แรงใจหดหาย แรงกายถดถอย

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ความตั้งใจของ อาร์เซน่อล ที่ต้องการสร้างโมเมนตัมที่ดีจากเกมลีกเพื่อไปแก้มือกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในถ้วยยุโรป กลับล้มเหลวอย่างน่าผิดหวังเมื่่อโดน บอร์นมัธ บุกยิงแซงชนะถึงเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

อาร์เซน่อล เพิ่งพลาดท่าพ่ายต่อ เปแอสเช 0-1 ในรอบตัดเชือก นัดแรกของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และมีงานหนักรออยู่ในนัดสองที่ปารีส ทว่า มิเกล อาร์เตต้า กลับใช้งานตัวหลักลงต่อเนื่องในเกมลีกกับบอร์นมัธ

เป็นการจัดตัวที่เซอร์ไพรส์ไม่น้อยเพราะเทียบกับอีก 3 ทีมที่อยู่ในรอบตัดเชือกชปล.ตอนนี้ ต่างปรับทีมแทบยกชุดในการลงเล่นเกมลีกสุดสัปดาห์

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่ได้แชมป์ลีก เอิง ไปแล้ว เปลี่ยนทีม 10 ตำแหน่งในเกมลีกกับ สตราส์บูร์ก

บาร์เซโลน่า ที่กำลังลุ้นแชมป์ลา ลีกา อยู่ด้วย เปลี่ยนทีม 9 ตำแหน่งในเกมลีกกับ บายาโดลิด 

และ อินเตอร์ มิลาน ที่ลุ้นแชมป์เซเรีย อา เช่นกัน เปลี่ยนทีม 10 ตำแหน่งในเกมลีกกับ เวโรน่า

บาร์ซ่า และ อินเตอร์ ห่วงหน้าพะวงหลังกับศึกในประเทศด้วย แต่ก็เลือกพักตัวหลักให้ได้มากที่สุดเพื่อเก็บความสดเอาไว้ลุยถ้วยยุโรปที่เหลืออีกเพียงก้าวเดียวก็จะเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ

ส่วน อาร์เซน่อล หมดลุ้นแชมป์ลีกไปแล้ว เป้าหมายในลีกเหลือเพียงคว้าโควตายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ได้ ซึ่งโอกาสมีเยอะทีเดียวเพราะนำหน้าทีมอันดับ 3-7 อยู่พอสมควร

ด้วยสถานการณ์ค่อนข้างได้เปรียบหลายทีมที่ตามหลังทำให้ อาร์เตต้า พักตัวหลักตั้งแต่เกมกับ เอฟเวอร์ตัน หรือก่อนลงสนามพบ เรอัล มาดริด ในรอบ 8 ทีม นัดแรก และก็โรเตชั่นในลีกตลอดจนถึงเกมกับ คริสตัล พาเลซ หรือก่อนจะดวล เปแอสเช นัดแรก


ไรซ์ ให้ทีมนำแต่ไม่เพียงพอ

แต่แล้วกลับใช้งานชุดใหญ่ก่อนเกมนัดสองกับ เปแอสเช ที่สถานการณ์น่าจะยากกว่าทุกนัดในถ้วยยุโรปด้วยซ้ำเพราะต้องไปเยือนที่ฝรั่งเศสโดยที่แพ้คาบ้านก่อนนัดแรก

อาร์เตต้า เลือกใช้ชุดใหญ่เพราะอาจต้องการการันตีตั๋วชปล.ให้ได้เพื่อเป็นการเรียกความมั่นใจไปพร้อมกันก่อนชี้ชะตา เปแอสเช ทว่าผลลัพท์ที่ได้กลับไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง

ในครึ่งแรก อาร์เซน่อล ทำได้อย่างที่ควรจะเป็นซึ่งรวมถึงประตูขึ้นนำ 1-0 จาก เดแคลน ไรซ์ ที่ลงเล่นนัด 100 กับสโมสร

โธมัส ปาร์เตย์ กลับมาช่วยให้แดนกลางลงตัวมากขึ้น หลังพลาดเกมยุโรปเพราะติดโทษแบน ตรงนี้ทำให้ เดแคลน ไรซ์ ได้เติมเกมรุกแบบไม่ต้องกังวลมาก และก่อนจะซัดตุงตาข่ายให้ทีมนำก็ได้สอดขึ้นไปลุ้นยิงแล้ว 2 ครั้งแต่หลุดกรอบ 

ทว่าครึ่งหลัง การเล่นกลับดร็อปลงไป แม้การครองบอล ผ่านบอล รวมถึงสร้างโอกาสจะทำได้ใกล้เคียงครึ่งแรก แต่ไม่ได้สร้างความอันตรายมากนัก 

ในทางตรงกันข้ามกลับโดนทีเด็ดลูกเซตพีซของ บอร์นมัธ เล่นงานถึง 2 ครั้ง ซึ่งควรป้องกันได้ดีกว่านี้่โดยเฉพาะลูกแรกที่มาจากการทุ่มที่จบด้วยการโหม่งง่ายๆ เข้าประตูไป

ทีมที่ได้ชื่อว่าเล่นลูกตั้งเตะได้ยอดเยี่ยมที่สุดในลีก ทำประตูได้เยอะ เสียประตูยาก กลับโดนลูกทุ่มเข้าเขตโทษแล้วโหม่งเข้าไปดื้่อๆ 

ขณะที่ลูกสองก็เป็นการเล่นลูกสูตรของ บอร์นมัธ ที่ใช้ผู้เล่นนอกกรอบหกหลาโหม่งเสาแรกเพื่อให้ผู้เล่นอีกคนชาร์จเสาไกล เอวานิลซอน ทำได้ดีด้วยในการเบียดชนะ มาร์ติน โอเดการ์ด ก่อนกระแทกบอลเข้าไป

วีเออาร์พยายามเช็กว่าเป็นบอลที่โดนข้อศอกหรือไม่ ซึ่งค่อนข้างก่ำกึ่งและดูยาก แต่เมื่อไม่สามารถรีเช็กได้ชัดเจนก็ต้องยกประโยชน์ให้ทีมที่ทำประตู และ อาร์เซน่อล ควรโฟกัสกับความหละหลวมของตัวเองมากกว่า


อาร์เซน่อล ป้องกันลูกเซตพีซได้หละหลวม

ในนัดแรกที่เจอกันซึ่ง บอร์นมัธ ชนะ 2-0 ลูกทีมของ อันโดนี่ อีราโอล่า ก็ใช้ทีเด็ดเตะมุมได้ผลเช่นกันซึ่งเกมวันนั้นทีมปืนใหญ่ผิดพลาดไปหลายจังหวะซึ่งรวมถึงใบแดงของ วิลเลียม ซาลีบา 

ชุดใหญ่ของ อาร์เซน่อล โดน บอร์นมัธ แซงนำ สถานการณ์ผิดคาดไปมาก ทว่ารายละเอียดในเกมหลายอย่างบ่งบอกความระส่ำของเจ้าถิ่นให้เห็นระยะ และบางคนไม่ได้แปลกใจด้วยซ้ำ

ในครึ่งแรก เดวิด ราย่า ออกบอลพลาดเกือบเสียประตู ขณะที่ เอวานิลซอน ก็มีจังหวะโขกโล่งๆ ในเขตโทษข้ามคานนิดเดียว

ส่วนครึ่งหลัง ความผิดพลาดในจังหวะเสีย 2 ประตูก็มากเพียงพอในการเป็นฝ่ายตามหลัง และแพ้ไปในที่สุด

สถิติไม่น่าจดจดบันทึกไว้ว่า อาร์เซน่อล ทำแต้มหล่นมากถึง 21 คะแนนจากที่นำคู่แข่งไปก่อน เป็นสถิติแต้มหล่นมากสุดในหนึ่งฤดูกาลเทียบเท่า 2019/20 และนั่นหมายความว่ามีโอกาสแย่ยิ่งกว่าเพราะยังเหลือโปรแกรมในลีกอีก 3 นัด

หลังเสียประตูที่ 2 อาร์เซน่อล ไม่สามารถยิงบอลเข้ากรอบได้เลย การเล่นตื้อตัน ไร้ไอเดีย ไม่มีก็อกสองให้เห็น บางจังหวะถูกคู่แข่งเล่นลิงชิงบอลด้วยซ้ำ

นอกจาก เดแคลน ไรซ์ ที่ถูกเปลี่ยนให้ไปพักและมี มิเกล เมริโน่ ลงแทนในนาที 74 แล้ว การเปลี่ยนตัวอีกครั้งของ อาร์เตต้า เกิดขึ้นในนาที 86 หรืออีกเพียง 5 นาทีก่อนจบเกมเท่านั้น

ตรงนี้บ่งบอกได้ระดับหนึ่งว่า อาร์เตต้า ไม่ได้มั่นใจในขุมกำลังสำรองที่มีว่าจะเปลี่ยนเกมได้ อาการบาดเจ็บคือหนึ่งในเหตุผลสำคัญทำให้ปรับเปลี่ยนลำบาก


เสียทั้งแรงกายและแรงใจจากนัดล่าสุด

ด้วยเหตุนี้จึงกลายเป็นว่าตัวหลักหลายคนต้องเหนื่อยต่อในสนามเพื่อช่วยทีม การต้องลงตัวจริงทั้งที่พัวพันกับถ้วยยุโรป ก็ฝืนเหนื่อยระดับหนึ่งแล้ว แต่ไปๆ มาๆ กลับเหนื่อยกว่าที่คิดเพราะไม่ได้ถูกเปลี่ยนตัวออกเร็วเนื่องจากโดนคู่แข่งแซงนำ

สภาพของนักเตะหลายคนที่คอตกหลังจบเกมทั้งจากความเหนื่อยล้า และผิดหวัง ไม่ใช่สัญญาณที่ดีเลย

สิ่งที่คาดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง โควตาแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ว่าแน่ๆ ก็เริ่มมีเครื่องหมายคำถาม ความมั่นใจถูกกระตุกพรวดอีกครั้ง

ทางเดียวที่จะแก้ไขสถานการณ์ได้คือบุกชนะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เพื่อเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ได้ 

สกอร์นัดแรก และเสียงเชียร์เป็นสิ่งที่เสียเปรียบอยู่แล้ว แต่ อาร์เซน่อล ทำให้ตัวเองลำบากมากยิ่งขึ้่นจากกำลังกายและกำลังใจที่เสียไปโดยไร้ประโยชน์

และอาจทำให้ต้องสูญเสียทุกอย่างในฤดูกาลนี้ไปด้วย


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด