บทบาทมือสองของ 'เกปา'

เกปา ในวัย 30 ปี กลายเป็นแข้งใหม่คนแรกของ อาร์เซน่อล ในซัมเมอร์นี้ และเป็นรายล่าสุดที่ย้ายมาจาก เชลซี
ดีลนี้ไม่ได้หวือหวาในแง่ค่าตัวเพียง 5 ล้านปอนด์ แต่เป็นการเซ็นสัญญาที่สำคัญมาก เพราะตำแหน่ง "ผู้รักษาประตูสำรอง" มีความซับซ้อนเฉพาะตัว และต้องเป็น "คนที่ใช่" เพื่อให้ทีมเกิดประโยชน์สูงสุด
การรับบทบาทผู้รักษาประตูตัวสำรองของทีมในระดับท็อป ไม่ใช่แค่เรื่องของฝีมือเพียงอย่างเดียว แต่ต้องใช้ความเข้าใจในทีมเวิร์ก มุ่งมั่นอดทน และจิตใจที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ
หากเลือกคนผิด หรือสื่อสารไม่เข้าใจ อาจทำลายทีมได้มากกว่าจะช่วยเสริม แต่หากเลือกได้ถูกต้อง ก็จะเป็นหนึ่งในการเซ็นสัญญาที่ดี
ประตูมือหนึ่งและมือสองมีความสัมพันธ์ที่ "แข่งขันกันแต่ก็ร่วมมือกัน" ผู้รักษาประตูตัวจริงต้องรักษามาตรฐานเอาไว้ แต่ไม่กดดันถึงขั้นเกิดความขัดแย้ง ส่วนผู้รักษาประตูสำรองเข้ามาช่วยยกระดับในการซ้อม ผลักดันมือหนึ่งในทุกวัน แต่ก็ยอมรับว่าหน้าที่หลักคือสนับสนุนจากข้างสนาม
ได้แชมป์มากมายกับ เชลซี และ เรอัล มาดริด
การบริหารจัดการสองบทบาทนี้ต้องให้มีความสมดุล การสื่อสารจากผู้จัการทีม โค้ชผู้รักษาประตู และผู้อำนวยการกีฬา ต้องเข้าใจตรงกันในทุกฝ่าย เพราะหากผู้เล่นมีภาพในหัวไม่ตรงกับบทบาทจริง ปัญหาจะตามมาแน่นอน
ในอดีต อาร์เซน่อล เคยมีประสบการณ์แบบนี้มาแล้วตอนดึง อารอน แรมส์เดล เข้ามาเป็นสำรองของ แบรนด์ เลโน่ ในปี 2011 แต่กลายเป็น แรมส์เดล เบียดขึ้นมาเป็นมือหนึ่งอย่างรวดเร็ว เลโน่ ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก และสุดท้ายต้องย้ายออกไป
เช่นเดียวกับการดึง เดวิด ราย่า เข้ามาในปี 2023 ทั้งที่มี แรมส์เดล เป็นมือหนึ่ง ในตอนนั้นไม่มีความชัดเจนในบทบาทของทั้งสองคน แม้ ราย่า จะยึดตำแหน่งมือหนึ่งได้ แต่ก็มีประเด็นด้วยความที่แฟนบอลหลายคนรู้สึกเห็นใจ แรมส์เดล
แต่ในดีลของ เกปา อาร์ริซาบาลาก้า มีความชัดเจนพอสมควรว่าเข้ามาเป็นมือสอง ไม่ได้ท้าชิงตำแหน่งมือหนึ่งโดยตรง แต่ก็พร้อมทำหน้าที่แทนหาก ราย่า มีข้อผิดพลาดหรือฟอร์มตก
เกปา มีคุณสมบัติหลายอย่างที่เหมาะสมกับบทบาทนี้
ปัจจุบัน นายทวารจากแคว้นบาสก์มีอายุ 30 ปี ถือว่าไม่ได้มากสำหรับตำแหน่งผู้รักษาประตู สามารถเล่นได้อีก 4-5 ปี ขณะที่สัญญากับ อาร์เซน่อล เซ็นกันไว้ 3 ปี เป็นระยะเวลาเหมาะสมไม่มากไม่น้อยเกินไป
เกปา มีฝืมือในระดับหนึ่งอยู่แล้ว ใช้เท้าเปิดบอลได้ดี สามารถขึ้นเกมจากแดนหลังเข้ากับสไตล์ของ อาร์เซน่อล แม้มีปัญหาอยู่บ้างในลูกกลางอากาศและการตัดสินใจในเขตโทษ แต่เทียบกับตำแหน่งมือสองในลีกก็ถือว่าไม่ได้ด้อยกว่าใคร
การมาร่วมทีม อาร์เซน่อล แทบไม่ต้องปรับตัวมากนัก เกปา มีบ้านพักอยู่ในลอนดอนอยู่แล้ว และจะได้ร่วมงานกับคนชาติเดียวกันเพียบทั้งกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า, เดวิด ราย่า, มิเกล เมรีโน่ และโค้ชผู้รักษาประตูอย่าง อินญากี้ คาญ่า รวมถึง มาร์ติน ซูบีเมนดี้ ที่กำลังเปิดตัวอีกราย
ช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา เกปา ผ่านประสบการณ์ในหลากหลายรูปแบบทั้งช่วงเวลาดีสุดคว้าแชมป์หลายรายการกับ เชลซี ช่วงที่ต้องรับมือกับวิจารณ์ทั้งตอนปฏิเสธการถูกเปลี่ยนตัวออก และฟอร์มการเล่นในสนาม ช่วงเวลาที่เป็นคนสำคัญและแค่สำรอง รวมถึงการถูกปล่อยตัวไปอยู่กับ เรอัล มาดริด และ บอร์นมัธ
บทบาทมือสองไม่ใช่เรื่องใหม่กับ เกปา เขารู้ดีว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไร รู้ว่าต้องรออย่างมีสติ และต้องพร้อมอยู่เสมอเมื่อโอกาสมาถึง
เกปา พร้อมเป็นแบ็กอัพให้ ราย่า
บีบีบี วิเคราะห์ถึงดีลนี้ว่า "แม้จะเคยมีเหตุการณ์ที่เป็นประเด็นในปี 2019 ที่เขาปฏิเสธการถูกเปลี่ยนตัวออกในนัดชิงคาราบาว คัพ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมือนตัวเขาปกติ แต่โดยรวมแล้ว ผู้รักษาประตูวัย 30 ปีรายนี้มีความเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริงในช่วงเวลาที่อยู่กับ เชลซี และ สามารถเป็นได้ทั้งมือหนึ่งหรือมือสองในระดับพรีเมียร์ลีกโดยไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆ ในทีม"
"เขาอาจไม่ใช่ผู้รักษาประตูระดับค่าตัวเป็นสถิติโลก แต่ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีมาโดยตลอด เกปา อาจกลายเป็นทรัพย์สินที่มีค่าสำหรับ อาร์เซนอล และน่าจะสร้างแรงกดดันให้กับ เดวิด ราย่า ในตำแหน่งผู้รักษาประตูตัวจริงได้อย่างแน่นอน"
อาร์เซน่อล ไม่ได้แชมป์ใดๆ มา 5 ปีติด แต่ก็เป็นทีมที่มีศักยภาพลุ้นแชมป์ และกำลังเดินหน้าเต็มตัวในตลาดนักเตะเพื่อเสริมทัพยกระดับทีม ตรงนี้จะช่วยให้นักเตะในทีมรวมถึง เกปา มีแรงกระตุ้นใหม่ๆ อีกครั้ง
อดีตนายทวาร แอธเลติก บิลเบา เคยแบกรับความกดดันในฐานะผู้รักษาประตูค่าตัวแพงที่สุดในโลก 71 ล้านปอนด์ตอนย้ายร่วมทีม เชลซี เมื่อปี 2018 แต่การย้ายล่าสุดนี้น่าจะทำให้ได้หลุดพ้นจากเงาค่าตัวมหาศาล
ในแง่ค่าตัว เกปา อาร์ริซาบาลาก้า ยังคงเป็นผู้รักษาประตูค่าตัวแพงที่สุดในโลกจนถึงทุกวันนี้ แต่ตอนนี้คุณค่าที่แท้จริงของเขาไม่ใช่เรื่องของความคาดหวังจะคุ้มทุนหรือไม่ แต่เป็นประสบการณ์ วุฒิภาวะ และความเป็นมืออาชีพพร้อมรับบทบาทที่สำคัญที่สุดอีกตำแหน่งในทีม