ยึดมั่นหรือดื้อรั้น

รูเบน อาโมริม กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ย้ำถึงความมุ่งมั่นของเขาที่มีต่อระบบ 3-4-3 ซึ่งกลายเป็นประเด็นถกเถียงอย่างเผ็ดร้อนในตอนนี้
ความพ่ายแพ้ 0-3 ต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หมายความว่าด้วย 4 คะแนน จาก 4 นัด พวกเขาออกสตาร์ทฤดูกาลในลีกย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ซีซั่น 1992-93 ภายใต้การคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
ฤดูกาลนั้นถือเป็นจุดสิ้นสุดการรอคอย 26 ปีของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่คว้าแชมป์ได้ แต่ก่อนที่ความหวังจะกลับมาอีกครั้ง ฤดูกาลนั้นมีการเล่นถึง 42 เกม และที่สำคัญกว่านั้นคือไม่มีการควบคุมตลาดซื้อขายนักเตะ เฟอร์กูสัน ได้ซื้อ เอริก คันโตน่า ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์
แม้ว่าจะใช้เงินไปมากกว่า 200 ล้านปอนด์กับผู้เล่นใหม่ในช่วงสองซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่หลังจากผ่านไปเพียง 4 เกม หน่วยเก็บสถิติอย่าง อ็อปต้า เผยว่าตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสตกชั้นในฤดูกาลนี้ (11%) มากกว่าที่พวกเขาจะจบในห้าอันดับแรกเสียด้วยซ้ำ (7.3%)
"ผมกังวล" รอย คีน อดีตกัปตันทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ให้สัมภาษณ์กับ สกาย สปอร์ต เกี่ยวกับฟอร์มการเล่นของทีมเก่า
"ยูไนเต็ด ทีมนี้ขาดคุณภาพอย่างมาก ลองมองดูผลการแข่งขัน คะแนนต่อเกม ประตูได้เสีย มันไม่ดีเลย"
"คุณพูดถึงระบบ แต่ผู้จัดการทีมยังคงยึดมั่นในแนวทางเดิม เขาไม่เปลี่ยนใจ"
อาโมริม ถูกถามถึงแผนการเล่นของเขาหลายครั้ง และหลายครั้งเขาก็ออกมาปกป้อง โดยบอกว่าเขาจะไม่เปลี่ยนแปลง
เมื่อนั่งอยู่ในห้องสื่อที่เอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อวันอาทิตย์ เขาได้ผลักดันสถานการณ์ให้ก้าวไปไกลกว่าที่เคยทำมา
"ผมเข้้าใจและยอมรับว่ามันไม่ใช่สถิติที่คุณควรจะมีใน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" เขากล่าว
"มีหลายสิ่งหลายอย่าง คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่ผมจะไม่เปลี่ยนแปลง"
"เมื่อผมอยากเปลี่ยนปรัชญาของตัวเอง ผมก็จะเปลี่ยน ถ้าไม่ คุณก็ต้องเปลี่ยนคนคุมทีม"
ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่านี่เป็นหนึ่งในประเด็นที่ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ครุ่นคิดอยู่หรือไม่ เมื่อกล้องแพลนไปที่เขาในช่วงท้ายเกมความพ่ายแพ้ครั้งล่าสุดของ ยูไนเต็ด ภายใต้การทำงานของ อาโมริม
เขากำลังคิดอะไรอยู่?
