ตัวแทนที่สมเหตุสมผล

ตอนนี้ นอร์การ์ด ยังไม่ได้เปิดตัวกับ อาร์เซน่อล แต่ดีลนี้คืบหน้าในเวลารวดเร็ว การเจรจาระหว่าง อาร์เซน่อล กับ เบรนท์ฟอร์ด ราบรื่นไร้ เช่นเดียวกับสัญญาส่วนตัวกับกองกลางวัย 31 ปี

ขณะที่ ปาร์เตย์ ก็เตรียมนับถอยหลังอำลาทีมหลังสัญญาปัจจุบันกำลังสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 มิถุนายนนี้้  

การตัดสินใจแยกทางกับ ปาร์เตย์ แล้วเลือกตัวแทนที่คุณภาพโดยรวมและชื่อเสียงด้อยกว่าอย่าง นอร์การ์ด มาร่วมทีม ทำให้เกิดการตั้งคำถามจากแฟนบอลมากมายว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของ อาร์เซน่อล แล้วหรือไม่

ปาร์เตย์ สำคัญต่อ อาร์เซน่อล มากเพียงใดคงไม่ต้องขยายความให้มากเพราะเขาคือหนึ่งในผู้เล่นตัวหลักของทีมมาตลอด 5 ปีนับตั้งแต่ย้ายมาจาก แอตเลติโก มาดริด

ฤดูกาลล่าสุดที่เพิ่งผ่านพ้นไป ปาร์เตย์ รักษาสภาพร่างกายได้ดีมาก แทบไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวนทำให้ลงสนามช่วยทีมมากถึง 52 นัดในทุกรายการ เป็นสถิติลงเล่นมากสุดต่อฤดูกาลนับตั้งแต่ค้าแข้งมาเกินสิบปี 

ฟอร์มโดยรวมทั้งตำแหน่งกองกลางและแบ็กขวาทำได้ยอดเยี่ยม ช่วยทีมได้ในทุกสถานการณ์ และนัดใดที่ไม่ได้ลงสนามก็เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน 

แต่ปัญหาของ ปาร์เตย์ คือ สัญญาใหม่ที่ไม่สามารถตกลงกับสโมสรได้ แหล่งข่าวรายงานว่ากองกลางจอมเก๋าต้องการค่าเหนื่อยในระดับที่สูงเกินกว่า อาร์เซน่อล จะจ่ายไหว (ตามรายงานคือไม่ต่ำกว่า 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์)

ปาร์เตย์ เตรียมอำลา อาร์เซน่อล

คุณภาพของ ปาร์เตย์ เหมาะสมกับค่าเหนื่อยก้อนโตแน่นอน ทว่าด้วยบทบาทที่กำลังจะเปลี่ยนไปในฤดูกาลหน้า บวกกับอายุ 32 ปีแล้ว ทำให้ อาร์เซน่อล คิดหนักในหลายต่อหลายรอบ 

อาร์เซน่อล กำลังจะได้ มาร์ติน ซูบีเมนดี้ กองกลางทีมชาติสเปนเข้ามาเป็นตัวหลักในตำแหน่งหมายเลข 6 คนใหม่ ปาร์เตย์ อาจต้องนั่งสำรองบ่อยขึ้น 

การที่ผู้เล่นค่าเหนื่อยสูง แต่ไม่ได้การันตีตัวจริงคือ สถานการณ์ที่ อาร์เซน่อล พยายามหลีกเลี่ยงเพราะต้องการลดค่าใช้จ่าย ซึ่งตรงนี้ขัดกับความต้องการของ ปาร์เตย์ ที่อยากได้ค่าเหนื่อยใกล้เคียงเดิม

สัญญาใหม่ของ ปาร์เตย์ จึงคาราคาซัง และเมื่อไม่มีอะไรคืบหน้า กองกลางทีมชาติกานาก็จะกลายเป็นแข้งฟรีเอเจนต์ในอีกไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ต่อจากนี้ 

อาร์เซน่อล ต้องตัดสินใจและวางแผนกันใหม่ แม้ มิเกล อาร์เตต้า เคยออกมาพูดว่าต้องการร่วมงานกับ โธมัส ปาร์เตย์ ต่อไป แต่เมื่อไม่สามารถหาจุดลงเอยกันได้ก็ต้องมองหาตัวเลือกอื่นทดแทน

การต่อสัญญานักเตะที่มีอยู่แล้วเป็นแนวคิดที่ง่าย ไม่ต้องเสียเวลาไปตามหาแข้งใหม่ แต่ในการดำเนินงานจริงนั้นยากกว่า และในหลายครั้งก็มีเงื่อนไขที่ซับซ้อน และไม่ได้อยู่ในการรับรู้ของคนทั่วไป

อาร์เซน่อล ต้องเดินหน้าต่อ และมีหลายเรื่องที่ต้องจัดการในตลาดซัมเมอร์นี้ พวกเขาได้ข้อสรุปในท้ายที่สุดว่าคงต้องแยกทางกับ ปาร์เตย์ และคนที่เข้ามาแทนที่ต้อง "สมเหตุสมผล"

จากคู่แข่งกำลังกลายเป็นเพื่อนร่วมทีม

คริสเตียน นอร์การ์ด ไม่ใช่ตัวเลือกที่ อาร์เซน่อล วางภารกิจเอาไว้ในตอนแรก แต่อยู่ในลิสต์ที่สนใจอยู่แล้ว เมื่อสถานการณ์ของ ปาร์เตย์ ออกมาเป็นแบบนี้ก็เพียงแค่เปิดฉากไล่ล่าตัวร่วมทีม 

แม้โปรไฟล์ของ นอร์การ์ด จะด้อยกว่า ปาร์เตย์ แต่ก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่มั่วซั่วเดินเจอในตลาดแล้วหิ้วขึ้นรถกลับบ้าน วิเคราะห์กันจริงจังแล้วก็ถือว่าเป็นนักเตะที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับสถานการณ์ที่ อาร์เซน่อล เผชิญอยู่

นอร์การ์ด เล่นในอังกฤษมา 6 ฤดูกาลติดต่อกันแล้ว โดยที่เป็นการเล่นในพรีเมียร์ลีกตลอด 4 ฤดูกาลหลังสุด เรื่องประสบการณ์ไม่ต้องห่วง และมีความคุ้นเคยดีกับรูปแบบการเล่นในอังกฤษ

นับเฉพาะ 4 ปีฤดูกาลหลังสุดในพรีเมียณ์ลีก นอร์การ์ด มีสถิติสกัดบอลมากกว่าผู้เล่นทุกคนที่จำนวน 201 ครั้ง และเก็บบอลกลับมาครองมากเป็นอันดับ 2 ของลีกที่ 844 ครั้ง รวมถึงเข้าแท็กเกิลสำเร็จมากเป็นอันดับ 3 ของลีกที่ 189 ครั้ง

กองกลางทีมชาติเดนมาร์กทำได้ยอดเยี่ยมในเรื่องของเกมรับ และช่วงหลังก็พัฒนาเกมรุกได้ดีขึ้นโดยเฉพาะฤดูกาลที่แล้วที่ยิงในลีกได้ 5 ประตู เป็นผลงานดีสุดต่อฤดูกาล และทำได้อีก 4 แอสซิสต์ 

ตามตำแหน่งแล้ว นอร์การ์ด เล่นในบทบาทหมายเลข 6 เหมือน ปาร์เตย์ แต่เน้นเกมรับมากกว่าเหมือนพวกตัวรับดั้งเดิม คอยตัดเกมหน้าแผงกองหลัง

ปาร์เตย์ เหนือกว่าแน่นอนในเรื่องการพาบอลขึ้นหน้าและมีส่วนร่วมกับเกมรุก แต่เรื่องเกมรับ นอร์การ์ด เชี่ยวชาญกว่า

นอร์การ์ด ไม่ต้องปรับตัวมากหากเทียบกับการดึงผู้เล่นนอกลีกมาร่วมทีม และมีครอบครัวอยู่ในลอนดอนอยู่แล้ว การใช้ชีวิตนอกสนามไร้ปัญหาเดินหน้าต่อได้เลยแม้ย้ายทีมใหม่

กองกลางวัย 31 ปี มีรูปร่างสูงใหญ่ เล่นลูกกลางอากาศได้ดี แถมผ่านการเล่นให้ เบรนท์ฟอร์ด ที่เชี่ยวชาญในลูกตั้งเตะไม่แพ้ อาร์เซน่อล ตรงนี้น่าจะช่วยเพิ่มความอันตรายให้ทีมของ อาร์เตต้า ได้มากขึ้น 

สไตล์การเล่นดุดัน หนักหน่วง ถึงลูกถึงคน และเคยจัดหนักแข้งนักเตะปืนใหญ่จนน่วมมาหลายคนแล้ว ถ้าร่างกายไม่แข็งแกร่งจริงจะไม่สามารถเล่นแนวฮาร์ดแมนได้เลย

นอกจากนี้ยังมีความเป็นผู้นำสูงเพราะรับหน้าที่กัปตันทีม เบรนท์ฟอร์ด และแม้เล่นหนัก แต่ควบคุมอารมณ์ได้ดี และได้ใบแดงเพียงครั้งเดียวตลอดการเล่น 6 ปีในอังกฤษ 

อีกเหตุผลที่ นอร์การ์ด ตอบโจทย์คือ ความเข้าใจในบทบาทกับ อาร์เซน่อล ที่แตกต่างจาก เบรนท์ฟอร์ด

นอร์การ์ด จะไม่ใช่ตัวเลือกแรกในตำแหน่งกองกลางหมายเลข 6 เพราะคนที่ถูกเอาไว้เป็นแกนหลักคนใหม่คือ มาร์ติน ซูบีเมนดี้ โดย นอร์การ์ด มีสถานะเป็น "อะไหล่" คล้ายกับ จอร์จินโญ่ ที่เพิ่งย้ายไป ฟลาเมงโก้

คริสเตียน นอร์การ์ด ว่าที่แข้งใหม่ปืนใหญ่

การที่ อาร์เซน่อล ปิดดีลนี้ดึงตัว นอร์การ์ด ได้รวดเร็วในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงหลังมีข่าวออกมา น่าจะบ่งบอกได้ว่า อาร์เตต้า ได้พูดคุยทำความเข้าใจกับว่าที่ลูกทีมคนใหม่เกี่ยวกับบทบาทและสถานะเรียบร้อยแล้ว

ซูบีเมนดี้ อาจต้องใช้เวลาปรับตัวในช่วงแรกหลังย้ายมาร่วมทีม นอร์การ์ด มีโอกาสได้ลุยก่อน และเมื่อทุกอย่างลงตัว บทบาทของ นอร์การ์ด ก็จะเป็นแบ็กอัพที่สามารถทดแทนและเพิ่มทางเลือกให้ทีมได้

ถ้าเจอคู่แข่งที่เน้นลูกกลางอากาศ เล่นหนักเล่นแรง นอร์การ์ด อาจถูกใช้งานก่อน แต่ถ้าเป็นเกมที่ต้องสู้กันถ้วยเทคนิค และวิธีการเล่น ก็ต้องเป็น ซูบีเมนดี้  

การเสียกองกลางประสบการณ์ไปพร้อมกันสองคนทั้ง จอร์จินโญ่ และ ปาร์เตย์ ถือว่าเสียหายสำหรับ อาร์เซน่อล แต่การดึง ซูบีเมนดี้ มาแทนก็เป็นแผนงานที่สโมสรเตรียมตัวเอาไว้นานแล้วตั้งแต่ซัมเมอร์ปีก่อนตอนเจรจาดึง มิเกล เมริโน่ มาร่วมทีม

ขณะที่การดึง คริสเตียน นอร์การ์ด เข้ามาก็เป็นภารกิจที่แม้ไม่อยู่ในแผนตอนแรก แต่ก็สามารถดำเนินการได้ทันที ที่สำคัญไม่กระทบต่อดีลอื่นอีกหลายดีลในซัมเมอร์นี้เพราะค่าตัวเพียง 11 ล้านยูโร 

ในมุมของแฟนบอล ย่อมเสียดายกับการจากไปของ ปาร์เตย์ แต่ มิเกล อาร์เตต้า รวมถึง อันเดรีย แบร์ต้า ผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่ก็พยายามหาทางออกให้ดีที่สุดแล้ว 

ในบางครั้งการตัดสินใจของสโมสรก็อาจไม่ได้ถูกใจแฟนบอลทุกคน แต่เป็นสิ่งจำเป็นต้องทำเพื่อให้ทีมเดินหน้าต่อไป 

คริสเตียน นอร์การ์ด อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีสุด แต่มีความสมเหตุสมผล และยืนอยู่บนความจริงในโลกของฟุตบอลที่ขับเคลื่อนด้วยเม็ดเงิน