อีธาน วาเนรี่ กับฤดูกาลที่ก้าวไปอีกขั้น

วาเนรี่ เริ่มต้นสร้างประวัติศาสตร์ตั้งแต่เดือนกันยายน 2022 ด้วยการเป็นนักเตะที่อายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์ที่ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก ด้วยวัยเพียง 15 ปี 181 วัน
จากนั้นเขายังคงสร้างผลงานโดดเด่นต่อเนื่องด้วยการยิง 8 ประตูก่อนอายุครบ 18 ปีซึ่งเป็นสถิติสโมสรเทียบเท่า จอห์น แรดฟอร์ด เมื่อ 62 ปีที่แล้ว และยังเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดยิงประตูในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สองนัดติด รวมถึงอายุน้อยสุดอันดับสามยิงประตูในรอบน็อกเอาต์ของรายการนี้ รองจาก จู๊ด เบลลิงแฮม และ โบยาน เกร์กิช
วาเนรี่ ได้ลงสนามให้ อาร์เซน่อล มากถึง 37 นัดจากทุกรายการในฤดูกาลล่าสุด ถือเป็นฤดูกาลที่ได้ช่วยทีมอย่างเต็มที่โดยเฉพาะในช่วงที่ มาร์ติน โอเดการ์ด และ บูคาโย่ ซาก้า บาดเจ็บ
โมเมนต์น่าจดจำ
เมื่อถูกถามถึงช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุดของฤดูกาล วาเนรี่ ตอบทันทีว่า 'ประตูในเกมพบ แมนฯ ซิตี้' ที่แม้เป็นประตูปิดท้ายในชัยชนะ 5-1 แต่มันเป็นจังหวะที่เขาเรียกบอลอยู่นานถึง 14 วินาทีก่อนจะได้บอล และจากนั้นเขาก็รู้ในสิ่งที่ต้องทำ 'ลากตัดเข้าในแล้วยิงโค้งไปเสาสอง'
รอโอกาสอย่างใจเย็นก่อนซัดประตูใส่เรือใบ
"ผมรู้เลยว่าถ้าได้บอล ผมจะทำบางสิ่งได้แน่นอน" วาเนรี่ เล่า "แล้ว เดค (เดแคลน ไรซ์) ก็เห็นผมพอดี โชคดีจริงๆ ตอนนั้นคุณไม่คิดอะไรมากหรอก แค่ซัดมันไปเลย ค่อยมาคิดทีหลัง"
"มันเป็นสัญชาตญาณ จากการฝึกซ้อมตั้งแต่เด็กในสวนสาธารณะ ผมเล่นฝั่งขวามาตลอดและตัดเข้าในมาทางซ้ายเท้าถนัด เลยมันเป็นสิ่งที่ติดตัวผมมาตามธรรมชาติ"
เขาจบฤดูกาลด้วยผลงาน 9 ประตู 2 แอสซิสต์กับสโมสร และอีก 7 ประตูในระดับทีมชาติชุดเยาวชน แต่เจ้าตัวยืนยันว่ายังต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทีมชุดใหญ่ของ อาร์เซน่อล
เรียนรู้จาก อาร์เตต้า
วาเนรี่ ชื่นชม มิเกล อาร์เตต้า อย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของความจริงจัง ความใส่ใจในรายละเอียด และการพัฒนาเรื่องสภาพจิตใจ
"มีหลายอย่างที่ผมได้เรียนรู้จาก มิเกล หากคุณเคยพบกับเขา คุณจะเห็นว่าเขาเป็นคนจริงจังแค่ไหน พูดเก่งแค่ไหน และเขารู้ว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่"
เติบโตไปพร้อมกับ ลูอิส-สเกลลี่ โดยมี อาร์เตต้า คอยแนะนำ
"เขาช่วยยกระดับการเล่นของผมอย่างแน่นอน ไม่ใช่แค่ในด้านวิธีการเท่านั้น แต่ยังรวมถึงด้านจิตใจด้วย"
"เขาช่วยผมได้มาก เขาให้ความสำคัญกับภาษากาย และการแสดงออก เขาแสดงสิ่งนั้นให้ผมได้รู้
"มิเกล ใส่ใจกับทุกอย่าง แม้แต่เรื่องท่าทางการยืน เดิน นั่ง เขาเคี่ยวผมเรื่องพวกนี้มาก ซึ่งมันช่วยให้ผมเฉียบคมขึ้นทั้งในทางร่างกายและจิตใจ"
ในช่วงสัมภาษณ์ เขานั่งตรง หลังตั้ง มีรอยยิ้ม และพูดอย่างมั่นใจ ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในตัวเขาอย่างชัดเจน
มิตรภาพกับ ลูอิส-สเกลลี่ และบทบาทการเล่น
อีวาน วาเนรี่ พูดถึง ไมล์ส ลูอิส-สเกลลี่ เพื่อนสนิทและเพื่อนร่วมทีมปืนใหญ่อีกคนที่ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่พร้อมกัน ทั้งสองได้เป็นตัวจริงร่วมกันครั้งแรกในลีก คัพ กับ โบลตัน และ ลูอิส-สเกลลี่ ก็มีบทบาทในประตูแรกของ วาเนรี่ ด้วย
"ความสัมพันธ์กับ ไมล์ส สำคัญมาก เราคล้ายกันแต่ก็ต่างกัน เขาเปิดเผยมากกว่าผม แต่เราคิดในแนวเดียวกัน มันคือมิตรภาพที่พิเศษจริงๆ"
แม้ อาร์เซน่อล จะพยายามแยกแยะการพัฒนาของทั้งสองคน ไม่ให้ถูกเปรียบเทียบกันโดยตรง แต่ทั้งสองก็เป็นอนาคตของทีม และกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาสัญญาใหม่
วาเนรี่ เป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดในทีมชาติอังกฤษชุดอายุไม่เกิน 21 ปี ของ ลี คาร์สลีย์ เขาประเดิมสนามตรงวันเกิดครบรอบ 18 ปีในเกมพบ ฝรั่งเศส และได้ออกสตาร์ตเกมแรกพบ โปรตุเกส ซึ่งสามารถทำประตูได้ด้วย
กำลังช่วยสิงโตชุดเล็กล่าแชมป์ยุโรป
ตอนนี้ ดาวรุ่งตัวเก่งจากรั้วเฮลเอนด์กำลังช่วยทีมสิงโตชุดเล็กลุยศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปโดยเป็นผู้เล่นอายุน้อยสุดของทีม และได้โอกาสปั้นเกมตรงกลางบ่อยกว่าการเล่นฝั่งขวาที่ อาร์เซน่อล
"ผมเป็นมิดฟิลด์โดยธรรมชาติ แต่ถ้าโค้ชให้ผมเล่นที่ไหน ผมก็จะเล่นให้ดีที่สุด ผมไม่ขัดข้องเลยกับการเล่นตรงไหน เพราะตราบใดที่ได้ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ อาร์เซน่อล ผมก็มีความสุขแล้ว และพร้อมที่จะพยายามทำผลงานให้ดีเพื่อทีม"
"ผมเคยเล่น 'ฟอลส์ไนน์' มาก่อนด้วย ผมอยากมีส่วนร่วมในเกม อยากเป็นผู้เล่นที่สร้างอิมแพคต์ได้ ยิงประตูได้ คุมเกมได้ และยังมีอีกหลายด้านที่ผมต้องพัฒนา เช่น เกมรับ การเล่นด้านใน และความแข็งแกร่งของร่างกาย"
สิ่งสำคัญคือวางเป้าหมายให้ตัวเอง
แม้แฟนบอล อาร์เซนอล รับรู้อยู่แล้วและรู้ว่าต้องคาดหวังอะไรได้บ้างจาก วาเนรี่ กับการเล่นชุดใหญ่ในฤดูกาลที่ผ่านมา แต่สำหรับแฟนบอลพรีเมียร์ลีกทั่วไปอาจเป็นเรื่องน่าประหลาดใจอยู่ไม่น้อย
"ก่อนเริ่มฤดูกาล ผมจะเห็นภาพในหัวเลยว่าตัวเองจะไปอยู่ตรงไหนตอนจบฤดูกาล ผมมีความสามารถในการมองเห็นและจินตนาการเป้าหมายของตัวเอง และทุ่มเทสมาธิทั้งหมดเพื่อไปให้ถึงจุดนั้น"
ทำได้ถึง 9 ประตูในฤดูกาลล่าสุด
"ผมไม่แปลกใจเท่าไหร่นะ เพราะผมตั้งเป้าไว้ที่ 10 ประตู และก็ทำได้ใกล้เคียงมาก แต่ตอนนี้ก็ต้องมาคิดต่อว่า 'แล้วก้าวต่อไปล่ะ?' และผมต้องทำอะไรต่อเพื่อไปให้ถึงจุดที่อยากไปให้ถึง"
ไม่มีใครสงสัยในเรื่องพรสวรรค์ของ อีธาน วาเนรี่ แต่สิ่งที่เขามีเพิ่มเติมคือ ความมุ่งมั่นพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง และรู้จักวางเป้าหมายให้ตัวเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ที่จะช่วยผลักดันให้เขากลายเป็นดาวจรัสแสงอย่างแท้จริงในอนาคต