บางทีอาจเป็นเรื่องที่กองหน้าคนใหม่ของเขาซึ่งได้เกือบเต็มเกมโดยไม่ได้สัมผัสบอลในกรอบเขตโทษฝั่งตรงข้ามเลย ไม่ถึง 24 ชั่วโมงหลังจาก ราสมุส ฮอยลุนด์ ที่เขาขายออกไปประเดิมสนามให้ นาโปลี ด้วยการทำประตู
ไม่ว่าเขาจะคิดอะไรอยู่ มันคงไม่สวยงามนัก เหมือนกับคำตอบของ อาโมริม ขณะที่เฮดโค้ช ยูไนเต็ด กำลังพยายามหาคำอธิบายถึงฟอร์มการเล่นที่น่าสมเพชอีกครั้งในฤดูกาลที่เขาเคยสัญญาว่าจะดีขึ้น
"ผมเข้าใจฟุตบอล และผลการแข่งขันคือตัวกำหนดเรื่องราวทั้งหมด" เขากล่าว
"เรากำลังทำได้ดีขึ้น แต่ผลการแข่งขันกลับไม่เป็นแบบนั้น ผมเข้าใจสถิติและเข้าใจการตัดสินใจที่ตามมา"
"ข้อความของผมคือ ผมจะทุ่มเททุกอย่างและทำทุกสิ่งเพื่อสโมสรให้ดีที่สุด"
"ตลอดเวลาที่ผมยังอยู่ที่นี่ ผมจะทำให้ดีที่สุด และผมก็เจ็บปวดมากกว่าพวกเขา"
ที่ อาโมริม พูดถึง "พวกเขา" น่าจะหมายความถึงแฟนบอล ซึ่งส่วนใหญ่พากันออกจากสนามไปแล้วก่อนที่อดีตกุนซือ สปอร์ติ้ง ลิสบอน และเหล่านักเตะจะเดินเข้าไปปรบมือให้กับคนที่ยังอยู่
ในการลงเล่นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกเกมแรก เชชโก้ มีโอกาสเพียงครั้งเดียว แต่ดาวเตะสโลวีเนียจับบอลแบบไม่เชื่องเท้าเท่าไหร่ก่อนที่จะยิงแบบไม่แรงมากไปให้กับ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ป้องกันไว้ได้ไม่ยาก
จากนั้น ยูไนเต็ด ก็ไม่ได้มีโอกาสมากนักจนกระทั่งจบเกม แม้ว่าพวกเขาจะสร้างเกมรุกได้อย่างน่าประทับใจหลายครั้ง แต่ก็มักจะพลาดก่อนที่จะถึงพื้นที่อันตราย
"ในฐานะเบอร์ 9 เก่า ผมคาดหวังมากกว่านี้จากกองหน้าเบอร์ 9 ที่เล่นให้ ยูไนเต็ด ยอสโก้ กวาร์ดิโอล และ รูเบน ดิอาส ดูเหมือนว่าพวกเขาเดินเล่นในสวนสาธารณะในการดวลกับ เชชโก้ ในวันนี้" ดิออน ดับลิน กล่าว
แรตคลิฟฟ์ ดูไม่เหมือนคนที่จะใช้เวลาเพื่อเลื่อนดูโซเชียลมีเดีย แต่ถ้าเขาบังเอิญทำแบบนั้นเมื่อ 24 ชั่วโมงก่อน เขาอาจจะเห็นโพสต์ X ของ นาโปลี ที่เป็นรูป ฮอยลุนด์ ยิ่มแฉ่ง พร้อมหัวใจสีฟ้าและอิโมจิรูปไฟ เพื่อเชิดชูผู้เล่นหมายเลข 19 คนใหม่ของพวกเขาที่ทำประตูได้ สำหรับเป็นข้อมูลประกอบโพสต์ดังกล่าวที่มียอดวิว 3 ล้านครั้ง และยอดไลก์ 28,000 ครั้ง ส่วนประตูแรกของ เควิน เดอ บรอยน์ อยู่ที่ 12,000 ครั้ง และ 525 ครั้ง
มีความสนใจอย่างมากเกี่ยวกับฟอร์มการเล่นของ ฮอยลุนด์ ที่ไม่ได้อยู่ในสีเสื้อ ยูไนเต็ด เขาจะกลับมายังเมืองแมนเชสเตอร์ในวันพฤหัสบดีนี้ โดยหวังว่าจะทำได้ดีอีกครั้งที่เอติฮัด สเตเดี้ยม ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีก มากกว่าที่เหล่าเพื่อนๆ เก่าของเขาทำเมื่อคืนวันเสาร์
คุณภาพต่ำหรือเป็นเรื่องของระบบ?
สำหรับระบบของ อาโมริม กองกลาง ยูไนเต็ด มักจะถูกเปิดช่องให้เล่นได้ไม่เต็มที่ เนื่องจากจำนวนผู้เล่นที่ไม่มากพอ หรืออย่างน้อยก็ขาดผู้เล่นที่ยืนใกล้กันพอ เห็นได้ชัดจากความล้มเหลวในการป้องกันประตูแรก ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ เฌเรมี่ โดกู หนี บรูโน่ แฟร์นันด์ส แล้วก็ทะลวงแนวรับที่อึดอาด ก่อนจะเปิดบอลให้ ฟิล โฟเด้น โหม่งเข้าประตูไปแบบไม่น่าเชื่อ
แฟนบอลหลายคนกังวลว่ามันอาจถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแปลงแล้ว
ด้วยทีมชุดปัจจุบัน พวกเขารู้สึกว่ามีผู้เล่นมากพอที่จะเลือกแผนแบ็กโฟร์ กองกลางสามคน รวมถึงมี บรูโน่ แฟร์นันด์ส เล่นร่วมกับ ไบรอัน เอ็มเบอโม่ และ มาเตอุส กุนญ่า คอยสนับสนุน เชชโก้ พวกเขามองว่าสิ่งเหล่านี้แข็งแกร่งกว่า และจะทำให้ ยูไนเต็ด มีโอกาสเสียประตูง่ายๆ น้อยลง
"ในเกมกับ อาร์เซน่อล เราเป็นทีมที่ดีกว่า" อาโมริม โต้แย้ง
"(มาร์ติน) โอเดการ์ด, (เดแคลน) ไรซ์ และ (มาร์ติน) ซูบีเมนดี้ คือสามมิดฟิลด์ระดับท็อป เราเล่นแบบสองคน"
"แฟนๆ ไม่อยากได้ยินเรื่องนี้ แต่ผมก็พยายามจะใช้เหตุผล"
มันอาจกล่าวได้ว่าการที่คุณแค่เฝ้าดูข้างสนามโดยไม่ต้องรับผิดชอบผลที่ตามมาในฐานะผู้จัดการทีมนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่พวกนักวิเคราะห์หลายคนที่รับเงินมาก็มีประสบการณ์มากมายและเข้าใจพลวัตของเกม
"ปัญหาของผมกับระบบนี้คือการที่ผู้เล่นต้องเล่นในตำแหน่งที่ไม่คุ้นเคย" ธีโอ วัลค็อตต์ อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษกล่าว
"และผมอยากให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส อยู่ในตำแหน่งที่สูงขึ้นไปอีกในสนาม ผมอยากได้เซนเตอร์แบ็กที่แข็งแกร่งสองคนและระบบ 4-3-3 นั่นคือสิ่งที่ผมเชื่อ แต่เรารู้ว่าเขาจะไม่ทำแบบนั้น"
หลังจากเสร็จภารกิจกับสื่อ อาโมริม ก็เดินกลับเข้าไปในห้องแต่งตัวครู่หนึ่ง ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังทางออก โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของ ยูไนเต็ด เดินอยู่ข้างๆ ไม่มีแม้แต่การเงยหน้าขึ้นมองสื่อที่เขาเดินผ่านไป
เช่นเดียวกับ แรตคลิฟฟ์ ก่อนหน้านี้ เขามีเรื่องมากมายในใจ ต่างจาก คีน, ดับลิน และ วัลค็อตต์ เขาต้องหาคำตอบให้เร็วที่สุด
ร็อบบี้ ซาเวจ ซึ่งเป็นผู้จัดการทีม ฟอเรสต์ กรีน โรเวอร์ส ที่ปัจจุบันรั้งอันดับสองในเนชันแนลลีก ก็ไม่ได้รู้สึกเห็นใจ อาโมริม แต่อย่างใด
"กริมสบี้ เอาชนะพวกเขาได้" เขากล่าวในรายการ 606
"ผมเชื่อว่าตอนนี้ หาก ฟอเรสต์ กรีน โรเวอร์ส ผ่านเข้ารอบสามเอฟเอ คัพ ผมคงอยากจับสลากเจอกับพวกเขาในบ้าน"