เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมามี ข่าวในเว็บไซด์ ต่างประเทศ หลายแห่ง รายงานว่า ONE Championship กำลังเผชิญวิกฤติหลายด้าน ทั้งการเงิน การบริหาร นักสู้ที่ออกจากสังกัด ความสัมพันธ์กับนักลงทุน และความน่าเชื่อถือของผู้นำองค์กร โดยสรุป 3 ประเด็นสำคัญดังนี้
1 ปัญหาการเงิน
-ขาดทุนสะสมสูงถึง $530 ล้านดอลลาร์ โดยมีสินทรัพย์สุทธิเหลือเพียง $24.6 ล้านดอลลาร์
-รายได้ $68 ล้านในปี 2023 โต 25% แต่ส่วนใหญ่เป็น "รายได้ไม่เป็นตัวเงิน" ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าไม่ยั่งยืน
-เงินสดใกล้หมด ต้องพึ่งพาการระดมทุนใหม่หรือทำกำไรให้ได้เร็ว ซึ่งยังไม่เกิดขึ้น
2. ปัญหาจากนักสู้และทีมงาน
Reinier de Ridder (อดีตแชมป์ 2 สมัย) กล่าวหาว่า ONE จัดไฟต์ให้น้อยเกินไป และเตือนนักสู้รายอื่นไม่ให้เซ็นสัญญา
Reece McLaren ขอถอนตัวหลายครั้ง แต่องค์กรไม่ยอม แม้จะร้างเวทีไปนาน
Bibiano Fernandes, Sage Northcutt, Mikey Musumeci ลาออกด้วยเหตุผลคล้ายกัน
ชาตรี ศิษย์ยอดธง CEO ของ ONE ถูกวิจารณ์หนัก จากการแสดงความเห็นเชิงลบต่อนักสู้ในที่สาธารณะ เช่น กล่าวหา ไคโตะ โอโนะ ว่า "ขี้ขลาด" ก่อนจะต้องขอโทษในภายหลัง
3 แผนขยายตลาดสหรัฐฯ ล้มเหลว
มีการยกเลิกการจัดงานใน Denver และ Atlanta รวมถึง Amazon Prime Video จะไม่ต่อสัญญาสตรีมมิงในปี 2025
กระทั่ง วันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ชาตรี ศิษย์ยอดธง ได้ออกมาโต้ข่าว ผ่านโพสต์เฟซบุ๊กโดยสรุปใจความได้ว่า
-ONE ถูกโจมตีจาก "กลุ่มไม่หวังดี" ที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จ
-ยอมรับว่ามีข้อผิดพลาดบางอย่าง แต่กำลังปรับปรุงและใกล้ถึงจุดคุ้มทุน
-ปัดประเด็นขาดทุนสะสม โดยอ้างว่ากำลังลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ต่อเนื่อง
-ยืนยันว่า Amazon Prime Video จะต่อสัญญาจนถึงปี 2027
สรุปแล้ว ONE Championship กำลังอยู่ในภาวะ "วิกฤตความเชื่อมั่น" มากกว่า “วิกฤตทางการเงิน”ในทันที แต่หากไม่สามารถแก้ไขปัญหาเชิงระบบได้โดยเร็ว โดยเฉพาะการรักษานักสู้ซูเปอร์สตาร์ในสังกัด ซึ่ง ปัจจุบัน ONE มีมวยแม่เหล็กที่เรียกแฟนมวยไม่กี่ราย รวมถึงยังไม่มี นักชกหน้าใหม่ที่น่าสนใจ ขึ้นมาเรียกความสนใจจากแฟนมวย การสร้างรายได้มั่นคง และการบริหารความสัมพันธ์กับนักลงทุน โอกาสที่จะถดถอยหรือถูกซื้อกิจการโดยกลุ่มทุนอื่นๆก็มีสูงขึ้นเรื่อยๆ
