6 คู่ชก บททดสอบสำคัญของ เทเรนซ์ ครอว์ฟอร์ด

อย่างไรก็ตาม เมื่อชัยชนะเหนือ คาเนโล ผ่านพ้นไปแล้ว คำถามสำคัญที่เหลืออยู่คือ: ก้าวต่อไปของนักชกอันดับ 1 เมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ ของ ESPN ควรจะเป็นใคร?
การรีแมตช์กับ คาเนโล อาจนำมาซึ่งค่าตัวมหาศาล แต่ไฟต์นั้นจำเป็นหรือไม่? ครอว์ฟอร์ดครองเกมเหนือกว่าอย่างชัดเจน โอกาสที่ผลลัพธ์จะซ้ำรอยเดิมมีสูง แต่ก็ถือเป็นทางเลือก "ทำเงินง่ายๆ" สำหรับเขา
แต่หากไม่มีรีแมตช์ ครอว์ฟอร์ด ควรเลือกใครเพื่อเสริมสร้างตำนานของเขาต่อไป? เขาควรจะลดน้ำหนักลง 8 ปอนด์เพื่อพิชิตรุ่น 160 ปอนด์ ซึ่งเป็นรุ่นที่เขาไม่เคยชกมาก่อน หรือเขาควรจะท้าทายตัวเองด้วยการสู้กับนักชกที่ใหญ่กว่า มีฝีมือดีกว่า ซึ่งเป็นไฟต์ที่มีความเสี่ยงมหาศาล แต่มีศักยภาพในการสร้างเกียรติยศที่ไม่มีใครเทียบได้?
จากการวิเคราะห์คู่ชกที่เป็นไปได้ มี 5 ชื่อที่โดดเด่น และอีก 1 ชื่อที่เป็น "โบนัสแมตช์" ที่มาพร้อมค่าตัวมหาศาล
คู่ชกที่เป็นไปได้ตามตรรกะ (The Most Logical Opponents) พิกัด 160 ปอนด์
1. คาร์ลอส อาดาเมส (Carlos Adames) (24-1-1, 18 KOs)
แชมป์โลกรุ่นมิดเดิลเวท (WBC)
หากครอว์ฟอร์ดตัดสินใจท้าชิงตำแหน่งแชมป์โลกที่ 160 ปอนด์ ชัยชนะในไฟต์นี้จะทำให้เขาเป็นนักชกคนที่สอง ที่คว้าแชมป์โลกได้ถึง 6 รุ่น เป็นรองแค่ แมนนี่ ปาเกียวที่ครองแชมป์ 8 รุ่น
จุดแข็งของ อาดาเมส : อาดาเมสไม่ใช่คู่ชกที่รับมือง่าย มีความสามารถรอบด้าน จังหวะการชกที่แม่นยำ การออกหมัดที่หลากหลายทั้งบนและล่าง และมีพลังหมัดที่หนักหน่วง การซ้อมกับ ครอว์ฟอร์ด เมื่อหลายปีก่อนแสดงให้เห็นว่าเป็นไฟต์ที่สูสี
บทสรุป: แม้ อาดาเมส จะมีฝีมือดี แต่ ครอว์ฟอร์ด มีประสบการณ์ ความสุขุม การแก้เกมระหว่างชกที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน หาก ครอว์ฟอร์ด เตรียมตัวมาอย่างเต็มที่ เขาจะใช้ประสบการณ์และความฉลาดบดขยี้ อาดาเมส อย่างเป็นระบบ โดยเน้นการโจมตีลำตัว และคาดว่าจะเอาชนะน็อกได้ภายใน 10 ยก
โอกาสชนะของครอว์ฟอร์ด: 70%
2. จานิเบก อลิมคาฮานูลี (Janibek Alimkhanuly) (17-0, 12 KOs)
แชมป์โลกรุ่นมิดเดิลเวท (IBF, WBO)
มีรายงานว่าการเจรจาสำหรับการชกเพื่อรวมแชมป์รุ่นมิดเดิลเวทระหว่าง อลิมคาฮานูลี กับ อริสแลนดี้ ลาร่า (แชมป์ WBA) กำลังดำเนินไป หากเกิดขึ้น ผู้ชนะจะเป็นราชาที่แท้จริงของรุ่น 160 ปอนด์ ซึ่งจะดึงดูดความสนใจของ ครอว์ฟอร์ด ได้อย่างแน่นอน
