เทียร์นีย์ เตรียมอำลา อาร์เซน่อล ในซัมเมอร์นี้ที่สัญญาสิ้นสุดลง ก่อนย้ายกลับไปร่วมทีม เซลติก ต้นสังกัดเก่าในบ้านเกิดแบบไร้ค่าตัว
ปราการหลังวัย 27 ปีเล่นให้ปืนใหญ่นาน 6 ปี หรือนับตั้งแต่ย้ายมาจาก เซลติก ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2019
ผลงานของ เทียร์นีย์ กับ อาร์เซน่อล ไม่สามารถพูดได้ว่าประสบความสำเร็จ แต่สิ่งที่พูดได้เต็มปากคือ มีความเป็นมืออาชีพสูงมาก และเป็นหนึ่งในขวัญใจของแฟนบอล
ในช่วงแรกกับทีม เทียร์นีย์ เจออาการบาดเจ็บรบกวน และกว่าจะได้ลงเล่นจริงจังก็เป็นตอนกลับมาแข่งหลังโควิดในท้ายฤดูกาล 2019/20 ที่คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนมิถุนายน
ตอนนั้น อาร์เซน่อล อยู่ในช่วงเริ่มต้นกับกุนซือใหม่ มิเกล อาร์เตต้า ที่เข้ามาแทน อูไน เอเมรี่ ผลงานในลีกของทีมสามวันดีสี่วันไข้ แต่ทำได้ดีในเอฟเอ คัพ ที่คว้าแชมป์มาครอง
เทียร์นีย์ ลงตัวจริงให้ทีมในนัดสำคัญทั้งเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-0 ในรอบรองฯ และเฉือนชนะ เชลซี 2-1 ในนัดชิงชนะเลิศ ทำให้คว้าแชมป์แรกตั้งแต่ฤดูกาลแรกกับทีม
ฤดูกาลต่อมา แบ็กจากกสกอตแลนด์ได้ลงสนามมากขึ้นทั้งตำแหน่งแบ็กซ้าย และเซนเตอร์ในเวลาที่ อาร์เตต้า สลับใช้แท็กติกสามกองหลัง เขาออกสตาร์ตตัวจริง 16 จาก 17 นัดแรกในลีก ก่อนบาดเจ็บสองรอบในครึ่งฤดูกาลหลัง
ฟอร์มของ อาร์เซน่อล ยังขาดความสม่ำเสมอ และแม้ เทียร์นีย์ ฟิตกลับมาช่วยทีมชนะ 4 นัดท้ายของฤดูกาลได้ แต่ก็พลาดตั๋วลุยยุโรปน่าเสียดาย ขณะที่ เมซุต โอซิล ก็มีปัญหากับทีมจนถูกยกเลิกสัญญาระหว่างฤดูกาล
ได้แชมป์เอฟเอ คัพ ร่วมกับทีมในปีแรก
อาร์เซน่อล ต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้งในฤดูกาล 2021/22 ที่ เทียร์นีย์ ต่อสัญญาใหม่ออกไปเพิ่ม และยกระดับเป็นหนึ่งในผู้นำทีม รวมถึงได้สวมปลอกแขนรองกัปตันด้วย ทว่าฤดูกาลนั้น ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง อีกหนึ่งแข้งดังก็มีปัญหาส่วนตัวจนถูกยกเลิกสัญญากลางฤดูกาล
การสร้างทีมของ อาร์เตต้า ในช่วง 2-3 ปีแรก เต็มไปด้วยปัญหามากมาย แต่ เทียร์นีย์ ก็ก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ทว่าน่าเสียดายในช่วงที่กำลังฟอร์มดีก็ได้รับบาดเจ็บอยู่ร่ำไป
อาร์เซน่อล พยายามเร่งฟอร์มช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง จนเกือบคว้าตั๋วลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ก็พลาดไปนิดเดียว ทำให้ได้เพียงตั๋วยูโรปา ลีก
หลังจบฤดูกาล อาร์เตต้า ปรับเปลี่ยนแนวทางการเล่น และไปดึง โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ แบ็กซ้ายคนใหม่มาจาก แมนฯ ซิตี้ ที่ตอบโจทย์มากกว่าในการเล่น "Inverted Fullback" สไตล์การเล่นโบราณที่ถูกปัดฝุ่นใช้อีกครั้งในฟุตบอลยุคใหม่
ซินเชนโก้ มีเทคนิคส่วนตัวยอดเยี่ยม และคุ้นเคยมากกว่ากับการขยับไปเล่นเป็นมิดฟิลด์อีกคนในเวลาที่ทำเกมรุกใส่คู่แข่ง
ขณะที่ เทียร์นีย์ เป็นแบ็กสไตล์คลาสสิกพาบอลถึงสุดเส้นแล้วเปิดเข้ากลาง บทบาทในทีมช่วงนี้จึงลดน้อยถอยลง แม้ได้ลงเล่น 27 นัดในลีก แต่เป็นตัวจริงเพียง 6 นัด ที่เหลือลงเป็นสำรอง
ผลงานของ อาร์เซน่อล ก้าวกระโดดอย่างมากในฤดูกาลนี้ จากทีมที่พลาดตั๋วชปล. กลายเป็นทีมลุ้นแชมป์เต็มตัว หลายต่อหลายนัดที่ทำท่าจะเพลี่ยงพล้ำก็พลิกสถานการณ์กลับมาได้จนครองตำแหน่งจ่าฝูงอยู่นาน
ทว่าสองเดือนสุดท้าย ทีมของ อาร์เตต้า กลับพลาดไปเสียเอง จากที่เคยนำ แมนฯ ซิตี้ 8 คะแนนกลับโดนเรือใบแซงเข้าป้ายคว้าแชมป์
ความหนาวคืออะไร
แม้ทีมผลงานรุดหน้าจนเกือบคว้าแชมป์ แต่อนาคตของ เทียร์นีย์ กลับไม่สดใส เขาไม่สามารถทวงตำแหน่งตัวจริงคืนมาจาก ซินเชนโก้ ได้ และด้วยทิศทางของทีมที่ดูจะเข้ารูปเข้ารอยมากขึ้นก็ยิ่งเป็นเรื่องยากสำหรับ เทียร์นีย์
อาร์เตต้า จึงตัดสินใจปล่อยอดีตกัปตันทีม เซลติก ออกไปให้ เรอัล โซเซียดาด ยืมใช้งานเพื่อโอกาสลงสนามมากขึ้น ทว่าชีวิตใหม่ในสเปนก็ไม่ได้สวยงามนักด้วยปัญหาเดิมกับอาการบาดเจ็บที่ตามเล่นงานไม่เลิก
หนึ่งฤดูกาลผ่านไป เทียร์นีย์ หวนคืนเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม อีกครั้ง ทว่าคู่แข่งที่ขวากหน้าเขาไม่ได้มีเพียง ซินเชนโก้ แต่ อาร์เตต้า มีตัวเลือกมากยิ่งขึ้นทั้ง ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ ที่ย้ายมาใหม่ รวมถึง เจอร์เรียน ทิมเบอร์ และ ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ ที่เล่นในตำแหน่งแบ็กซ้ายได้เช่นกัน
โอกาสลงสนามของ เทียร์นีย์ น้อยนิดยิ่งกว่าเดิม แถมช่วง 3-4 เดือนแรกของฤดูกาลก็บาดเจ็บจนแฟนบอลแทบจะลืมชื่อไปเลยว่ากลับมาอยู่กับทีมอีกรอบ ครั้นเมื่อฟิตกลับมาลงสนามก็กลายเป็นตัวเลือกอันดับ 4-5 ในทีม
แม้ในวันที่ ซินเชนโก้, โทมิยาสึ และ คาลาฟิออรี่ ลงสนามไม่ได้ เทียร์นีย์ ก็ยังไม่ได้โอกาสเพราะ อาร์เตต้า ค้นพบเพชรเม็ดใหม่ในตำแหน่งแบ็กซ้ายจากการดัน ไมล์ส ลูอิส-สเกลลี่ ขึ้นมาจากทีมเยาวชน และแจ้งเกิดได้ทันที
เทียร์นีย์ ต้องรอจนถึงเดือนมกราคมของปีใหม่ที่ได้ลงเล่นเกมลีกนัดแรก และกว่าจะได้เป็นตัวจริงในลีกก็ปาเข้าไปในเดือนเมษายน
ช่วงเวลาดังกล่าวนั้นมีการยืนยันออกมาว่า เทียร์นีย์ ตกลงล่วงหน้าที่จะย้ายกลับไป เซลติก แบบไร้ค่าตัวหลังสัญญากับ อาร์เซน่อล สิ้นสุดลงในช่วงซัมเมอร์
ปิดฉากด้วยการทำประตูให้ทีม
อาร์เซน่อล ยังไม่สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองได้ แต่ปิดจ๊อบคว้าตั๋วแชมเปี้ยนส์ ลีก ในนัดชนะ นิวคาสเซิ่ล 1-0 ที่ เทียร์นีย์ ลงเป็นสำรองที่เป็นเหมือนการเล่นสั่งลาแฟนบอลในเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ซึ่งเขาก็ได้รับปรบมืออย่างล้นหลาม
นัดปิดฤดูกาล อาร์เตต้า ส่ง เทียร์นีย์ ออกสตาร์ตตัวจริงในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กและเหมือนเขียนบทเอาไว้ให้เจ้าตัวมีฉากจบที่สวยงามในการลงสนามนัดสุดท้าย
เทียร์นีย์ ที่ไม่ได้ยิงประตูให้ อาร์เซน่อล มานาน 2 ปีครึ่ง ก็สอดเข้าเขตโทษชาร์จลูกเปิดของ เบน ไวท์ ให้ทีมขึ้นนำ 1-0 ก่อนเป็นฝ่ายชนะ 2-1
ภาพที่เพื่อนร่วมทีมเข้ามารุมล้อมดีใจและอุ้มเจ้าตัวขึ้นฉลองบ่งบอกได้อย่างดีว่าเขาเป็นที่รักมากเพียงใด
ตลอดช่วงเวลา 6 ปีในฐานะนักเตะ อาร์เซน่อล คีแรน เทียร์นีย์ ลงสนามไปทั้งหมด 144 นัด ทำได้ 6 ประตู กับอีก 14 แอสซิสต์ นอกจากแชมป์เอฟเอ คัพ ในปีแรกแล้ว ก็ยังได้คอมมิวนิตี้ ชิลด์ อีกสองครั้ง
แม้ไม่ประสบความสำเร็จมากมายในแง่ถ้วยรางวัล รวมถึงบทบาทในทีมที่น้อยลงช่วงหลัง แต่แฟนบอลทุกคนต่างใจหายเมื่อถึงวันที่ เทียร์นีย์ ต้องย้ายออกไป
สิ่งที่แบ็กซ้ายวัย 27 ปีฝากเอาไว้ให้แฟนบอลจดจำมากสุดคือ การทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ไม่ว่าเงื่อนไขรอบตัวจะเป็นอย่างไร
เราไม่เคยได้ยินข่าวเสียหาย หรือเรื่องราวทางลบเกี่ยวกับ เทียร์นีย์ เลยตลอดช่วงเวลาที่อยู่กับทีม และทุกครั้งในการให้สัมภาษณ์ก็ไม่เคยพาดพิง หรือโจมตีใคร
เทียร์นีย์ วางตัวด้วยดีเสมอมา ถ่อมตัว ไร้ซึ้งอีโก้ และทำความเข้าใจกับทุกสถานการณ์ที่ต้องเจอไม่ว่าช่วงเวลาที่ดีหรือแย่
ความเป็นมืออาชีพของ เทียร์นีย์ คือสิ่งที่ไม่ต้องกังขาใดๆ แม้ในช่วงที่ยากลำบาก ช่วงที่นั่งสำรองยาว เขาก็เตรียมความพร้อมของตัวเองให้ดีที่สุดเพื่อโอกาสที่อาจมาถึง
คำยกย่องของ อาร์เตต้า ที่กล่าวหลังการลงสนามนัดสุดท้ายของ เทียร์นีย์ บรรยายแทนความรู้สึกของหลายคนได้ชัดเจน
"ขอขอบคุณเขาเป็นพิเศษ เขาคว้าแชมป์ร่วมกับผม และเป็นคนที่ทำงานด้วยแล้วสนุก มีคาแรกเตอร์ที่พิเศษอย่างมาก"
"ประตูของสโมสรแห่งนี้จะเปิดต้อนรับเขาเสมอ เขาเป็นคนที่ทุกคนในสโมสรชื่นชอบมากจริงๆ"
สำหรับนักเตะส่วนใหญ่แล้ว การคว้าแชมป์คือทุกสิ่งทุกอย่าง และเป็นสิ่งที่แฟนบอลจดจำ แต่สำหรับบางคน การได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสุดความสามารถ สู้ถวายหัว และทุ่มเทจนถึงวินาทีสุดท้ายก็มากเพียงพอแล้วที่จะเข้าไปอยู่ในใจของแฟนบอล
คีแรน เทียร์นีย์ ผู้ไม่เคยกลัวความหนาว คือนักเตะในแบบนั้น และเขาจะใช้ชีวิตในแบบที่เขาเป็นตลอดไปแม้ในวันที่อำลาอาชีพการเป็นนักฟุตบอล
