เจาะลึกปฏิบัติการคว้าตัว วิคตอร์ โยเคเรส

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ก่อนตลาดซื้อขายนักเตะในซัมเมอร์นี้จะเปิด มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล และ แอนเดรีย แบร์ต้า ผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่ มองว่าตำแหน่งหมายเลข 9 คือจิ๊กซอว์ที่สำคัญที่สุดของสโมสร

หลังการประชุมลับเรื่องซื้อขายนักเตะอย่างจริงจัง ในที่สุด อาร์เซน่อล ก็ตกลงกันได้ และเปิดเผยชื่อผู้เล่นที่เลือกแล้ว ซึ่งก็คือ วิคตอร์ โยเคเรส 

ท่ามกลางข่าวลือทั้งกับ เบนยามิน เชชโก้, โอลลี่ วัตกินส์ และกองหน้าคนอื่นๆ ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา แต่สุดท้าย อาร์เซน่อล ก็ได้ตัวกองหน้าคนใหม่ที่ต้องการ

โยเคเรส ย้ายมาจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ในโปรตุเกส ด้วยค่าตัว 63.5 ล้านยูโร พร้อมโบนัสตามผลงานอีก 10 ล้านยูโร โดยเซ็นสัญญา 5 ปี หรือจนถึงซัมเมอร์ 2030 

อาร์เซน่อล เชื่อมั่นว่าพวกเขาได้ผู้เล่นที่พร้อมสร้างความแตกต่างได้ทันที เป็นกองหน้าที่ตอบโจทย์ปัจจุบันเพื่อช่วยให้ทีมมีโอกาสลุ้นความสำเร็จในฤดูกาลใหม่นี้ 

เบื้องหลังในการปิดดีลคว้าตัว วิคตอร์ โยเคเรส มาร่วมทีมเป็นอย่างไร เราจะไปเจาะลึกให้เห็นถึงการเจรจาอันสุดเข้มข้น , บทบาทของ แอนเดรีย แบร์ต้า และเหตุผลที่ความสนใจใน เชสโก้ ลดลง


จากตัวเลือกหลายคนก่อนลงเอยที่ วิคเตอร์ โยเคเรส

 จากตัวเลือกรองสู่เป้าหมายหลัก

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งปีก่อน วิคตอร์ โยเคเรส แทบไม่อยู่ในลิสต์ของ อาร์เซน่อล เลย 

โยเคเรส ยิงประตูได้ถล่มทลายกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน และติดทีมชาติสวีเดนไปแล้ว 26 นัด แต่ในการประเมินของ เอดู (ผู้อำนวยการกีฬาคนก่อน) และทีมแมวมองของเขา โยเคเรส ถูกจัดอยู่ในตัวเลือกระดับรอง เป็นแค่ผู้เล่นเสริมที่อาจเข้าคู่กับ ไค ฮาแวร์ตซ์ ได้ แต่ยังไม่ใช่การอัปเกรดชัดเจน

เป้าหมายหลักในตอนนั้นคือ เบนยามิน เชชโก้ จาก แอร์เบ ไลป์ซิก ซึ่ง อาร์เซน่อล พยายามเจรจามาตั้งแต่ซัมเมอร์ 2024 และวางแผนจะเดินหน้าต่อในปีนี้

ในเดือนมีนาคม เจสัน ไอโต ผู้บริหารชั่วคราวหลัง เอดู ลาออก เตรียมเดินทางไปเยอรมนีเพื่อเจรจาเรื่อง เชชโก้ ทว่าไม่นานนัก อันเดรีย แบร์ต้า ก็เข้ารับตำแหน่ง และทุกอย่างเปลี่ยนไป

ทริปเยอรมันถูกยกเลิก และชื่อของ โยเคเรส ก็กลับมาเป็นประเด็นสำคัญทันที แบร์ต้า เป็นแฟนตัวยงของกองหน้ารายนี้มานาน และมองว่าเขาคือคนที่จะพาอาร์เซน่อลกลับมาคว้าแชมป์ได้

 ทำไมถึงเปลี่ยนเป้าหมายจาก เชชโก้

แม้ทีมงานของ เบนยามิน เชชโก้ จะมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับ เอดู และ ไอโต แต่เมื่อ แบร์ต้า มาถึง ความสัมพันธ์นั้นก็ไม่เหมือนเดิม


อันเดรีย แบร์ต้า ผลักดันดีลนี้เต็มที่

เอลวิส บาซาโนวิช เอเยนต์ของ เชชโก้ มีท่าทีระมัดระวัง และไม่ต้องการปิดโอกาสจากทีมอื่น จึงต่อรองกับ อาร์เซน่อล อย่างแข็งกร้าว ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริหารที่ลอนดอนเหนือ

อย่างไรก็ตาม การพูดคุยระหว่างสองฝ่ายยังคงมีอยู่ บาซาโนวิช ได้รับเชิญให้เข้าชมเกมเหย้านัดสุดท้ายของฤดูกาลที่ อาร์เซน่อล พบกับ นิวคาสเซิล

อาร์เซน่อล และ แบร์ต้า พิจารณาดีลของ เชชโก้ อย่างจริงจัง พูดคุยกับทั้งตัวแทนและ แอร์เบ ไลป์ซิก ซึ่งอยากให้การเจรจาจบลงโดยเร็ว เพื่อจะได้เริ่มสร้างทีมใหม่หลังจบเพียงอันดับ 7 ในบุนเดสลีกา ไม่ได้ตั๋วลุยถ้วยยุโรปฤดูกาลหน้า

เชชโก้ เป็นผู้เล่นอายุน้อยที่มีศักยภาพสูง และ อาร์เซน่อล ก็ติดตามเขามานาน ความเป็นไปได้ที่มูลค่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคตทำให้เจ้าของสโมสรสนใจ

แต่สุดท้าย ทุกอย่างกลับไม่คืบหน้า ค่าตัวที่ไลป์ซิกเรียก , ค่าเหนื่อยที่นักเตะร้องขอ และค่านายหน้า รวมกันแล้วมากเกินไปสำหรับผู้เล่นที่ยังถูกมองว่าเป็นอยู่ในช่วงพัฒนา มากกว่าคนที่จะสร้างอิมแพกต์ได้ทันที

แม้ฝั่งเยอรมันจะมองว่ายังสามารถต่อรองได้ แต่ อาร์เซน่อล ก็ไม่รู้สึกว่ามีความคืบหน้าจากฝั่งของ บาซาโนวิช และเมื่อพวกเขาหันมาให้ความสำคัญกับ โยเคเรส มากขึ้น ฝั่งของ เชชโก้ ก็เริ่มผ่อนปรนเงื่อนไขบ้าง แต่ก็ดูเหมือนจะสายไปแล้ว

ในขณะเดียวกัน โยเคเรส ก็กำลังกลายเป็นตัวเลือกที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจอย่างมากในสายตาผู้บริหารของ อาร์เซน่อล


โยเคเรส สร้างผลงานสุดยอดกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน

ด้วยวัย 27 ปี (เมื่อเดือนมิถุนายนผ่านมา) เขาคือผู้เล่นที่มีประสบการณ์และผ่านการพิสูจน์ฝีเท้าแล้ว เคยเล่นในอังกฤษมาแล้วด้วย โดยย้ายร่วมทีม ไบรท์ตัน ตั้งแต่อายุ 19 ปีในปี 2018 ก่อนจะถูกยืมตัวไป สวอนซี และ โคเวนทรี ซึ่งภายหลังเขาก็ย้ายไปร่วมทีม โคเวนทรี แบบถาวร

ในช่วงเวลาที่ อาร์เซน่อล กำลังมองหาจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายเพื่อเปลี่ยนจาก "ผู้ท้าชิง" ให้กลายเป็น "ผู้ชนะ" โยเคเรสดูเป็นนักเตะที่พร้อมสร้างผลงานได้ในทันที

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือ โยเคเรส เชื่อว่าเขามีข้อตกลงกับ สปอร์ติ้ง ที่เปิดทางให้เขาย้ายทีมได้ในช่วงซัมเมอร์นี้ด้วยค่าตัว 60 ล้านยูโร (ประมาณ 52 ล้านปอนด์) พร้อมโบนัสอีก 10 ล้านยูโร ซึ่งถือว่าต่ำกว่าค่าฉีกสัญญาเต็มจำนวนที่ตั้งไว้ที่ 100 ล้านยูโร มาก แบร์ต้า จึงเริ่มศึกษารายละเอียดของดีลนี้อย่างจริงจัง 

ในตอนนั้น อาร์เตต้า ยังไม่มั่นใจนัก แต่ตลอดกระบวนการไล่ล่ากองหน้าของ อาร์เซน่อล ความชอบส่วนตัวของ อาร์เตต้า เองก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด

เขาชื่นชม อเล็กซานเดอร์ อีซัค มาโดยตลอด แต่เมื่อ อีซัค ช่วยนิวคาสเซิลคว้าตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า อาร์เซน่อล ก็รู้สึกว่าดีลนี้น่าจะเกินกำลัง และแม้ว่าไม่กี่วันที่ผ่านมา ดาวยิงสาลิกาเริ่มส่งสัญญาณว่าอยากย้ายทีม แต่ทีมปืนใหญ่ได้เดินหน้าแผนอื่นไปเรียบร้อยแล้ว

ในเดือนมกราคม อาร์เตต้า เคยสนับสนุนการไล่ล่า โอลลี่ วัตกิ้นส์ อย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายสโมสรก็ไม่พร้อมจ่ายค่าตัว 60 ล้านปอนด์ ที่ แอสตัน วิลล่า ตั้งไว้


ดาวยิงคนใหม่ที่ อาร์เซน่อล ต้องการ

ช่วงต้นซัมเมอร์ อาร์เตต้า แสดงความชอบในตัว เบนยามิน เชชโก้ แม้จะมีข้อกังวลเกี่ยวกับความพร้อมของเจ้าตัวในการเล่นในพรีเมียร์ลีก เพราะเพิ่งอายุครบ 22 ปีเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม

สุดท้าย อาร์เตต้า ก็เห็นพ้องกับสโมสรว่าควรเลือกไปที่ โยเคเรส เมื่อพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ทั้งหมด ทั้งผู้จัดการทีมและสโมสรก็เห็นตรงกันว่านี่คือดีลที่เหมาะสมที่สุดสำหรับอาร์เซน่อลในตอนนี้

 เกมชั้นเชิงนอกสนาม

การมีชื่อของทั้ง เชชโก้ และ โยเคเรส อยู่ในข่าวนั้น เป็นสิ่งที่ อาร์เซน่อล จงใจปล่อยออกมาเพื่อใช้เป็น "อำนาจต่อรอง" ในการเจรจา พวกเขาเชื่อว่านักเตะทั้งสองรายต้องการย้ายร่วมทีม และในที่สุดก็จะได้หนึ่งในสองคนนี้เมื่อเงื่อนไขถูกต้อง

แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความเป็นไปได้ในการคว้าตัว เชชโก้ ก็ดูจะลดน้อยลง อาร์เซน่อล สังเกตว่าพวกเขาอาจเป็นสโมสรเดียวที่จริงจังกับเขา ในขณะที่ โยเคเรส มีคู่แข่งอื่นอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ไม่ใช่แค่สองคนนี้เท่านั้นที่ได้รับการพิจารณาในซัมเมอร์นี้ วัตกิ้นส์ ก็ถูกหยิบมาพูดถึงอีกครั้ง แต่ก็ยังติดเรื่องค่าตัว และอายุ (เขาจะอายุ 30 ในเดือนธันวาคม) ส่วน ฮูเลียน อัลวาเรซ กองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินาของ แอตเลติโก มาดริด ก็เป็นอีกคนที่ถูกพูดถึงเพราะ แบร์ต้า คุ้นเคยดีในช่วงทำงานกับตราหมี 

แต่สุดท้าย อาร์เซน่อล ก็เริ่มโฟกัสไปที่ โยเคเรส ไม่ใช่แค่เพราะเขายิงประตูได้ แต่ดีลนี้ก็มีโครงสร้างที่เรียบง่ายกว่า และราคายังถูกกว่าด้วย


สืบทอดหมายเลข 14 ในตำนาน

 จุดเปลี่ยนที่เมนอร์กา

กลางเดือนมิถุนายน แบร์ต้าบินไปยังเกาะ Menorca ของสเปนเพื่อเจรจากับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน โดยตรง ถือเป็นก้าวที่สำคัญ เพราะแม้จะเคยสนใจ เชชโก้ อย่างจริงจัง แต่ก็ไม่เคยมีการพบกันแบบตัวต่อตัวในระดับนี้

ปัญหาคือ สปอร์ติ้ง ดูเหมือนจะไม่ต้องการทำตามข้อตกลงที่อ้างว่ามีกับ โยเคเรส พวกเขายืนยันว่าต้องการค่าตัว 70 ล้านยูโร บวกโบนัสอีก 10 ล้านยูโร ซึ่งสูงกว่าที่ฝั่งนักเตะเชื่อว่าตกลงกันไว้

เมื่อเข้าสู่เดือนกรกฎาคม อาร์เตต้า เริ่มแสดงความกดดันให้ดีลนี้จบโดยเร็ว เพราะใกล้เข้าสู่ช่วงปรีซีซั่นแล้ว และทีมก็ต้องการกองหน้าคนใหม่ทันใช้ในช่วงเปิดฤดูกาลที่มีโปรแกรมหนักรออยู่

การตกลงเงื่อนไขส่วนตัวกับ โยเคเรส นั้นไม่ยากเลย ตลอดกระบวนการ เขาแสดงความชัดเจนว่าต้องการย้ายมา อาร์เซน่อล เท่านั้น ฮาซาน เชตินคายา ตัวแทนของเขาก็เจรจาง่ายและมีความเป็นมืออาชีพ ทำให้สโมสรประทับใจมาก

น่าสนใจตรงที่ว่า โยเคเรส ไม่เปิดรับข้อเสนอจากทีมอื่นเลย  เขามุ่งมั่นที่จะย้ายมา เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เท่านั้น

ตัวแทนของ โยเคเรส ยังเป็นผู้ที่รับหน้าที่เจรจาเกือบทั้งหมด โดยการติดต่อระหว่างสองสโมสรค่อนข้างจำกัด แต่ แบร์ต้า ก็มีทีมสนับสนุนอย่าง เจมส์ คิง ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการฟุตบอลของอาร์เซน่อล และ ทิม ลูอิส รองประธานสโมสร รวมถึงอาร์เตต้าที่มีบทบาทโดยตรงในดีลนี้

 ดีลยืดเยื้อถึงวันสุดท้าย

ต้นเดือนกรกฎาคม แบร์ต้า บินไปเจรจากับ สปอร์ติ้ง อีกครั้ง แต่กลับมาอังกฤษโดยยังไม่ได้ข้อตกลง โยเคเรส ก็ยังไม่ได้รายงานตัวซ้อมกับสโมสร และแจ้งไปยัง เฟเดริโก วารันดาส ประธานสโมสรว่าเขาจะไม่กลับไปฝึกซ้อมไม่ว่าในกรณีใด ๆ

โยเคเรส รู้สึกว่า วารันดาส ไม่ทำตามข้อตกลง เพราะข้อเสนอจาก อาร์เซน่อล เกินกว่าเงื่อนไขเดิมที่คุยกันแล้ว แต่ สปอร์ติ้ง กลับไม่ยอมรับ และแม้ว่าจะมีการขู่เรื่องการลงโทษจากฝั่งสโมสร แต่ อาร์เซน่อล ก็ยังเดินหน้าเต็มที่

สุดท้าย ทั้งสองฝ่ายก็ตกลงกันได้ที่ค่าตัว 63.5 ล้านยูโร บวกโบนัสอีก 10 ล้านยูโร อาร์เซน่อล ยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการ และเอเยนต์ก็ยอมสละค่าคอมมิชชัน 10% เพื่อให้ดีลเดินหน้า


6 ผู้เล่นใหม่ของ อาร์เซน่อล และอาจไม่จบแค่นี้

อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างยังไม่จบง่าย ๆ  อาร์เซน่อล กับ สปอร์ติ้ง ยังต้องเจรจาเรื่องโครงสร้างโบนัส เพราะ สปอร์ติ้ง อยากให้เป็นเงื่อนไขที่ทำได้ง่ายขึ้น ทำให้ดีลยืดออกไปอีกกว่าหนึ่งสัปดาห์ โดยที่นักเตะในทีมบินไปทัวร์เอเชีย 3 นัด แบร์ต้า ก็ยังอยู่ที่อังกฤษเพื่อปิดดีลนี้

ในช่วงสุดท้ายของการเจรจา โยเคเรส ได้รับความสนใจจาก แมนฯ ยูไนเต็ด แต่เขาก็ไม่เปลี่ยนใจ เขายืนยันว่าเขาเลือก อาร์เซน่อล เท่านั้น 

สุดท้าย วันที่ 25 กรกฎาคม ทั้งสองฝ่ายก็บรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้าย โดยโบนัส 5 ล้านยูโรจะจ่ายเมื่อถึงจำนวนการลงสนามที่กำหนด ส่วนอีก 5 ล้านยุโร ผูกกับจำนวนประตูและการช่วยให้ทีมคว้าตั๋วแชมเปี้ยนส์ ลีก

อาร์เซน่อล ได้กองหน้าคนใหม่ในที่สุด และ อาร์เตต้า ได้ตัวจบสกอร์ที่ต้องการ โยเคเรส มีผลงานสุดน่าทึ่ง 97 ประตู 28 แอสซิสต์จาก 102 นัดในสองฤดูกาลหลังสุด

เขาคือนักเตะที่ อาร์เซน่อล มองว่าเป็นกองหน้าที่ดุดัน กล้าเล่น มีสปีดสูง พาบอลไปได้ดี และเคลื่อนที่ได้หลากหลาย ที่สำคัญ บุคลิกที่จะรับมือกับแรงกดดันและสร้างความแตกต่างในเกมใหญ่

การที่เขาเลือกสวมเสื้อเบอร์ 14 ซึ่งเคยเป็นของ เธียร์รี่ อองรี ตำนานของสโมสร ก็สะท้อนถึงความมั่นใจเต็มเปี่ยม

แม้บางคนจะมองว่าเขาอาจไม่เข้าระบบเหมือน ไค ฮาแวร์ตซ์ แต่จริง ๆ แล้ว นั่นอาจไม่ใช่ประเด็น เพราะ อาร์เซน่อล ก็อาจต้องปรับแนวทางการเล่นให้เข้ากับจุดแข็งของ โยเคเรส เช่นกัน ทีมของ อาร์เตต้า อาจเปลี่ยนจากบอลครองเกม มาเล่นเร็ว และโจมตีทันทีมากขึ้น

และสำหรับ แบร์ต้า นี่ก็เป็นดีลที่สำคัญ เพราะแม้สโมสรจะมีฉันทามติร่วมกัน แต่ โยเคเรส ก็เป็นผู้เล่นที่แบร์ต้า "ผลักดัน" อย่างชัดเจน

หลังจากการเจรจาที่กินเวลาหลายสัปดาห์ การตัดสินใจอันกล้าหาญ และการสนับสนุนจากทุกฝ่ายในสโมสร ตอนนี้ถึงเวลาที่ "วิคตอร์ โยเคเรส" จะพิสูจน์ตัวเองในสนาม



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})