เขาสูงชันรออยู่ที่ปารีส

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
อาร์เซน่อล เจอโจทย์ยากยิ่งขึ้นในการลุ้นเข้าชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังพลาดท่าพ่ายคาบ้านต่อ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในนัดแรกของรอบตัดเชือก

บทสรุปที่สะท้อนผลการแข่งขันได้ชัดเจนสุดคือ 20 นาทีแรกที่ เปแอสเช ขย่มใส่ อาร์เซน่อล อยู่ฝ่ายเดียว และได้ประตูตั้งแต่สามนาทีเศษจาก อุสมาน เดมเบเล่

ประตูนี้ต่อบอลมากถึง 26 ครั้ง กลายเป็นสถิติเสียประตูในแชมเปี้ยนส์ ลีก จากการที่คู่แข่งต่อบอลกันมากสุดของ อาร์เซน่อล นับตั้งแต่ฤดูกาล 2003/04 ที่เริ่มเก็บสถิติกันมา

อาร์เซน่อล เริ่มต้นเกมได้น่าผิดหวัง และไม่ใช่สิ่งที่ มิเกล อาร์เตต้า ต้องการเห็นหลังจากพยายามบิ้วด์อารมณ์ก่อนเกมหลายอย่างซึ่งรวมถึงชักชวนให้แฟนบอลสวมชุดแข่งและรองเท้าสตั๊ดเข้าชมเกมด้วยเสมือนว่าลงแข่งไปพร้อมกับผู้เล่นในสนาม

นอกจากโดนเร็วโดนไวแล้ว อาร์เซน่อล ไม่สามารถตั้งเกมได้เลยในช่วง 20 นาทีแรก ไม่มีโอกาสลุ้นยิงแม้แต่ครั้งเดียว ไม่มีจังหวะเลี้ยงผ่านคู่แข่งได้ด้วย

การครองบอล การผ่านบอลสำเร็จในแดนคู่แข่ง และการดวลตัวต่อชนะ มีสัดส่วนไม่ถึงครึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเวลาตั้งแต่นาที 21 จนถึงจบเกม

เปแอสเช วางแผนการเล่นมาดีมากด้วยการไล่เพรสสูง และขยับกันทั้งทีม ทำให้ยืนเต็มทุกพื้นที่ อาร์เซน่อล ขึ้นเกมลำบากมาก และโดนบีบให้ต้องเปิดยาวซึ่งแทบจะเปิดทิ้งเล่นต่อไม่ไหวเกือบทุกครั้ง

หลังผ่าน 20 นาทีแรก ปืนใหญ่ถึงเริ่มตั้งลำของตัวเองได้จนสามารถพาบอลเข้าพื้นที่สุดท้ายของเปแอสเชได้บ่อยครั้ง สถิติตอนหลังจบเกมทั้งการครองบอล การผ่านบอลสำเร็จ และโอกาสลุ้นยิงจึงดีดกลับมาใกล้เคียงกัน ต่างจากช่วงแรกที่เป็นรองทีมเยือนจากฝรั่งเศสแบบสุดกู่


อาร์เซน่อล เริ่มเกม 20 นาทีแรกได้แย่มาก

อย่างไรก็ตาม แม้ยกระดับการเล่นขึ้นมาได้หลังจากเริ่มต้นย่ำแย่ แต่การเสียประตูไปก่อนที่เหมือนโดนกระชากความฮึกเหิมในฐานะเจ้าบ้านให้ร่วงลงมา ก็ทำให้การเล่นเป็นไปตามที่ เปแอสเช ต้องการมากกว่า

ทีมของ หลุยส์ เอ็นรีเก้ ถอนคันเร่งลงเล็กน้อยถอยกลับไปปักหลักในแดนตัวเอง เป็นการเปิดโอกาสให้ อาร์เซน่อล ได้ครองบอลเข้าใส่ แต่ไม่ได้สะทกสะท้านเพราะรู้ว่าพร้อมโต้กลับได้ตลอดเวลา

สามแนวรุกทั้ง ควิช่า ควารัตสเคเลีย, อุสมาน เดมเบเล่ และ เดซิเร่ ดูเอ้ เลี้ยงกินตัวได้ทุกคน สลับตำแหน่งกันตลอด และไม่ฝืนในจังหวะที่ไปต่อไม่ไหว 

สิ่งที่ เปแอสเช ทำได้ตามแผนคือ ปิดการเล่นของ บูคาโย่ ซาก้า ที่เป็นตัวอันตรายสุดในแนวรุก อาร์เซน่อล จนทำให้ ซาก้า ผ่านบอลสำเร็จเพียง 75.9 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าค่อนข้างต่ำ

ซาก้า โดดเดี่ยวในหลายจังหวะ จึงต้องออกแรงมากขึ้น ต้องหาช่องยิงเองเพราะเลือกตัวจ่ายได้ยาก หรือกระทั่งโยกไปฝั่งซ้ายเหมือนจังหวะที่ลุยแล้วได้เปิดกลับมาฝั่งขวาทว่า มาร์ติเนลลี่ กระโดดชาร์จไม่ถึง 

เปแอสเช เน้นมากในการปิดพื้นที่ฝั่งของ ซาก้า ทำให้อีกฝั่งหละหลวมมากกว่าและเป็นที่มาของสองโอกาสทองที่ อาร์เซน่อล น่าจะได้ประตูสุดๆ ทั้งจาก กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ และ เลอันโดร ทรอสซาร์ 

