เกิดใหม่ได้เฉย...

นั่นคือคำชื่นชมของ ฮันซี่ ฟลิค ถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด ในเดือนกันยายน ก่อนที่กองหน้ารายนี้จะกลับไปอังกฤษเพื่อลงเล่นเกมแชมเปี้ยนส์ลีกนัดแรกให้ บาร์เซโลน่า

ความมั่นใจของหัวหน้าโค้ชดูเหมือนจะเป็นแรงบันดาลใจใหักับ แรชฟอร์ด เขาทำสองประตูแรกให้กับยักษ์กาตาลัน และนำทีมเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-1 ที่เซนต์ เจมส์ พาร์ค

นี่คือความก้าวหน้าที่ แรชฟอร์ด รอคอยมาตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม บาร์เซโลน่า ในเดือนกรกฎาคม การยายทีมแบบยืมตัวจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำให้เกิดคำถามมากมาย

เขาจะมีบทบาทอย่างไรที่ บาร์เซโลน่า? เขาจะได้รับความไว้วางใจจาก ฟลิค หรือไม่? บาร์เซโลน่า จะคว้าตัวเขาแบบถาวรหรือไม่?

ในขณะเข้าสู่เบรกทีมชาติเป็นครั้งที่สองของฤดูกาล แรชฟอร์ด ลงเล่นให้ บาร์ซ่า ไปแล้ว 10 นัด และสัญญาณในช่วงแรกก็ดูมีแนวโน้มที่ดี

นอกเหนือจากตัวเลขแล้ว แรชฟอร์ด ยังได้รับการสนับสนุนจากแฟนๆ บาร์ซ่า อีกด้วย

บางคนบอกว่ายังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลงานของเขา ขณะที่บางคนมองว่าเขาเป็น "เซอร์ไพรส์ที่น่ายินดี"

"คุณจะสังเกตได้ทีละเล็กละน้อย เขาเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น" อเลฆานโดร แฟนตัวยงกล่าว

"เขามอบความสุขให้กับเราอย่างมาก เราเห็นได้ว่าเขากระหายความสำเร็จอย่างแท้จริง ดังนั้นตอนนี้แฟนๆ และทีมทั้งหหมดจึงสนับสนุนเขา"

ปาโบล แฟนบอลอีกคนกล่าวว่าเขาคิดว่า แรชฟอร์ด สามารถ "ทำผลงานได้เกิดความคาดหมายที่แฟนๆ หลายคนมีต่อเขา"

ช่วงแรกที่น่าผิดหวัง

เมื่อ แรชฟอร์ด ลงเล่นในลา ลีกา นัดแรกจากม้านั่งสำรองเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ในเกมที่บุกไปเอาชนะ มายอร์ก้า 3-0 ความคาดหวังก็ค่อนข้างต่ำ

เขาย้ายมาอยู่กับ บาร์ซ่า หลังจากหมดความนิยมที่ ยูไนเต็ด และในฐานะตัวเลือกอันดับสามสำหรับตำแหน่งกองหน้าซึ่งสโมสรต้องการเสริมความแข็งแกร่ง

สโมสรต้องการเซ็นสัญญากับกองหน้าที่สามารถสนับสนุน ราฟินญ่า ทางปีกซ้าย และเพิ่มขุมกำลังเชิงลึกให้กับแนวรุก

พวกเขาสนใจดาวเตะวัย 27 ปี หลังจากไม่สามารถคว้าตัวเลือกอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น นีโก้ วิลเลี่ยมส์ และ หลุยส์ ดีอาซ ในขณะนั้น

การลงเล่นในลีกนัดแรกของ แรชฟอร์ด ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร และสองนัดต่อมาในลีกสเปนก็ไม่ได้แตกต่างจากเดิม โดยกองหน้ารายนี้ลงเล่นไม่เกิน 45 นาทีในแต่ละเกม

ในเวลานั้น สื่อสเปนบรรยายถึง แรชฟอร์ด ว่าเป็น "ฟวยโก เลนโต้" หรือ "ไฟที่ไหม้ช้าๆ" โดยกล่าวว่าฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดของเขาอยู่ในช่วงปรีซีซั่นในการเจอกับคู่แข่งที่เล่นด้วยง่าย และไม่มีแรงกดดันในการแข่งขัน

อย่างไรก็ตาม ประตูที่เขายิงให้ทีมชาติอังกฤษในเกมชนะ เซอร์เบีย 5-0 ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก เมื่อเดือนกันยายน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของผลงานที่น่าประทับใจยิ่งขึ้น

อิทธิพลที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

อาการบาดเจ็บของ ลามีน ยามาล, ราฟินญ่า และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เปิดโอกาสให้ แรชฟอร์ด ได้ลงเล่นอีกครั้ง ทำให้เขามีโอกาสได้เป็นตัวจริงให้กับ ฟลิค อย่างต่อเนื่อง ซึ่งอิทธิพลของเขาที่มีต่อแนวรุก บาร์ซ่า ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เขาลงตัวจริง 6 จาก 7 นัดหลังสุดในทุกรายการ ครั้งเดียวที่เขาไม่ได้ลงเล่นตัวจริงคือเกมกับ เคตาเฟ่ เป็นเพราะมาประชุมทีมสาย แต่ก็ได้ลงเล่นตลอดทั้งครึ่งหลัง

แหล่งข่าวจาก บาร์เซโลน่า กล่าวว่า แรชฟอร์ด มาสาย 2 นาที ทำให้ ฟลิค ต้องบังคับใช้นโยบายที่เข้มงวดในการไม่ให้ผู้เล่นลงตัวจริงหากพวกเขามาสายในการซ้อมหรือประชุมทีม

นี่เป็นนัดเดียวจาก 7 เกมหลังสุดของ บาร์ซ่า ที่ แรชฟอร์ด ไม่ได้มีส่วนร่วมกับประตูโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการยิงเองหรือแอสซิสต์

ความก้าวหน้าของเขาได้รับความชื่นชมอย่างมาก เริ่มต้นด้วยแอสซิสต์แรกในเกมกับ บาเลนเซีย ตามด้วยสองประตูในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกที่ นิวคาสเซิ่ล และต่อด้วยแอสซิสต์ในเกมกับ เรอัล โอเบียโด้ และ เรอัล โซเซียดาด รวมถึง ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ในแชมเปี้ยนส์ลีก

ในเกมสุดท้ายก่อนเบรกทีมชาติรอบสอง แรชฟอร์ด ทำประตูแรกในลา ลีกา ได้สำเร็จ แม้จะเป็นประตูปลอบใจในเกมที่ บาร์ซ่า แพ้ เซบีย่า 1-4 ก็ตาม

สองแอสซิสต์ของเขามาจากลูกเตะมุม ซึ่งเป็นจุดที่ บาร์ซ่า ไม่เคยสร้างความอันตรายได้มาก่อน สื่อสเปนต่างพากันเน้นย้ำถึงผลงานของเขา แหล่งข่าวหนึ่งระบุว่า "ด้วยความแม่นยำในการผ่านบอล บาร์ซ่า ได้ค้นพบอาวุธใหม่ในการเล่นลูกตั้งเตะ"

ผลงานอันโดดเด่นของ แรชฟอร์ด ในแชมเปี้ยนส์ลีก ที่พบกับ นิวคาสเซิ่ล ได้รับคำชมเป็นพิเศษจาก ฟลิค

"เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม มีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม และการจบสกอร์ของเขานั้นก็ยอดเยี่ยมมาก" อดีตกุนซือ บาเยิร์น มิวนิค และทีมชาติเยอรมัน กล่าว

"สำหรับกองหน้าแล้ว การทำประตูได้ถือเป็นเรื่องดีเสมอ ดังน้ันผมจึงดีใจกับเขามาก ก่อนเริ่มฤดูกาล ผมกับ เดโก้ (ผู้อำนวยการกีฬา) เคยบอกไปแล้วว่าเราต้องการนักเตะแบบเขา"

มีส่วนร่วมกับประตูมากที่สุดในทีม

แรชฟอร์ด มีส่วนร่วมกับประตูมากกว่าผู้เล่นทุกคนใน บาร์เซโลน่า จากทุกรายการในซีซั่นนี้ ด้วย 3 ประตู และ 4 แอสซิสต์

เฟร์ราน ตอร์เรส ทำได้ 5 ประตู 1 แอสซิสต์ เท่ากับว่ามีส่วนร่วม 6 ครั้ง ขณะที่ ลามีน ยามาล ทำได้ 2 ประตู และ 3 แอสซิสต์ แต่เจ้าของอันดับสองบัลลงดอร์วัย 18 ปี พลาดการลงเล่นถึง 4 เกม เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ได้รับในช่วงเบรกทีมชาติเดือนกันยายน

แรชฟอร์ด เป็นผู้เล่น บาร์ซ่า ที่ได้โอกาสยิงมากที่สุด (27) และยิงตรงกรอบมากที่สุด (11) รวมถึงสัมผัสบอลในกรอบเขตโทษมากที่สุด (69) นอกจากนี้เขายังอยู่ในอันดับสองของการสร้างโอกาส (18) ตามหลังเพียง เปดรี้ (24)

เว็บไซต์ของ บาร์เซโลน่า ได้เผยแพร่บทความชื่นชม แรชฟอร์ด เมื่อต้นเดือนตุลาคม โดยยกย่อง "ความพยบายามและความสม่ำเสมอ" ของเขา พร้อมระบุว่า "สถิติที่น่าทึ่งสำหรับนักเตะใหม่ แสดงให้เห็นว่าดาวเตะชาวอังกฤษรายนี้มาถึง บาร์เซโลน่า ด้วยความตั้งใจที่จะสร้างชื่อเสียง และเขาก็กำลังประสบความสำเร็จ"

มีส่วนร่วมกับประตูต่อจำนวนนาทีดีที่สุด

นับตั้งแต่สวมเสื้อ บาร์ซ่า ครั้งแรก แรชฟอร์ด มีส่วนสำคัญกับประตูให้ทีมทุกๆ 88 นาที

ทำให้เขาอยู่อันดับห้าในบรรดานักเตะลา ลีกา ที่มีส่วนร่วมกับประตูต่อหนึ่งนาที ตามหลังเพียง คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้, ฮูเลียน อัลวาเรซ, วินิซิอุส จูเนียร์ และ อัลบาโร่ การ์เซีย

เป็นเรื่องง่ายที่จะมองข้ามว่าในฤดูกาล 2022-23 แรชฟอร์ด ทำประตูได้มากกว่า 30 ลูกให้ แมนฯ ยูไนเต็ด และเป็นดาวซัลโวอันดับ 6 ของพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนั้นแสดงให้เห็นถึงความสามารถของ แรชฟอร์ด ด้วยความมั่นใจและการได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่อง และ บาร์ซ่า หวังว่าเวทมนตร์แบบเดิมจะกลับมาอีกครั้ง

จะได้ย้ายถาวรไหม?

แรชฟอร์ด มายัง บาร์ซ่า ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างผลงานและเปิดศักราชใหม่ที่ดีในเส้นทางอาชีพที่ขึ้นๆ ลงๆ

สโมสรมีทางเลือกในการเซ็นสัญญาถาวรกับเขาในราคา 30.3 ล้านปอนด์ (35 ล้านยูโร) ในปี 2026 แต่ เดโก้ บอกกับสื่อสเปนว่าจะหารือกันในภายหลัง

"ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงการตัดสินใจในฤดูกาลหน้า แต่สิ่งสำคัญคือเรามีความสุขกับเขา" ผู้อำนวยการฟุตบอลกล่าว

แหล่งข่าวอีกคนของสโมสรย้ำเรื่องนี้ โดยกล่าวว่า "เราทุกคนยินดีและตื่นเต้นกับเขา และผลงานของเขา เดโก้, ฟลิค และเพื่อนร่วมทีม มาร์คัส เองก็มีความสุขกับเรา กับเพื่อนร่วมทีม และกับเมืองบาร์เซโลน่าเช่นกัน"

"เห็นได้ชัดว่าหากเขายังคงพัฒนาต่อไปแบบนี้ มีโอกาสสูงมากที่มันจะเป็นแบบนั้น แต่เราเพิ่งเริ่มต้นฤดูกาลและยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงเรื่องนี้"

บาร์เซโลน่า มีโปรแกรมสำคัญก่อนการแข่งขันฟุตบอลทีมชาติรอบต่อไป ซึ่งรวมถึงดาร์บี้แมตช์กับ จีโรน่า, แชมเปี้ยนส์ลีกกับ โอลิมเปียกอส และ คลับ บรูช จากนั้นก็เอล กลาซิโก้ กับ เรอัล มาดริด ที่เบร์นาเบว

หลังจากแพ้ 2 นัดติดต่อกันให้กับ เปแอสเช และ เซบีย่า รวมถึงการที่ ราฟินญ่า กลับมาจากอาการบาดเจ็บ สื่อสเปนคาดการณ์ว่า ฟลิค จะต้องปรับเปลี่ยนแผนบางอย่าง

สำหรับ แรชฟอร์ด นี่เป็นโอกาสที่จะปรับตัวและแสดงให้เห็นถึงความสามารถรอบด้านของเขา ขณะที่เขายังคงมุ่งมั่นที่จะเล่นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง

เขาต้องการย้ายขาดเลยตั้งแต่เดือนมกราคม แต่ก็อาจต้องรอจนถึงช่วงซัมเมอร์ และก่อนที่เขาจะเริ่มต้นเขารีบพูดเลยว่า บาร์เซโลน่า ทำให้ "รู้สึกเหมือนอยู่บ้าน" ตอนนี้ภาระหน้าที่ของเขาอยู่บนบ่าของเขาเองแล้วที่จะทำทุกอย่างให้ยังคงเป็นเช่นนั้นต่อไป