเป็น นาโปลี ในเซเรีย อา
ยูเทิร์นอยู่กับ ซิตี้ ต่อไป
ข้อนี้แทบเป็นไปไม่ได้เลย
เดอ บรอยน์ ได้รับเสียงชื่นชมจากแฟนบอล แมนฯ ซิตี้ ที่เอติฮัด สเตเดี้ยม หลังจากทำประตูชัยเหนือ วูล์ฟส์ ในวันที่ 2 พฤษภาคม
"ผมพิสูจน์แล้วว่าผมยังเล่นที่นี่ได้" เดอ บรอยน์ กล่าว
"ไม่เช่นนั้น ผมจะไม่ทำสิ่งที่ทำในช่วงสี่หรือห้าสัปดาห์ที่ผ่านมา"
"เพื่อนร่วมทีมหลายคนพูดกับผม พวกเขาเสียใจที่ผมต้องจากไป"
การตัดสินใจที่จะปล่อย เดอ บรอยน์ มาจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีม และ ซีกี เบกีริสไตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค ดังนั้นจำเป็นต้องคิดทบทวนและเปลี่ยนแผนใหม่เพื่อให้เขาอยู่ต่อ
เดอ บรอยน์ เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงที่สุดในพรีเมียร์ลีก และเป็นไปไม่ได้เลยที่ แมนฯ ซิตี้ จะยื่นข้อเสนอเพื่อขยายสัญญากับเขาที่รับอยู่ 400,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
เขายังสามารถอยู่ในพรีเมียร์ลีกต่อไปได้ใช่ไหมหากย้ายไปยังสโมสรอื่น?
มีเพียงไม่กี่ทีมที่สามารถให้ค่าจ้างได้ใกล้เคียงกับตัวเลขนั้น แต่รายงานจากสื่อเมื่อเดือนเมษายนระบุว่า แอสตัน วิลล่า ได้หารือกับภายในเกี่ยวกับการย้ายทีมครั้งนี้
"ผมเปิดรับทุกอย่าง เพราะผมต้องมองภาพรวมทั้งหมด" เดอ บรอยน์ กล่าว
"ผมมองที่เหตุผลด้านกีฬา ครอบครัว และทุกสิ่งทุกอย่างร่วมกัน และสิ่งที่สมเหตุสมผลที่สุดสำหรับผมและครอบครัว"
แขวนสตั๊ด
เมื่อเดือนที่แล้ว กีเยม บาลาเก คอลัมนิสต์ของ บีบีซี สปอร์ต พูดในพอดแคสต์ ยูโรลีก ของ บีบีซี เรดิโอ 5 ไลฟ์ ว่า เดอ บรอยน์ อาจเลิกเล่นก็ได้เมื่อสัญญาของเขาหมดลง
"เขาอายุเพียง 33 ปี แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เขามีค่าเฉลี่ยลงเล่นเพียง 20 นาทีต่อเกม ถึงแม้ว่าเขาจะได้ลงตัวจริงก็ตาม เรื่องนี้เป็นที่ยอมรับจาก แมนฯ ซิตี้ มาสักระยะแล้ว" บาลาเก กล่าว
"เขาไม่ได้โง่ ความจริงที่ว่า แมนฯ ซิตี้ ไม่ต่อสัญญากับเขา แม้ว่าเขาจะพิจาณราความเป็นไปได้ที่จะอยู่ต่อ มันก็เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าผู้เล่นคนนี้ได้ก้าวขึ้นถึงจุดสูงสุดแล้ว และไม่สามารถย้อนกลับหลังได้อีกแล้ว"
แต่ คริสตอฟ แตร์เรอร์ ผู้เชี่ยวชาญฟุตบอลเบลเยียมไม่เห็นด้วย
"สิ่งหนึ่งที่เขาคิดคือฟุตบอลโลกปี 2026" แตร์เรอร์ กล่าว
"เขาต้องการเล่นฟุตบอลต่อไป แต่ร่างกายของเขาไม่ได้เหมือนเดิมแล้ว และเขาก็มีโอกาสที่จะบาดเจ็บง่าย"
"เขาจะเลือกลีกที่มีแรงกดดันน้อยกว่า และมีเกมที่เขาอาจฟิตสำหรับฟุตบอลโลก"
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT