มวยไทย 3 ยก VS มวยไทย 5 ยก

     กระทั่งมีการปฏิรูปกติกาในปี พ.ศ. 2472 การกำหนดให้ชก 5 ยก เกิดขึ้นพร้อมกับการจัดระบบการแข่งขันมวยไทยแบบสมัยใหม่ โดยมีการแบ่งเวลาชัดเจน ยกละ 3 นาที พัก 2 นาที และใช้สังเวียนมาตราฐาน 

     เหตุผลหลักคือการเพิ่มความปลอดภัยสำหรับนักมวย และทำให้การแข่งขันเป็นระบบมากขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้สอดคล้องกับยุคที่มวยไทยเริ่มได้รับอิทธิพลจากมวยสากลตะวันตก ซึ่งใช้ระบบยกและการตัดสินคะแนน 

      กระทั่งมาจนถึงยุคปัจจุบัน มวยไทย มีการปรับเปลี่ยน มาเหลือ 3 ยกจากปัจจัยหลายอย่าง บางก็อ้างว่ามวยไทย 5 ยก ออกอาวุธกันจริงๆแค่ ยก 3 ยก 4 โดยส่วนใหญ่ ยก 1 ยก 2 ดูเชิง และ ยก 5 ก็ออกมาคุมเชิง ทำให้ มวยไทย ไม่สนุกเท่าที่ควร แต่เหตุผลหลักจริงๆ น่าจะมาจากเรื่องเวลาการถ่ายทอดสด ซึ่งปัจจุบัน มวยไทย เกือบทุกเวทีจะมีการถ่ายทอด ต้องการความกระชับในการออกอาการ มวย 3 ยก จึงเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีเสียงคัดค้านว่า "มวยไทย" ที่แท้จริง ต้องชก 5 ยก ก็ตามเทียบเคียงกันแล้ว

มวยไทย 3 ยก

✅ ข้อดี:

• รวดเร็ว เร้าใจ: นักมวยไม่มีเวลาผ่อนเกม ต้องเดินหน้าบุก ทำให้ดูสนุก ดุดัน

• เหมาะกับผู้ชมใหม่: กระชับ เข้าใจง่าย ไม่ยืดยาว

• ลดการบาดเจ็บสะสม: นักมวยไม่ต้องรับแรงปะทะนานเท่ามวย 5 ยก

• เข้ากับรูปแบบถ่ายทอดสดยุคใหม่: เหมาะกับแพลตฟอร์มออนไลน์และผู้ชมที่มีเวลาน้อย

❌ ข้อเสีย:

• ใช้เชิงน้อยกว่า: นักมวยไม่ค่อยมีโอกาสโชว์ฝีมือแบบค่อยเป็นค่อยไป

• อาจดูขาดกลยุทธ์: เพราะต้องเร่งเกมตั้งแต่ต้น ไม่มีช่วงผ่อนจังหวะ

มวยไทย 5 ยก

✅ ข้อดี:

• โชว์เชิงมวยแท้: นักมวยมีเวลาอ่านเกม วางแผน และใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ

• มีกลิ่นอายดั้งเดิม: สะท้อนวัฒนธรรมและจิตวิญญาณของมวยไทย

• เน้นความแข็งแกร่งและความอึด: ต้องอึด ทน และฟิตมากกว่ามวย 3 ยก

❌ ข้อเสีย:

• อาจช้าในยกแรก ๆ: บางครั้งยก 1-2 จะเน้นดูเชิง ไม่ค่อยมีแอ็กชัน

• ใช้เวลานาน: บางคนมองว่ายาวเกินไป

     มวยไทย 3 ยก หรือ มวยไทย 5 ยก แบบไหนดีกว่าอันนี้ อยู่ที่ รสนิยมของผู้ชมมากกว่า ชอบความกระชับฉับไว หรือชอบลีลาชั้นเชิง ซึ่งจริงๆแล้วทั้งสองแบบต่างก็มีสเน่ห์ไปคนละแบบ จึงไม่มีความจำเป็นตรงไหนที่จะมานั่งทะเลาะกันว่าแบบไหนดีกว่า