ลักษณะไฟต์ : นี่จะไม่ใช่การเล่นหมากรุก แต่จะเป็น ดวลกันแบบ หมัดต่อหมัด เพราะทั้งคู่เป็นมวยถนัดซ้ายที่มีพลังหมัดอันตรายทั้งสองข้าง
จุดแข็งของ อลิมคาฮานูลี : ด้วยรูปร่างที่สูง (5 ฟุต 11 นิ้วครึ่ง) ความเร็วหมัด พลังทำลาย และความแม่นยำระดับศัลยแพทย์ ทำให้เขาเป็นฝันร้ายทางเทคนิค อลิมคาฮานูลีเป็นนักชกที่เก่งกาจในการตอบโต้ ที่จะไม่เสียเปล่าในการออกหมัด และสามารถผลักดันความสามารถในการปรับตัวของครอว์ฟอร์ดให้อยู่ในขีดจำกัด
ข้อกังวล : อลิมคาฮานูลีขาดประสบการณ์ในการชก 12 ยกเต็ม และมีแนวโน้มที่จะโดนยื้อให้ชกมากยก ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อการสู้กับนักชกที่ฉลาดและโหดเหี้ยมอย่างครอว์ฟอร์ด
บทสรุป : แม้อันตรายของ อลิมคาฮานูลี จะสูง แต่ ครอว์ฟอร์ด มีประสบการณ์ที่เหนือกว่ามาก โดยมีจำนวนไฟต์อาชีพเป็นสองเท่า และเคยเจอคู่ชกที่มีคุณภาพสูงกว่ามาก ไฟต์นี้จะขึ้นอยู่กับ "ความมุ่งมั่น" ที่จะกัดฟันสู้เมื่อถึงจุดสำคัญ คาดว่าครอว์ฟอร์ดจะเฉือนชนะไปได้ด้วย คะแนนไม่เป็นเอกฉันท์ และจะเป็นไฟต์ที่ยากลำบากอย่างยิ่ง
โอกาสชนะของครอว์ฟอร์ด: 55%
3. เอริสแลนดี้ ลาร่า (Erislandy Lara) (31-3-3, 19 KOs)
แชมป์โลกรุ่นมิดเดิลเวท (WBA)
การชกกับ ลาร่า (วัย 42 ปี) ถือเป็นไฟต์ที่มีความเสี่ยงสูงแต่ผลตอบแทนต่ำสำหรับ ครอว์ฟอร์ด นอกเหนือจากโอกาสในการคว้าเข็มขัดแชมป์โลกอีกเส้นหนึ่ง
สไตล์ที่น่าหงุดหงิด : ลาร่า เป็นที่รู้กันว่าเป็นคู่ชกที่ทำให้ทุกคนดูไม่ดี สไตล์การป้องกันตัวของเขาที่เน้นการเคลื่อนไหวออกข้างลำตัว และ การสวนกลับที่แม่นยำ ทำให้เขากลายเป็นมวยชกยากที่น่าหงุดหงิด ลาร่า ใช้ฟุตเวิร์กที่ยอดเยี่ยมเพื่อควบคุมระยะและจังหวะการชก และไม่ค่อยเปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้เข้าทำ
บทสรุป : ครอว์ฟอร์ด คือปรมาจารย์ด้านการปรับตัวและการค้นหาจุดอ่อน เขาจะต้องทดลองโจมตีตั้งแต่เนิ่น ๆ ผสมผสานความดุดันกับการโจมตีที่คิดคำนวณ จนกว่าจะหาจังหวะที่เหมาะสมในการต้อน ลาร่า เข้ามุมและเปิดฉากทำคะแนน ลาร่า จะพยายามเอาตัวรอดและทำให้ ครอว์ฟอร์ด หงุดหงิดเพื่อดึงจังหวะสวนด้วยหมัดซ้ายตรง แต่ ครอว์ฟอร์ด ฉลาดเกินไป มีวินัยสูงเกินไปที่จะติดกับดักนั้น คาดว่า ครอว์ฟอร์ด จะชกครบยกและชนะด้วย คะแนนเป็นเอกฉันท์ที่ชัดเจน
โอกาสชนะของครอว์ฟอร์ด: 75%
สองไฟต์ที่จะยกระดับสู่ GOAT (Greatest of All Time)
สองไฟต์ถัดไปนี้แม้จะเป็นไปได้ยาก แต่จะเป็นบททดสอบขั้นสุดยอดของขนาดตัว ทักษะ ความมุ่งมั่น และจิตใจของครอว์ฟอร์ด หากเขากล้าที่จะเผชิญหน้ากับ "ยักษ์ใหญ่" เพื่อไล่ล่าความยิ่งใหญ่ที่อยู่เหนือกฎเกณฑ์ด้านน้ำหนัก นี่จะไม่ใช่แค่บทหนึ่งในอาชีพ แต่จะเป็นการนิยามตำนานของเขาใหม่
4. เดวิด เบนาวิเดซ (David Benavidez) (30-0, 24 KOs)
แชมป์โลกรุ่นไลต์เฮฟวี่เวท (WBC)
ถึงแม้ เบนาวิเดซ จะขึ้นไปชกในรุ่น 175 ปอนด์แล้ว แต่ถ้าลองจินตนาการถึงสถานการณ์ที่เขาตัดสินใจลดกลับมาที่ 168 ปอนด์ เพื่อเผชิญหน้ากับ ครอว์ฟอร์ด ไฟต์นี้จะดุเดือดราวกับ "นรกบนดิน"
ลักษณะไฟต์ : เป็นการปะทะกันทางกายภาพที่ทรหด และ เงินรางวัลสูง เบนาวิเดซ นำมาซึ่งพลังที่ดุร้ายและความเชื่อมั่นทางจิตใจที่รุนแรง
จุดแข็งของ เบนาวิเดซ : ด้วยขนาดตัว (6 ฟุต 2 นิ้ว) ช่วงแขน (74 นิ้วครึ่ง) และการเดินหน้ากดดันอย่างไม่หยุดหย่อน เขาจะบังคับให้ครอว์ฟอร์ดต้องใช้ความสามารถในการแข่งขันที่ลึกซึ้งที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา เบนาวิเดซทำลายคู่ชกในรุ่น 168 ด้วยการผสมผสานหมัดชุดจำนวนมาก และการต้อนคู่ต่อสู้จนหมดกำลังและพละกำลัง ความกดดันของเขาเป็นไปอย่างมีจุดมุ่งหมายและสร้างความเสียหาย
บทสรุป : ครอว์ฟอร์ด มีทักษะเหนือกว่า เบนาวิเดซ ที่อาศัยพละกำลังและความมุ่งมั่นที่มหาศาล ความเสียเปรียบทางร่างกายถือเป็นเรื่องจริงในไฟต์นี้ แต่ก็ไม่สามารถมองข้ามความยิ่งใหญ่ของ ครอว์ฟอร์ด ได้เลย นี่คือไฟต์ 50/50 ที่จะทดสอบความมุ่งมั่นของทั้งคู่
โอกาสชนะของครอว์ฟอร์ด: 50%
5. ดมิทรี บิโวล (Dmitry Bivol) (24-1, 12 KOs)
แชมป์โลกรุ่นไลต์เฮฟวี่เวท (IBF, WBO, WBA)
การชกกับบิโวล ผู้ที่เคยเอาชนะคาเนโลมาแล้ว ถือเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะขยายขอบเขตความยิ่งใหญ่ให้ถึงขีดสุด หากมีใครที่สามารถทดสอบทุกอณูของทักษะ จิตใจ และความสามารถในการปรับตัวของครอว์ฟอร์ดได้ คนนั้นคือบิโวล
ลักษณะไฟต์ : ถ้า เบนาวิเดซ เป็นการทดสอบทางกายภาพ บิโวล จะเป็น การต่อสู้ทางความคิด การทดสอบทักษะ กลยุทธ์ และการปรับตัวในระดับสูงสุดของมวยสากล
สไตล์ที่เหนือชั้น : บิโวล ไม่พึ่งพากำลังกาย แต่ใช้การชิงเหลี่ยมเอาชนะคู่ต่อสู้ พลังหมัดของ ครอว์ฟอร์ด อาจไม่มีผลกับ บิโวล ซึ่งเน้นความแม่นยำ ความเร็ว และจังหวะเพื่อทำลายคู่ชก มากกว่ากำลังดิบ การควบคุมระยะและฟุตเวิร์กที่เหนือกว่าของ บิโวล จะทำให้ความได้เปรียบช่วงแขนของ ครอว์ฟอร์ด เป็นโมฆะ
ปัญหาของครอว์ฟอร์ด : บิโวลจะไม่ไล่ตาม แต่จะบีบให้ ครอว์ฟอร์ด เป็นฝ่ายนำ ทำให้เขาเข้าสู่พื้นที่อันตรายเพื่อหาช่องโหว่ การชกในท่าถนัดซ้ายของ ครอว์ฟอร์ด จะเสี่ยงต่อหมัดขวาที่เฉียบคมของ บิโวล ซึ่งเขาจับจังหวะได้ดีกับมวยซ้าย
บทสรุป : ความเชี่ยวชาญในพื้นฐานมวยสากล ความสุขุม การควบคุมระยะ เวลา จังหวะ ขนาดตัว และ ความฉลาดในการชก ของบิโวล อาจทำให้ทุกสิ่งที่ทำให้ ครอว์ฟอร์ด พิเศษ ถูกทำให้เป็นกลาง ในเกมหมากรุกความเร็วสูงนี้ สไตล์และขนาดตัวของ บิโวล คือคู่ชกที่ผิดประเภท สำหรับครอว์ฟอร์ด และมีโอกาสที่จะชนะคะแนนไปได้
โอกาสชนะของครอว์ฟอร์ด: 45%
โบนัสแมตช์: การป้องกันแชมป์ที่อาจมีค่าตัวมหาศาล
6. ฮัมซาห์ ชีราซ (Hamzah Sheeraz) (22-0-1, 18 KOs)
ผู้ท้าชิงรุ่นซูเปอร์มิดเดิลเวท
ในฐานะราชาคนใหม่ของรุ่น 168 ปอนด์ ครอว์ฟอร์ดเปลี่ยนจากผู้ล่ามาเป็นผู้ถูกล่า ผู้ท้าชิงดาวรุ่งอย่าง ชีราซ กำลังจ้องมองโอกาสที่จะโค่นล้มแชมป์เบอร์ 1 โลกรายนี้
แรงจูงใจ : คำตอบสำหรับไฟต์นี้คือ เงิน หากค่าตัวถูกต้อง ไฟต์นี้ก็พร้อมเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
จุดแข็งของชีราซ : ชีราซโดดเด่นด้วยขนาดตัวที่ใหญ่มาก (6 ฟุต 3 นิ้ว) ซึ่งสูงกว่าครอว์ฟอร์ดถึง 7 นิ้ว แต่สิ่งที่น่าตกใจคือ ช่วงแขน 75 นิ้วของครอว์ฟอร์ดนั้นแทบจะเท่ากับชีราซ ทำให้ความได้เปรียบด้านความสูงตามปกติถูกหักล้างไป ชีราซสามารถลดช่วงการออกหมัดได้ดี ทำให้เกิดการฮุกและอัปเปอร์คัตที่รวดเร็วและหนักหน่วงในระยะประชิด ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่หาได้ยากสำหรับนักชกสูง
บทสรุป : ครอว์ฟอร์ดเป็นนักชกที่สมบูรณ์แบบที่สามารถแก้เกมได้ทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักชกที่สูงกว่าอย่าง วิกเตอร์ โพสตอล ที่เขาเคยเอาชนะด้วยการออกหมัดถอยหลังและการควบคุมระยะที่เหนือชั้น ครอว์ฟอร์ดเป็นผู้ที่คาดการณ์การปรับตัวของคู่ต่อสู้และฉกฉวยโอกาสนั้น การต่อสู้จะสูสีในช่วงแรก แต่คาดว่าครอว์ฟอร์ดจะเริ่มสร้างความได้เปรียบตั้งแต่ยกที่ 7 เมื่อชีราซเริ่มหมดทางเลือกในการตอบโต้ความสามารถของครอว์ฟอร์ด และจะชนะด้วยการ หยุดชกในยกหลังๆ
โอกาสชนะของครอว์ฟอร์ด: 60%