เดิมพันสูงสุด ขาดลอยที่สุด

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
นัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่หลายคนคาดกันว่าน่าจะออกมาสูสีเบียดไหล่ต่อไหล่ด้วยการเป็นเกมเดิมพันสูงลิบด้วยตำแหน่งแชมป์ยุโรป กลับกลายเป็นเกมที่ขาดลอยสุดเท่าที่เคยมีมา

ไม่มีใครคาดคิดหรือจินตนาการได้เลยว่า ปารีส แซงต์-แชร์กแมง จะคว้าแชมป์สมัยแรกของสโมสรด้วยการไล่ยำ อินเตอร์ มิลาน มโหฬาร 5-0 

นี่คือชัยชนะที่สกอร์ขาดลอยสุดในประวัติศาสตร์นัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งรวมไปถึงยุคที่ยังใช้ชื่อว่า ยูโรเปี้ยน คัพ

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง คู่ควรกับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ และน่าจะยิงได้อีก 2-3 ประตูด้วยซ้ำเพราะทำผลงานได้เหนือกว่าทุกกระบวนท่า ใกล้เคียงกับคำว่า "สมบูรณ์แบบ" ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ทีมดังจากเมืองหลวงของฝรั่เงศส พยายามมานานหลายปีเพื่อเป็นแชมป์ยุโรปให้ได้สักครั้ง พวกเขาเคยมี ลิโอเนล เมสซี่, เนย์มาร์ และ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ อยู่ในทีมพร้อมกัน แต่ก็ยังไม่สามารถไปถึงฝั่งฝันได้

แต่ครั้งนี้ทำสำเร็จด้วยการมี หลุยส์ เอ็นรีเก้ นำทัพ และสร้างทีมด้วยกลุ่มผู้เล่นอายุน้อย ฝีเท้าจัดจ้าน และเข้าใจวิธีการเล่นเป็นอย่างดี 

สัญญาณแห่งชัยชนะปรากฏตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นที่ เปแอสเช เป็นฝ่ายขยับเกมเข้าใส่ อินเตอร์ มิลาน พร้อมสร้างโอกาสลุ้นยิงได้จาก เดซิเร่ ดูเอ้ และ อุสมาน เดมเบเล่ 


เดซิเร่ ดูเอ้ ระเบิดฟอร์มนัดชิง

ประตูแรกมาถึงกับโอกาสลุ้นครั้งที่สามในนาที 12 เดซิเร่ ดูเอ้ รับบอลจาก วิตินญ่า ในเขตโทษฝั่งซ้ายที่หากเลือกตะบันยัดมุมแคบไปเลยก็อาจเป็นประตูได้ แต่เขาเลือกตัวเลือกที่ดีกว่าด้วยการจ่ายยัดให้ อาชราฟ ฮาคิมี่ กระแทกง่ายๆ เข้าไป

เกมรับ อินเตอร์ ไม่สามารถหยุดจังหวะเข้าทำช็อตนี้ของ เปแอสเช ได้เลย ทุกคนยืนขาตายกันหมดมีเพียง เฟเดริโก้ ดิ มาร์โก วิ่งเข้าไปพยายามปิดช่องยิงของ ดูเอ้ แต่นั่นเท่ากับหลุดตำแหน่งจากที่ตามประกบ ฮาคิมี่ ในตอนแรก

การบีบเกมใส่คู่ต่อสู้ทันทีและได้ประตูนำเร็วคือแท็กติกที่ เอ็นรีเก้ ใช้ได้ผลในหลายนัดซึ่งรวมถึงรอบตัดเชือกนัดแรกที่บุกชนะ อาร์เซน่อล 

พอนำเร็วก็สามารถเลือกเล่นโต้กลับได้ง่าย ยิ่งได้ประตูที่สองในอีกไม่กี่นาทีถัดมาก็ยิ่งทำให้ทุกอย่างเข้าทางยิ่งขึ้น

อินเตอร์ พยายามบุก แต่จบไม่ได้จึงโดนหมัดสวนเข้าอย่างจัง อุสมาน เดมเบเล่ ลุยขึ้นทางซ้ายก่อนตักบอลข้ามมาเสาไกลให้ เดซิเร่ ดูเอ้ เอาบอลลงแล้วยิงแฉลบ ดิ มาร์โก เปลี่ยนทางเล็กน้อยเข้าประตู ยานน์ ซอมเมอร์ หมดสิทธิ์อีกครั้ง

ดูเอ้ กลายเป็นนักเตะอายุน้อยสุดที่ทั้งยิงและจ่ายในนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยวัยเพียง 19 ปี 362 วัน ทำลายสถิติของ จู๊ด เบลลิงแฮม (20 ปี 338 วัน) ในปีที่แล้วลงได้

การเสียถึง 2 ประตูใน 20 นาทีแรก คือสิ่งที่ อินเตอร์ มิลาน ไม่คาดคิดเพราะตลอดเส้นทาง 14 นัดสู่นัดชิงชนะเลิศ พวกเขาตกเป็นรองคู่แข่งรวมกัน 17 นาทีเท่านั้น 


หลุยส์ เอ็นรีเก้ เสกแชมป์ยุโรปให้ เปแแอสเช ได้สำเร็จ

ใน 9 นัดแรกของฤดูกาลนี้ อินเตอร์ เสียไปเพียงประตูเดียว และเพิ่งจะเริ่มมาโดนรัวๆ ก็ตอนรอบก่อนรองฯ กับรอบตัดเชือกที่เข้าใจได้ต้องฟัดกับ บาเยิร์น มิวนิค และ บาร์เซโลน่า ซึ่งสุดท้ายยังพาตัวเองเข้ารอบชิงชนะเลิศได้่

แต่ครั้งนี้พวกเขาโดนแล้วกลับมาไม่ได้เลย ไม่มีช่วงใดที่ประตูแห่งการคัมแบ็กจะแง้มให้พวกเขามีความหวังเพราะคู่แข่งเหนือกว่าทั้งสกอร์และรูปเกม

เปแอสเช ใช้การบีบเพรสซิ่งสูงตั้งแต่แดนบน การออกบอลของ อินเตอร์ ทำได้ลำบาก ตรงกลางไม่สามารถพลิกเกมได้ ส่วนริมเส้นก็โดนประกบติดหนึบไม่ต่างกัน

อายุเฉลี่ยของผู้เล่นทั้งสองทีมมีผลไม่น้อย ตัวจริงของ เปแอสเช มีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 25 ปี 96 วัน ส่วน อินเตอร์ คือ 30 ปี 242 วัน ต่างกันถึง  5 ปี 142 วัน เป็นความต่างที่มากสุดระหว่างสองทีมคู่ชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก 

ความสด ความฟิต และความเร็วในการเล่นเหมือนบอลคนละชั้น เปแอสเช ใช้ประโยชน์จากตรงนี้ในการไล่บี้ไล่อัดจน อินเตอร์ หมดสภาพ ไม่สามารถพลิกตัวหลีกหนีได้เลย 

เดมเบเล่, ดูเอ้ และ ควารัตสเคเลีย วิ่งเข้าหากองหลัง อินเตอร์ ทุกจังหวะ ขณะที่ วิตินญ่า, ฟาเบียน รูอีซ และ ชูเอา เนเวส ก็โชว์ความเป็นทีมเวิร์กข่มใส่ ฮาคาน ชาลาโนลู, นิโกโล่ บาเรลล่า และ เฮนริค มคิทาร์ยาน 


อินเตอร์ มิลาน กลายเป็นรองแชมป์สามรายการ

แม้ เปแอสเช บวกประตูที่สามเพิ่มไม่ได้ก่อนจบ 45 นาทีแรก แต่ก็ควบคุมสถานการณ์ได้อยู่หมัด แฟนบอลทั่วไปมองจากดวงอังคารก็รู้ว่าประตูที่ 3 มาแน่ เว้นแต่ว่า อินเตอร์ จะระเบิดฟอร์มได้ใน 45 นาทีหลัง

เปแอสเช ได้ลุ้นถึง 13 ครั้ง เข้ากรอบ 5 ครั้ง ขณะที่ อินเตอร์ ได้ยิง 2 ครั้ง ไม่เข้ากรอบเลย ตัวเลขตรงนี้พร้อมกับสกอร์ 2-0 บ่งบอกว่า อินเตอร์ ต้องพึ่งปาฏิหาริย์เท่านั้นจึงจะกลับมาได้

ไม่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นที่อัลลิอันซ์ อารีน่า เมื่อทุกอย่างยังคงดำเนินไปในรูปแบบเดิม แม้กระทั่งความพยายามปรับเกมของ ซิโมเน่ อินซากี้ ในต้นครึ่งหลังก็พังลงในเวลารวดเร็ว

อินซากี้ ส่ง ยานน์ บิสเซ็ค และ นิโกล่า ซาเลฟสกี้ ลงมาแทน เบนฌาแม็ง ปาวาร์ และ เฟเดริโก้ ดิ มาร์โก แต่เพียง 2 นาทีแรกในสนาม ซาเลฟสกี้ ก็ได้ใบเหลืองทำให้เล่นได้ยากขึ้น ขณะที่ บิสเซ็ค ก็บาดเจ็บต้องเปลี่ยนตัวออกในไม่ถึง 10 นาที

บิสเซ็ค เดินออกด้านหลังประตูยังไม่ไม่ถึงซุ้มม้านั่งสำรองของทีม เปแอสเช ก็บวกประตู 3-0 ซึ่งทำให้เกมแทบจะจบในทันที 

ประตูที่ 3 จาก ดูเอ้ คนเดิม รวมถึงประตูที่ 4 จาก ควารัตสเคเลีย ในนาที 73 ล้วนมาจากการเล่นโต้กลับที่ อินเตอร์ ไม่สามารถรับมือได้เลย 

ฟรานเชสโก้ อแชร์บี้้ และ อเลสซานโดร บาสโตนี่ ตัวสูงใหญ่ แต่ช้า และกลับตัวอืด เจอแทงตัดหลัง หรือตักข้ามหัวก็จบทันที 


ฝันที่กลายเป็นจริง

สิ่งที่ อินเตอร์ ทำได้ดีสุดหลังโดน 4 ประตูคือ การยิงเข้ากรอบครั้งแรกในอีก 2 นาทีถัดมา แต่ก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรงสำหรับ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า  

ประตูปิดท้ายจาก เซนนี่ มาลายู ดาวรุ่งตัวสำรองเป็นเหมือนโบนัสแทร็กที่ตอกย้ำภาพของ เปแอสเช ชุดนี้ที่คว้าแชมป์ยุโรปได้สำเร็จด้วยขุมกำลังคนหนุ่ม ไม่จำเป็นต้องอัดแน่นไปด้วยซูเปอร์สตาร์ล้นทีม

มาลายู กลายเป็นนักเตะอายุน้อยสุดอันดับ 2 ที่ยิงประตูได้ในนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยวัย 19 ปี 14 วัน เป็นรองเพียง พาทริค ไคลเวิร์ต ที่เคยยิงประตูให้ อาแจ็กซ์ ชนะ เอซี มิลาน 1-0 คว้าแชมป์เมื่อปี 1995 ด้วยวัย 18 ปี 327 วัน

เกมจบในสกอร์ที่น่าเหลือเชื่อที่สุดในประวัติศาสตร์นัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 

ไม่มีความตื่นเต้นใดๆ ให้แฟนบอลต้องลุ้นตัวเกร็ง สิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นครึ่งหลังคือ แฟนบอล เปแอสเช นับถอยหลังรอฉลอง ส่วนสาวก อินเตอร์ พยายามทำใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า บางคนอยากให้เห็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น 

คุณภาพในการเล่นของทั้งสองทีมต่างกันราวฟ้ากับเหว เปแอสเช ครบเครื่องต้มยำโดยเฉพาะเกมรุกที่จัดจ้าน รวดเร็ว แม่นยำ เล่นในเกมที่ตัวเองต้องการได้ตั้งแต่ต้นจนจบ รู้วิธีโจมตีคู่แข่ง เห็นแผลแล้วรุมฉีกให้ใหญ่ขึ้น 

ขณะที่ อินเตอร์ ไม่สามารถหยุดเลือดไหลนองได้ พวกเขาทำได้เพียงนอนรอความตายด้วยลมหายใจแผ่วเบา เป็นความพ่ายแพ้ที่ย่อยยับทั้งสกอร์และฟอร์มการเล่น และโชคร้ายที่มันเกิดขึ้นในนัดที่สำคัญที่สุดของฤดูกาล

อินเตอร์ มีโอกาสคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ในฤดูกาลนี้ แต่ความหวังค่อยๆ หลุดลอยไปทั้งโคปปา อิตาเลีย, กัลโช่ เซเรีย อา และสูญสิ้นทุกอย่างในนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ทำให้ความทรงจำอันเจ็บปวดของชัดยิ่งขึ้นกับการเป็น "รองแชมป์" ทั้งสามรายการ 

ขอแสดงความยินดีกับแฟนบอล ปารีส แซงต์-แชร์กแมง กับแชมป์ยุโรปสมัยแรก 

พวกคุณคู่ควรกับความสำเร็จนี้อย่างแท้จริง



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด