จากโชคร้าย ACL ขาด สู่หนึ่งในแข้งดีสุดของปืน

เดแคลน ไรซ์, กาเบรียล มากัลเญส, เดวิด ราย่า และ ไมล์ส ลูอิส-สเกลลี่ ต่างมีฤดูกาลที่ผลงานส่วนตัวยอดเยี่ยม
และอีกหนึ่งคนที่ต้องปรบมือให้เช่นกันคือ "เจอร์เรียน ทิมเบอร์"
ฤดูกาล 2024/25 ที่เพิ่งปิดฉากลงไป เป็นฤดูกาลที่ ทิมเบอร์ ได้ลงสนามอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยเกือบ 50 นัดในทุกรายการ ต่างจากฤดูกาลแรกที่เจออาการบาดเจ็บหนักเล่นงานตั้งแต่นัดแรก
ทิมเบอร์ ย้ายจาก อาแจ็กซ์ ทีมดังในลีกเนเธอร์แลนด์มาร่วมทีม อาร์เซน่อล ด้วยค่าตัว 34 ล้านปอนด์ เมื่อซัมเมอร์ 2023
กองหลังทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ปรับตัวเข้ากับทีมได้รวดเร็วตั้งแต่ช่วงปรี-ซีซั่น โดยเฉพาะเกมคอมมินิตี้ ชิลด์ ที่พาทีมเอาชนะจุดโทษ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แม้เล่นในตำแหน่งที่ไม่ได้ถนัดมากนักอย่าง "แบ็กซ้าย" แต่ ทิมเบอร์ ก็เล่นได้อย่างแข็งแกร่งและรับมือกับแนวรุกเรือใบสีฟ้าได้เยี่ยม ก่อนกลายเป็นตัวแรกในนัดเปิดสนามพรีเมียร์ลีกพบ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
ทว่าช่วงเวลาสวยงามในการเริ่มนับหนึ่งกับทีมใหม่ของ ทิมเบอร์ กลับจบลงในเวลารวดเร็วเมื่อได้รับบาดเจ็บจนถูกเปลี่ยนตัวในช่วงทดเจ็บครึ่งแรก ก่อนมีการยืนยันในเวลาต่อมาว่า "เอ็นไขว้หน้าหัวเข่าขวาฉีกขาด" และต้องเข้ารับการผ่าตัดเท่านั้น
เหมือนฟ้าผ่าลงกลางศีรษะก็ว่าได้สำหรับนักเตะที่กำลังเริ่มต้นกับทีมใหม่ด้วยความฝัน เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น แต่กลับบาดเจ็บหนักพักยาวตั้งแต่นัดแรก
เจ็บหนักในนัดแรกที่ลงเล่นพรีเมียร์ลีก
ทิมเบอร์ หายหน้าจากทีมไปเกือบทั้งฤดูกาล ก่อนกลับมาลงสนามได้อีกครั้งในเกมปิดฤดูกาลกับ เอฟเวอร์ตัน ที่ลงเคาะสนิมในฐานะสำรอง
9 เดือนเต็มที่ร้างสนาม คือช่วงเวลายาวนานมาก มันอาจเปลี่ยนชีวิตของนักฟุตบอลสักคนไปเลย และมีไม่น้อยที่ไม่สามารถกลับมาเล่นด้วยฟอร์มเหมือนเดิมได้อีก
แต่ไม่ใช่สำหรับ ทิมเบอร์ ที่ทิ้งฝันร้ายฤดูกาลแรกเอาไว้เบื้องหลัง และพาตัวเองสู่การเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีสุดของฤดูกาล
โจทย์ของ ทิมเบอร์ หลังผ่านพ้นอาการบาดเจ็บหนักถือว่ายากยิ่งขึ้นกว่าเดิมในฤดูกาล 2024/25
อาร์เซน่อล รักษามาตรฐานได้ดีในฤดูกาล 2023/24 ที่มีลุ้นแชมป์อีกครั้ง ขณะที่เกมรับเหนียวแน่นขึ้นเสียประตูในลีกน้อยกว่าเดิม 14 ประตู
เบน ไวท์ ไม่ได้ขาดตกบกพร่องในตำแหน่งแบ็กขวา ส่วนฝั่งซ้ายมี ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ ถูกดึงมาเพิ่ม นอกจากยังมีตัวเลือกอื่นที่พร้อมลงเล่นอีกหลายคนทั้ง ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, ยาคุบ คีวิออร์ และ คีแรน เทียร์นีย์
โอกาสกลับมาลงเล่นอย่างสม่ำเสมอของ ทิมเบอร์ นับว่าไม่ง่าย ยังไม่ต้องพูดถึงการทำผลงานให้ยอดเยี่ยมเพื่อชดเชยกับช่วงเวลาที่หายไป
ตรงนี้แหละพิสูจน์นักเตะในแบบ เจอร์เรียน ทิมเบอร์ ได้เป็นอย่างดี
ทิมเบอร์ ได้ลงเล่นมากถึง 48 นัดในทุกรายการ มากกว่าทุกฤดูกาลในอาชีพค้าแข้ง และที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าคือ ฟอร์มการเล่นที่ "คงเส้นคงวา" และ "ไว้ใจได้" มากสุดในทีม
ในฤดูกาลที่ อาร์เซน่อล เจออาการบาดเจ็บเล่นงานหนักหน่วงตั้งแต่หน้ายันหลัง และแทบไม่ได้ใช้ชุดเดิมลงสนามเพราะต้องปรับเปลี่ยนกันทุกนัด การรักษาฟอร์มให้ได้สม่ำเสมอจึงยากมากไม่ว่าจะในฐานะทีมหรือว่ารายบุคคล
ทิมเบอร์ เป็นหนึ่งในคนที่รักษาระดับการเล่นของตัวเองได้ดีสุด ได้คะแนนความสามารถในระดับใกล้เคียงกัน และเป็นคะแนนอยู่ในเกณฑ์น่าพอใจถึงยอดเยี่ยม
ช่วงต้นฤดูกาล ทิมเบอร์ รับผิดชอบในตำแหน่งแบ็กซ้าย ก่อนโยกมาเล่นฝั่งขวาตั้งแต่เกมเสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-2 ที่ได้เห็นหัวจิตหัวใจอันแข็งแกร่งในการช่วยทีมเอาตัวรอดจากการต้องเหลือ 10 คนตลอดครึ่งหลัง และเกือบควักชัยชนะกลับออกมาได้
แนวรับวัย 23 ปี ยึดตำแหน่งตัวจริงโดยตลอดทั้่งพื้นที่หลักแบ็กขวา รวมถึงแบ็กซ้าย และเซนเตอร์แบ็กในบางนัด
ขนาด เบน ไวท์ หายเจ็บกลับมาเล่นในเดือนกุมภาพันธ์ ก็ไม่สามารถทวงตำแหน่งตัวจริงคืนจาก ทิมเบอร์ และต้องรอกระทั่งเดือนพฤษภาคมที่แข้งดัตช์บาดเจ็บจึงเป็นโอกาสของแบ็กชาวอังกฤษอีกครั้งในช่วง 4 นัดสุดท้ายของฤดูกาล
ผลงานของ ทิมเบอร์ ตลอดฤดูกาล 2024/25 แข็งแกร่งมาก สามารถรับมือกับตัวริมเส้นคู่แข่งได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเล่นแบ็กขวาหรือถูกโยกไปเล่นฝั่งซ้าย น้อยคนนักที่จะพาบอลผ่านไปได้ง่ายๆ
ด้วยความกำยำของร่างกายราวกับนักมวยรุ่นไลท์เฮฟวีเวท ทิมเบอร์ จึงไม่เสียเปรียบคู่แข่งเลยเวลาดวลตัวต่อตัว แบ่งบอลเก่ง ครองบอลดี รู้เหลี่ยมในการบัง และพลิกตัวได้ 360 องศาไม่ว่าคู่ต่อสู้จะโยกไปทางไหน
ทิมเบอร์ เล่นเกมรุกได้ดีด้วยเช่นกันในการเติมเกมขึ้นไปสนับสนุนเพื่อนร่วมทีม เขาเลี้ยงบอลได้ดีและเป็นธรรมชาติเพราะเคยเล่นกองกลางมาก่อน
หยุดเกมรุกราชันได้อยู่หมัด
ในเกมกับ เลสเตอร์ เมื่อเดือนกันยายน ทิมเบอร์ สร้างโอกาสให้ทีมได้ถึง 7 ครั้งซึ่งเป็นสถิติมากสุดของพรีเมียร์ลีกสำหรับผูเล่นกองหลัง เทียบเท่าผลงานของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์
อีกอย่างที่่ ทิมเบอร์ ทำได้ดีคือ การมีสมาธิในเกมตลอด 90 นาที โฟกัสไม่หลุดเลย และไม่ได้ก่อความผิดพลาดจนกลายเป็นพลิกผันในเกม
วิลเลียม ซาลีบา กับ กาเบรียล มากัลเญส มีผิดพลาดให้เห็นมากกว่า ยังไม่นับแบ็กซ้ายที่เป็นเหตุให้ต้องเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาหลายรอบจนสุดท้ายลงเอยกับการดันเจ้าหนู ไมล์ส ลูอิส-สเกลลี่ ขึ้นมาเล่น
ทิมเบอร์ มีส่วนอย่างมากในการช่วยให้ อาร์เซน่อล ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกฤดูกาล แม้สุดท้ายจบรองแชมป์อีกครั้ง เช่นเดียวกับการเข้าถึงรอบตัดเชือกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี
รอบก่อนรองฯ ที่เจอกับ เรอัล มาดริด คือบททดสอบสุดโหดสำหรับ ทิมเบอร์ แต่เขาสอบผ่านอย่างไม่ต้องสงสัยในการรับมือกับ วินิซิอุส จุเนียร์ รวมไปถึง คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ในโยกออกด้านข้างอยู่บ่อยครั้ง
ถ้าจะมีที่ปั่นป่วนคงเป็น 20 นาทีแรกในรอบตัดเชือกนัดแรกกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่ดวล ควิช่า ควารัตสเคเลีย ซึ่งเป็นช่วงที่ อาร์เซน่อล เล่นได้แย่ทั้งทีมและตั้งเกมไม่ได้เลย
แต่หลังจากนั้น ทิมเบอร์ ก็ค่อยๆ กลับมาได้ระหว่างเกม และเล่นได้อย่างสุดยอดในนัดสองที่ปารีส แม้ท้ายที่สุดทีมไม่สามารถพลิกสถานการณ์เข้าชิงชนะเลิศได้ก็ตาม
แม้อายุเพียง 23 ปี และเจออาการบาดเจ็บพรากไปเกือบฤดูกาล แต่ ทิมเบอร์ ก็ผ่านการลงสนามไปแล้วเกินสองร้อยนัด พอกพูนประสบการณ์ให้นิ่งและเยือกเย็นในสถานการณ์ที่กดดัน
คัลวิน บาสซีย์ กองหลัง ฟูแล่ม เคยกล่าวถึง ทิมเบอร์ ว่า "หมอนี่เป็นนักเตะที่ใจเย็นที่สุดเลย การเลี้ยงบอลเหลือเชื่อมาก เขาวิ่งพล่านไปมาจนเราต้องคิดว่า 'ทำได้อย่างไร' เขาเหมือนกองกลางที่เล่นในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก"
เจอร์เรียน ทิมเบอร์ กลายเป็นความอุ่นใจในเกมรับของ อาร์เซน่อล ที่มีทั้งความสม่ำเสมอ และไว้วางใจได้
น่าเหลือเชื่อเหลือเกินกับผลงานที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งผู้เล่นดีสุดประจำฤดูกาลของทีม เกิดขึ้นในฤดูกาลที่เพิ่งกลับมาจากบาดเจ็บหนัก
อดจินตนาการผลงานที่จะมาถึงในฤดูกาลหน้าไม่ได้จริงๆ