สองจังหวะนี้่ อาชราฟ ฮาคิมี่ หลุดพื้นที่ไปแล้วเพราะเติมเกมรุกลงไม่ทัน มาร์ติเนลลี่ และ ทรอสซาร์  แทบจะได้ลุ้นยิงในตำแหน่งเดียวกัน และมุมเสาไกลเหมือนกัน ต่างแค่เท้าคนละข้าง ทว่าไม่ผ่านมือ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ที่แม้ตัวสูงใหญ่ แต่ทำได้ยอดเยี่ยมในจังหวะทิ้งตัวปัดบอลที่ค่อนข้างต่ำ 


ซาก้า โดดเดี่ยวไปในบางครั้ง

แม้ อาร์เซน่อล เล่นดีขึ้นหลังผ่าน 20 นาทีแรก แต่ก็ไม่มีช่วงเวลาใดที่สามารถกดใส่ เปแอสเช ได้แบบที่ทีมดังแดนน้ำหอมทำได้ช่วงเริ่มเกม

การขาด โธมัส ปาร์เตย์ ที่ติดโทษแบน ส่งผลต่อแดนกลางปืนใหญ่อย่างที่หลายคนหวาดหวั่น

แม้ เดแคลน ไรซ์ ที่ขยับมาเล่นแทน จะทำได้ดีระดับหนึ่ง แต่ก็เสียพลังทะลุทะลวงในบทบาทหมายเลข 8 ไป แต่นั่นคึอทางแก้ที่ อาร์เตต้า ต้องทำเพราะ ปาร์เตย์ ดันไปเสียใบเหลืองครบโควตาแบบไม่จำเป็นในช่วงท้ายเกมนัดสองกับ เรอัล มาดริด 

เมื่อแดนกลางขาดตัวหลักไป อาร์เซน่อล จึงไม่ได้คอนโทรลพื้นที่สำคัญตรงนี้ได้อย่างที่ควรจะเป็น และในทางกันข้าม แผงมิดฟิลด์ของ เปแอสเช ก็ทำลายเกมของเจ้าถิ่นได้เรื่อยๆ 

ฟาเบียน รูอีซ, วิตินญ่า และ ชูเอา เนเวส เป็นเซตที่ลงตัวมากสำหรับ หลุยส์ เอ็นรีเก้ เพราะมีครบทั้งฝีเท้าและชั้นเชิง เอาตัวรอดเก่ง ดึงเร็วดึงช้าเป็น และไม่เสียบอลง่ายๆ 

วิตินญ่า ที่เป็นแมน ออฟ เดอะ แมตช์ นัดนี้ ผ่านบอลสำเร็จคิดเป็น 96.2 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ฝีเท้าพัฒนาขึ้นมากในช่วง 1-2 ปีหลัง และเหมือนคนละคนเลยกับที่เคยล้มเหลวตอนเล่นให้ วูล์ฟส์ ไม่กี่ฤดูกาลก่อน

เปแอสเช สมควรเป็นผู้ชนะในเกมนี้ แม้ อาร์เซน่อล อาจเสียดายกับโอกาสของตัวเองที่ไม่ผ่านเซฟ ดอนนารุมม่า รวมถึงลูกโหม่งของ มิเกล เมริโน่ ที่ล้ำหน้า แต่ ดาบิด ราย่า ก็มีช็อตที่ออกแรงเซฟเช่นกัน รวมไปถึงสองโอกาสท้ายเกมของเปแอสเชจากตัวสำรองทั้ง บราดลี่ย์ บาร์โคล่า และ กอนซาโล่ รามอส ที่ยิงเสียของไปเอง 

ประตูตั้งแต่ต้นเกมของ อุสมาน เดมเบเล่ จึงเป็นเพียงประตูเดียวที่เกิดขึ้น และทำให้ เปแอสเช ได้เปรียบพอสมควรก่อนลงเล่นนัดสองในรัง ปาร์ค เดส์ แพรงส์ ของตัวเอง


ปาร์เตย์ จะกลับมาช่วยทีมในนัดสอง

ขณะที่ อาร์เซน่อล จะเจอโจทย์ยากมาก และแตกต่างโดยสิ้นเชิงจากรอบ 8 ทีมที่ตุนสกอร์ 3-0 ก่อนบุกเยือนนัดสอง เพราะครั้งนี้ต้องเอานะคืนให้ได้เท่านั้น เป็นผลการแข่งขันอื่นไม่ได้เลย

การได้ โธมัส ปาร์เตย์ กลับมาช่วยจะจุดที่ อาร์เตต้า ต้องการอย่างมาก และความผิดพลาดหลายอย่างจากนัดแรกจะต้องไม่เกิดขึ้นอีกโดยเฉพาะการเริ่มเกมให้ตื่นตัว ไม่ปล่อยให้คู่แข่งโถมเข้าใส่ และที่สำคัญเมื่อมีโอกาสแล้วต้องทำให้ได้เพราะอาจไม่ได้เยอะเหมือนการเล่นในบ้าน

บททดสอบที่ปารีสยากและท้าทายอย่างมาก สมกับเป็นด่านสุดท้ายที่ขวางเส้นทางสู่รอบชิงชนะเลิศอย่างยิ่ง


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด