ตามรอยพี่ชาย แต่มีสไตล์ของตัวเอง

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
อยู่ในทีมเยาวชนของ เบอร์มิงแฮม เริ่มสร้างชื่อในลีกแชมเปี้ยนชิพ ก่อนย้ายสู่บุนเดสลีกาด้วยค่าตัวก้อนโต...นี่คือเส้นทางที่เหมือนกันเป๊ะของสองพี่น้องตระกูล "เบลลิงแฮม"

เส้นทางลูกหนังของ โจ๊บ เบลลิงแฮม กำลังเดินตามรอยพี่ชายอย่าง จู๊ด เบลลิงแฮม แบบถอดกันมา หลังตกลงย้ายสู่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าตัวสูงถึง 31 ล้านปอนด์ 

โจ๊บ เพิ่งช่วยให้ ซันเดอร์แลนด์ เลื่อนชั้นขึ้นพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้าจากการชนะเลิศเพลย์ออฟ แต่เขาจะไม่ได้เล่นในลีกสูงสุดของอังกฤษเพราะเลือกเส้นทางใหม่ในบุนเดสลีกา เยอรมนี 

แม้เป็นลีกใหม่และประเทศใหม่ แต่ชื่อของ ดอร์ทมุนด์ คือสโมสรที่ โจ๊บ และตระกูลเบลลิงแฮมคุ้นเคยเป็นอย่างดีเพราะเป็นสโมสรที่ จู๊ด ผู้เป็นพี่ชายเคยประสบความสำเร็จ

จู๊ด อายุเพียง 17 ปีตอนย้ายจาก เบอร์มิงแฮม เข้าร่วมทีม ดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ ช่วงซัมเมอร์ 2020 ซึ่งอีก 3 ปีต่อมาได้กลายเป็นดีลที่คุ้มค่าสำหรับทัพเสือเหลืองเพราะขายออกให้ เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวเบื้องต้น 88.5 ล้านปอนด์ 

จู๊ด ลงเล่นให้ ดอร์ทมุนด์ ทั้งหมด 132 นัด ได้แชมป์เดเอฟเบ โพคาล ในปี 2021 และเกือบได้แชมป์บุนเดสลีกาในฤดูกาล 2022/23 ที่เขามีอาการบาดเจ็บหัวเข่าทำได้เพียงนั่งสำรองในนัดสุดท้ายที่เสมอกับ ไมน์ซ ซึ่งหากเสือเหลืองเก็บชัยชนะนัดนั้นได้ก็จะคว้าแชมป์ลีกสมัยแรกในรอบ 11 ปี

แม้พลาดแชมป์ส่งท้ายกับ ดอร์ทมุนด์ แต่ จู๊ด เบลลิงแฮม ก็เริ่มต้นใหม่กับ เรอัล มาดริด ได้สุดปังตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่พาคว้าแชมป์ลา ลีกา และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ต่อด้วยแชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ในฤดูกาลล่าสุด

นี่คือเส้นทางและความสำเร็จของพี่ชายซึ่งตอนนี้เป็นหมุดหมายสำคัญสำหรับคนน้องอย่าง โจ๊บ เบลลิงแฮม


ช่วยให้ซันเดอร์แลนด์ตีตั๋วขึ้นพรีเมียร์ลีก

 ขอสร้างชื่อในแบบของตัวเอง

แม้ตามรอยพี่ชายด้วยการย้ายสู่ ดอร์ทมุนด์ ตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ โจ๊บ เบลลิงแฮม มีความตั้งใจแรงกล้าที่จะพิสูจน์ตัวเอง ไม่ได้หวังพึ่งพาชื่อเสียงของพี่ชาย

"เขาไม่ต้องการใช้ชื่อเสียงของพี่ชายมาเป็นบันได เขาอยากเป็นนักฟุตบอลในแบบของตัวเองและแสดงให้ผู้คนเห็นว่าเขาทำอะไรได้บ้าง เขากำลังพยายามสร้างตัวตนของตัวเอง" โทนี่ โมว์เบรย์ อดีตกุนซือ ซันเดอร์แลนด์ กล่าวเอาไว้เมื่อปี 2023

โจ๊บ ยังเลือกปักชื่อบนด้านหลังเสื้อเป็น "JOBE" เพื่อบ่งบอกความเป็นตัวเองให้มากที่สุด ไม่ได้ชื่อ "BELLINGHAM" เหมือนพี่ชาย 

ในขณะที่พี่ชายเล่นในตำแหน่งจอมทัพหมายเลข 10 อยู่หลังกองหน้าตัวเป้าเป็นหลัก แต่ โจ๊บ สามารถเล่นได้ทั้งในบทบาทกองกลางตัวรับ หรือ กองกลางแบบบ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ แถมยังเคยถูกใช้งานตำแหน่งหน้าเป้าในฤดูกาลแรกกับ ซันเดอร์แลนด์

"ผมรู้ว่าการเล่นแบบบ็อกซ์ ทู บ็อกซ์คือสิ่งที่ผมชอบที่สุด เพราะคุณสามารถเข้าไปสกัดบอลได้ และพาบอลไปข้างหน้า มันเป็นตำแหน่งที่ผมสามารถแสดงความสามารถของตัวเองได้มากที่สุด" โจ๊บ กล่าวถึงตำแหน่งที่ชื่นชอบมากสุด


เลือกปักชื่อ 'JOBE' เพื่อบ่งบอกความเป็นตัวเอง

ฤดูกาล 2024/25 ที่ผ่านพ้นไป ดาวรุ่งวัย 19 ปี ลงสนามให้ ซันเดอร์แลนด์ 43 นัด ยิงได้ 4 ประตู และทำอีก 3 แอสซิสต์

เรฌิส เลอ บรีส์ กุนซือทัพแมวดำกล่าวถึง โจ๊บ เบลลิงแฮม ว่า "เขายังเป็นผู้เล่นดาวรุ่งที่สามารถเล่นได้หลากหลายตำแหน่ง ผมชอบเขาในบทบาทหมายเลข 8 เพราะเป็นกองกลางเชิงรุก เขาสามารถใช้พละกำลัง ความสามารถในการวิ่ง และการเพรสซิ่ง รวมถึงเชื่อมเกมรับและเกมรุกได้ดี"

 ทางเลือกที่ใช่ในบุนเดสลีกา

มาร์โก กับเบียดินี อดีตกองหน้า ซันเดอร์แลนด์  เชื่อว่าการย้ายไปเยอรมนีจะเป็นเรื่องดีสำหรับ โจ๊บ

"บุนเดสลีกาอยู่ตรงกลางระหว่างแชมเปี้ยนชิพกับพรีเมียร์ลีก" อดีตดาวยิง ซันเดอร์แลนด์ ยุคปี ยุคระหว่างปี 1987-1991 กล่าว 

"มันเป็นการก้าวขึ้นไปอีกขั้น แต่อาจมีแรงกดดันน้อยกว่าพรีเมียร์ลีกเล็กน้อย แถมยังมีข้อได้เปรียบทางการเงินจากการไปเล่นต่างแดนด้วย"

อีกเรื่องบังเอิญที่เส้นทางของ โจ๊บ ตามรอยพี่ชาย คือ เขาย้ายจาก เบอร์มิงแฮม มายัง ซันเดอร์แลนด์ ตอนอายุ 17 ในวันเดียวกับ จู๊ด ย้ายไปร่วมทีม เรอัล มาดริด


กำลังจะได้เล่นให้ ดอร์ทมุนด์ เหมือนพี่ชาย

"มันค่อนข้างเซอร์ไพรส์ตอนเขามา ซันเดอร์แลนด์ ไม่ใช่ว่าเราไม่ใหญ่พอสำหรับเขา แต่เพราะเขาเป็นดาวรุ่งที่ได้รับความสนใจมาก"

"เบอร์มิงแฮม ตอนนั้นอยู่ในสถานการณ์ใกล้เคียงกับเราในตาราง มันไม่ได้เป็นการก้าวกระโดดมากนักในตอนนั้น"

"เขาทำผลงานได้ดีมาก ผมคิดว่าเขาเก่งเท่าพี่ชายหรือไม่น่ะเหรอ? จากที่ผมเห็นตอนนี้คงยังไม่ถึง แต่ก็ไม่มีอะไรผิดกับเรื่องนั้นเลย"

"ถ้าเขาเก่งได้สัก 80 เปอร์เซ็นต์ของพี่ชาย เขาก็จะเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมอยู่ดี เพราะฉะนั้นปล่อยให้เขาเป็นไปตามทางของเขา ให้เขาพัฒนาในแบบของตัวเองดีกว่า"

 ฝันครั้งใหญ่ได้เล่นทีมชาติกับพี่ชาย 

โจ๊บ และ จู๊ด เบลลิงแฮม เกิดที่เมืองสเตาร์บริดจ์ในเขตเวสต์มิดแลนด์ และทั้งคู่เริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลจาก อะคาเดมีของ เบอร์มิงแฮม ซิตี้

จู๊ด ได้ประเดิมสนามให้กับทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่เพียง 4 เดือนหลังจากย้ายไปร่วมทีม ดอร์ทมุนด์

จนถึงตอนนี้ เขาลงเล่นให้ทัพสิงโตคำรามไปแล้ว 43 นัด ยิงได้ 6 ประตู และเคยพาทีมเข้าชิงยูโร 2020 และ 2024 ทว่าอกหักจบรองแชมป์ทั้งสองครั้ง 


เช่นเดียวกับพี่ชาย โจ๊บ เคยเล่นให้ทีมชาติอังกฤษในระดับเยาวชนหลายรุ่น และล่าสุดถูกเรียกติดทีมชุดยู-21 สำหรับทำศึกชิงแชมป์ยุโรปที่ประเทศสโลวาเกีย

ปีที่แล้ว จู๊ด ผู้เป็นพี่ให้สัมภาษณ์ผ่านช่องยูทุบของตัวเองว่าเขาหวังจะเห็น โจ๊บ ติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ในเร็วๆ นี้

"เพราะเราอายุใกล้กัน และเราเล่นฟุตบอลด้วยกันทั้งในถนนและบนสนามหญ้าเล็กๆ มานาน ถ้าได้เล่นกับน้องชายในทีมชาติอังกฤษ ก็คงเป็นความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผมเลย"

"มันจะมีความหมายมากกว่าถ้วยรางวัลใดๆ โดยเฉพาะถ้าเราทำมันได้อย่างต่อเนื่อง และได้ลงเล่นในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ด้วยกัน คว้าแชมป์ด้วยกัน มันไม่มีอะไรเทียบได้เลย" 

จู๊ด ยังเชื่อว่าความสำเร็จของเขาจะกลายเป็นแรงกระตุ้นให้กับน้องชาย "เขาต้องเจอกับแรงกดดันมากกว่าที่ผมเคยเจอในวัยเดียวกัน และเขารับมือกับมันได้อย่างมีระดับ"

"เขาต้องการสร้างตำนานและเส้นทางของตัวเอง ผู้คนบางครั้งก็ใช้เขาเป็นข้ออ้างในการโจมตีผม และในทางกลับกัน แต่เราก็เหมือนเป็นแฟนตัวยงของกันและกัน ในขณะเดียวกันก็เป็นเป้าหมายใหญ่ที่สุดของกันและกัน เพราะเราห่วงใยกันมาก"

"ตราบใดที่เขามีความสุข นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผม ความสุขของเขามีค่ามากกว่าความสุขของผมเองเสียอีก" 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด