เสียหายเท่าไหร่ไม่ได้ไปแชมเปี้ยนส์ ลีก

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบเจอกับสถานการณ์เลวร้ายสุดขีด หลังปราชัยต่อ สเปอร์ส ในนัดชิงชนะเลิศยูโรปา ลีก พร้อมกับพลาดตั๋วพิเศษไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า

แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งเป้าคว้าแชมป์ยูโรปา ลีก ให้ได้เพื่อจะมีแชมป์ติดมือในฤดูกาลนี้ และได้เข้าไปกอบโกยเงินรางวัลก้อนโตในถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก  

แต่เมื่อลงเอยด้วยความปราชัย ความเสียหายจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หลายคนสรุปให้เห็นภาพว่านี่คือ "หายนะ" อย่างแท้จริง

การไม่ได้แชมป์ และไม่ได้ไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก เสียหายมากเพียงใด? 

คำตอบสั้นๆ คือ "มหาศาล" ทั้งในรูปของตัวเงิน มูลค่าทีม และแรงดึงดูดใจสำหรับผู้เล่นใหม่

เทเลกราฟ สื่อดังอังกฤษประเมินว่า แมนฯ ยูไนเต็ด สูญเสียรายได้ราว 150 ล้านปอนด์ หลังไม่ได้เล่นถ้วยยุโรปใดๆ เลยในฤดูกาลหน้า ขณะที่ผลงานในลีกก็ย่ำแย่ 

รายได้หลักที่ขาดหายไปคือ เงินรางวัลจากการเข้าร่วมการแข่งขันในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งหากเทียบกับฤดูกาลนี้ที่ใกล้ปิดฉากลง ตัวแทน 4 ทีมจากอังกฤษได้เงินรางวัลเฉลี่ยทีมละ 79 ล้านปอนด์ 

ทีมที่ได้มากสุดคือ อาร์เซน่อล รับไป 99 ล้านปอนด์ หลังผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี 

ตรงนี้ยังไม่รวมค่าบัตรประตูในวันแข่งขันซึ่งทีมระดับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่มีสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รองรับผู้ชมได้มากกว่า 74,000 ที่นั่ง สามารถสร้างรายได้อย่างน้อย 22 ล้านปอนด์เฉพาะในรอบลีก เฟส


อกหักได้เพียงรองแชมป์ยูโรปา ลีก

การไม่ได้เล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ส่งผลให้ อาดิอาส พาร์ทเนอร์ชุดแข่ง หักเงินสนับสนุนทีมปีละ 10 ล้านปอนด์ ตามข้อทำข้อตกลงกันไว้

ขณะที่ผลงานในลีกที่ปัจจุบันอยู่เพียงอันดับ 16 ของตารางก่อนลงเล่นนัดปิดฤดูกาล ก็ทำให้เงินรางวัลจากพรีเมียร์ลีกหายไปราว 25 ล้านปอนด์ เมื่อเทียบกับฤดูกาล 2023/24 ที่จบอันดับ 8 ของตาราง

ส่วนต่างระหว่างการเป็น "แชมป์" ของ สเปอร์ส กับ "รองแชมป์" ของ แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ที่ 10 ล้านยูโร หรือราว 8.4 ล้านปอนด์ โดยเป็นเงินรางวัลของทีมแชมป์ 6 ล้านยูโร และอีก 4 ล้านยูโรคือการได้ไปเล่นยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ที่จะพบ อินเตอร์ มิลาน หรือไม่ก็ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ทีมใดทีมหนึ่งที่จะเป็นแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้่ยนส์ ลีก และหากคว้าแชมป์ซูเปอร์คัพได้อีกก็จะได้เพิ่ม 1 ล้านยูโร 

นี่คือตัวเลขคร่าวๆ ของรายได้ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด "หมดสิทธิ์" หลังความปราชัยที่ซาน มาเมส เมื่อวันพุธที่ผ่านมา และตัวเลขนี้จะยิ่งเพิ่มขึ้นหากเข้ารอบลึกๆ ของแชมเปี้ยนส์ ลีกที่เงินรางวัลจะสูงขึ้นตามลำดับ

นอกจากนี้ "มูลค่าหุ้น" ของสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (MANU) ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก หลังปิดตลาดเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม หรือหนึ่งวันหลังพลาดแชมป์ยูโรปา ลีก ก็ลดฮวบมาอยู่ที่ 13.29 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น

ก่อนนัดชิงชนะเลิศจะลงสนาม มูลค่าหุ้นของ แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ที่หุ้นละ 14.16 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น  

ย้อนไปในช่วงที่แต่งตั้ง รูเบน อาโมริม เป็นกุนซือคนใหม่ในกลางเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว มูลค่าหุ้นของปีศาจแดงเคยขยับขึ้นไปแตะ 18.42 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้นในเดือนธันวาคม ก่อนลดลงต่อเนื่องสอดคล้องกับผลงานในลีกของทีม 


ฤดูกาลหน้าจะเหลือสักกี่คน

มูลค่าหุ้นที่ลดลงล่าสุดนี้ทำให้ผู้ถือหุ้นใหญ่อย่างตระกูล เกลเซอร์ และ เซอร์จิม แร็ตคลิฟฟ์ สูญเสียทรัพย์สินไปอย่างมหาศาล

แมนฯ ยูไนเต็ด มีหุ้นในตลาดทั้งหมด 169.75 ล้านหุ้น โดยครอบครัว เกลเซอร์ ถือหุ้นทั้งหมด 48.9 เปอร์เซ็นต์ ทำให้สูญเสียความมั่งคั่งไปราว 72 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพียงชั่วข้ามคืน

ขณะที่ เซอร์จิม ที่ถือหุ้น 28.9 เปอร์เซ็นต์ ผ่าน INEOS เสียหายราว 42.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

ความเสียหายที่เกิดขึ้นนี้ไม่มีเพียงตัวเงินที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้ แต่ยังรวมถึงภาพลักษณ์และแรงดึงดูดใจแข้งใหม่ที่ต้องการดึงร่วมทีมในซัมเมอร์นี้

นักฟุตบอลหลายคนมองว่าการได้เล่นในสโมสรยุโรปโดยเฉพาะถ้วยใหญ่อย่างยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญของการย้ายทีม

ถ้าทีมใดไม่ได้เล่นถ้วยยุโรป การเชื้อชวนนักเตะให้ย้ายมาร่วมทีมจะทำได้ยากยิ่งขึ้น และอาจต้องทุ่มเงินมากเป็นพิเศษ และ แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังตกอยู่ในสถานการณ์นี้ 

ปีศาจแดงจะยกเครื่องผ่าตัดทีมครั้งใหญ่อย่างแน่นอน และต้องได้ผู้เล่นคุณภาพที่สามารถยกระดับทีมได้โดยที่พวกเขามีข้อจำกัดที่ไม่อาจปิดซ่อนได้คือ การไม่ได้ไปเล่นรายการยุโรปถ้วยใดเลยในฤดูกาลหน้า

เมื่อเงินรายได้ต่างๆ ที่คาดหวังจะได้จากแชมเปี้ยนส์ ลีก หรือกระทั่งถ้วยรองอย่างยูโรปา ลีก ไม่เกิดขึ้น ทางออกเดียวคือต้องขายผู้เล่นที่มีในทีมเพื่อระดมทุนสำหรับการเสริมทัพใหม่


ราคาหุ้นตกฮวบชั่วข้ามคืน

ประเมินคร่าวๆ น่าจะมีผู้เล่นนับสิบรายที่ต้องย้ายออกจากโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ทั้งแบบมีค่าตัวและไม่มีค่าตัว 

มาร์คัส แรชฟอร์ด, อันโตนี่ และ เจดอน ซานโช่ ที่ถูกปล่อยยืมตัวในฤดูกาลนี้ คือกลุ่มที่ แมนฯ ยูไนเต็ด คาดหวังเงินค่าตัวได้มากสุดในการปล่อยถาวรช่วงซัมเมอร์ 

ราสมุส ฮอยลุนด์ และ อเลฮานโดร การ์นาโช่ รวมไปถึง กาเซมีโร่, ลุค ชอว์, ค็อบบี้ เมนู และ อ็องเดร์ โอนาน่า ล้วนอยู่ในข่ายถูกปล่อยตัวเช่นกัน

ขณะที่ เดอะ มิร์เรอร์ สื่อดังอังกฤษอ้างว่า แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมรับฟังข้อเสนอเพื่อขายนักเตะ "ทุกคน" ไม่เว้นแม้กระทั่้ง บรูโน่ แฟร์นันด์ส กัปตันทีมคนเก่งที่ได้รับความสนใจจาก อัล ฮิลาล ในลีกซาอุฯ

นอกจากนี้ กลุ่มที่ต้องเก็บข้าวของออกจากทีมเพราะสัญญาสิ้นสุดลงในซัมเมอร์นี้ก็มีหลายรายทั้ง คริสเตียน เอริคเซ่น, วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ และ จอนนี่ อีแวนส์

รูเบน อาโมริม ย้ำหลายรอบว่าต้องการรั้งตัว บรูโน่ ให้อยู่กับทีมต่อไปในฤดูกาลหน้าเพราะเป็นผู้เล่นคนสำคัญ แต่หากสถานการณ์ทางการเงินบีบให้สโมสรต้องตัดสินใจ อาโมริม ก็คงไม่สามารถขัดขวางได้

นี่คือผลพวงทั้งหมดจากฟุตบอลนัดเดียวที่กำหนดเส้นทางให้ผู้แพ้อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องพบกับหายนะอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด