วัดผลงานแข้งสถิติสโมสรของบิ๊กทีม

ดาวเตะเลือดอินทรีเหล็กจะทำผลงานได้คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปหรือไม่ ก็คงเร็วไปที่จะให้คำตอบได้ แต่ที่ประเมินได้คือ เจ้าของสถิติค่าตัวแพงสุดของหลายทีมใหญ่ที่ผ่านการลงสนามไปแล้วอย่างน้อยหนึ่งฤดูกาล ซึ่งรวมถึง ดาร์วิน นูนเญซ เจ้าของสถิติคนก่อนของหงส์แดง

คนอื่นมีใครกันบ้าง และผลงานออกมา "ปัง" หรือ "แป๊ก" ไปไล่ดูกันได้เลย

อาร์เซน่อล : เดแคลน ไรซ์ 

ตำแหน่ง : กองกลาง

ค่าตัว : 100 ล้านปอนด์ บวกโบนัส 5 ล้านปอนด์  

วันเซ็นสัญญา : กรกฎาคม 2023

โชคดีที่ผลงานของ เดแคลน ไรซ์ ดีกว่าการเซ็นสัญญาสถิติสโมสรคนก่อนอย่าง นิโกล่าส์ เปเป้ อย่างชัดเจน โดย เปเป้ ซึ่งเล่นในตำแหน่งปีกย้ายร่วมทีม อาร์เซน่อล ในช่วงซัมเมอร์ปี 2019 ด้วยค่าตัวถึง 72 ล้านปอนด์

ไรซ์ ย้ายมาจาก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทีมร่วมกรุงลอนดอน และกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมปืนใหญ่ตลอดสองฤดูกาลที่ผ่านมา ทั้งการยกระดับผลงานของทีมโดยรวม และการพัฒนาตัวเอง 

ในสองฤดูกาลกับอาร์เซน่อล ไรซ์ ทำสถิติส่วนตัวมีส่วนร่วมกับประตู (ทั้งยิงและแอสซิสต์) ได้ดีสุดในอาชีพที่จำนวน  19 ประตูในฤดูกาลล่าสุด และ 16 ประตูในฤดูกาลแรก 

เขาเริ่มต้นในฐานะมิดฟิลด์ตัวคุมเกมที่แข็งแกร่ง และพัฒนาการเล่นเกมรุกจนกลายเป็นอีกหนึ่งอาวุธอันตรายของทีม

ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของอิทธิพลที่เขามีต่อเกมคือในรอบก่อนรองชนะเลิศของยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ที่พบกับแชมป์เก่า เรอัล มาดริด ในเดือนเมษายน ไรซ์ ยิงฟรีคิกสุดสวยสองลูกในนัดแรกที่เอมิเรตส์ สเตเดียม และยังมีบทบาทสำคัญพาทีมชนะในเกมที่สองที่ซานติอาโก เบร์นาเบวอีกด้วย

มันอาจฟังดูแปลกที่การเซ็นสัญญามูลค่า 100 ล้านปอนด์จะถูกมองว่า "เกินความคาดหวัง" แต่แฟน ๆ อาร์เซน่อลมักจะร้องเพลงเชียร์กันว่า "เหมือนได้เขามาครึ่งราคา" และอยากโอนเงินเพิ่มให้กับ เวสต์แฮม ด้วยซ้ำ

สรุป:  คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม

เชลซี : มอยเสส ไกเซโด้ 

ตำแหน่ง : กองกลาง 

ค่าตัว : 100 ล้านปอนด์ บวกโบนัสอีก 15 ล้านปอนด์  

วันเซ็นสัญญา : สิงหาคม 2023

แม้จะเป็นการซื้อที่แพงที่สุดในบรรดาดีลทั้งหมดที่ เชลซี ซื้อขายกับ ไบรท์ตัน ตั้งแต่ปี 2022 แต่ก็ถือเป็นดีลที่คุ้มค่าที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

มอยเสส ไกเซโด้ เคยมีช่วงเวลาที่ยากลำบากจากความกดดันมหาศาลในฐานะนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในพรีเมียร์ลีกในตอนแรกที่ย้ายมา แต่ตอนนี้เขากลายเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ระดับแถวหน้าของลีกสูงสุดอังกฤษไปเรียบร้อย

คำชมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่สามารถมอบให้ดาวเตะทีมชาติเอกวาดอร์วัย 23 ปีคนนี้ คือการที่เขามีศักยภาพพอจะเดินตามรอยนักเตะในตำนานอย่าง โคล้ด มาเกเลเล่ และ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ซึ่งต่างก็เคยทำผลงานโดดเด่นในตำแหน่งเดียวกัน

แต่ถ้าเขาอยากจะถูกยกให้เป็นหนึ่งในระดับเดียวกับ มาเกเลเล่ และ ก็องเต้ เขาต้องพา เชลซี กลับมาคว้าแชมป์รายการใหญ่ให้ได้ เหมือนที่สองตำนานรุ่นพี่เคยทำไว้ ซึ่งด้วยระยะเวลาที่เหลือในสัญญาถึง 6 ปี เขายังมีเวลามากพอจะพิสูจน์ตัวเอง

แม้ฟอร์มของ ไกเซโด้ อาจไม่ได้รับคำชื่นชมจากวงกว้างนอกสโมสรเชลซีมากนัก แต่เฮดโค้ช เอนโซ่ มาเรสก้า ไม่มีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับความสามารถของนักเตะรายนี้ โดยเขาเคยกล่าวไว้ในเดือนเมษายนว่า:

"เขาคือหนึ่งในมิดฟิลด์ตัวรับที่ดีที่สุดในโลก หรืออาจจะดีที่สุดเลยก็ได้"

สรุป: สมราคา 

ลิเวอร์พูล : ดาร์วิน นูนเญซ 

ตำแหน่ง : กองหน้า 

ค่าตัว : 64 ล้านปอนด์ บวกโบนัส 21 ล้านปอนด์ 

วันเซ็นสัญญา : มิถุนายน 2022

การที่ ลิเวอร์พูล คว้าตัว โฟลเรียน เวียร์ตซ์ มาร่วมทีมเป็นสถิติใหม่ เป็นสัญญาณชัดเจนว่าเวลาของ ดาร์วิน นูนเญซ ในฐานะผู้เล่นค่าตัวแพงที่สุดของทีมได้สิ้นสุดลง พร้อมๆ กับอนาคตของเขาในถิ่นแอนฟิลด์ที่ก็ดูจะใกล้จบลงเช่นกัน

ตอนที่เขาย้ายมาจาก เบนฟิก้า ด้วยค่าตัวสูงสุดถึง 85 ล้านปอนด์ (รวมโบนัส) แฟนๆ ต่างคาดหวังว่าเขาจะเป็นกองหน้าหมายเลข 9 คนใหม่ของสโมสร แต่ฟอร์มการเล่นที่ทั้งวูบวาบและไม่แน่นอนของเขา ทำให้มีความเป็นไปได้น้อยมากที่ทีมดังของโปรตุเกสจะได้รับค่าโบนัสตามเงื่อนไขครบ แม้เขาจะอยู่ต่อก็ตาม

ตลอด 3 ปีในสีเสื้อหงส์แดง ดาวยิงทีมชาติอุรุกวัยยิงได้ 40 ประตู และทำอีก 23 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 143 นัด มีผลงานเด่นเช่น ยิงสองประตูช่วงท้ายเกมในเกมที่ ลิเวอร์พูล บุกชนะ เบรนท์ฟอร์ด 2-0 เมื่อเดือนมกราคม ซึ่งถูกมองว่าเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญของฤดูกาลที่พวกเขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก

ผลงานโดยรวมขึ้นๆ ลงๆ  และแม้ว่าในบางช่วง ดาวยิงวัย 26 ปีดูเหมือนจะเริ่มปรับตัวได้ แต่สุดท้ายก็มักจบลงด้วยความผิดหวัง เขามีคุณสมบัติครบถ้วนของกองหน้าระดับท็อป แต่กลับไม่สามารถรวมทุกอย่างให้เป็นรูปเป็นร่างได้ และมักจะพลาดโอกาสสำคัญหน้าประตูอยู่บ่อยครั้ง 

สรุป: ไม่ปังอย่างที่ควร

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : แจ็ค กรีลิช 

ตำแหน่ง : ตัวรุกริมเส้น

ค่าตัว : 100 ล้านปอนด์ 

วันเซ็นสัญญา : สิงหาคม 2021  

แจ็ค กรีลิช เคยเป็นซูเปอร์สตาร์ของ แอสตัน วิลล่า สโมสรในวัยเด็ก ก่อนที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะทำลายสถิติค่าตัวผู้เล่นอังกฤษเพื่อดึงตัวเขามาร่วมทีมเมื่อ 4 ปีก่อน

กรีลิช "ประสบความสำเร็จ" หรือ "ล้มเหลว" กับ แมนฯ ซิตี้ ขึ้นอยู่กับมุมมอง เขาลงเล่นให้ซิตี้ไปแล้วกว่า 150 นัด และมีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์รายการใหญ่ถึง 5 รายการ แต่ไม่ได้ลากเลื้อยได้อันตรายเหมือนที่เคยทำไว้กับวิลล่าอีกต่อไป

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้ปรับบทบาทของเขาให้กลายเป็นผู้เล่นที่ต่างออกไปกับตำแหน่งปีกซ้ายที่เน้นการครองบอลและเล่นประสานกับเพื่อนร่วมทีมในพื้นที่แคบ แม้จะดูไม่หวือหวาเท่าเดิม แต่ในฤดูกาลที่ดีที่สุดของเขากับทัพเรือใบ (2022/23) เขาก็เป็นหนึ่งในคีย์แมนที่ช่วยทีมคว้าทริปเปิลแชมป์มาครอง

อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาล 2024/25 เขาได้ลงตัวจริงเพียง 16 นัด โดยมีแค่ 7 นัดในพรีเมียร์ลีก และล่าสุดเขาถูกตัดชื่อออกจากทีม 27 คนของ เป๊ป สำหรับการแข่งขันฟุตบอลสโมสรโลก ซึ่งยิ่งตอกย้ำว่าอนาคตของเขากับทีมดูจะไม่แน่นอนนัก

สรุป: ได้แชมป์แต่ไม่สุด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ปอล ป็อกบา 

ตำแหน่ง : กองกลาง 

ค่าตัว : 89.3 ล้านปอนด์ 

วันเซ็นสัญญา : สิงหาคม 2016

ปอล ป็อกบา ย้ายกลับมาร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกรอบ หลังจากย้ายออกไปอยู่ ยูเวนตุส ด้วยค่าตัวสุดถูกเมื่อ 4 ปีก่อน โดยการกลับรังปีศาจแดงครั้งนี้เป็นการย้ายทีมที่ทำลายสถิติโลกในเวลานั้น และเปิดตัวด้วยวิดีโอสุดอลังการที่มี 'Stormzy' แร็ปเปอร์ชื่อดังร่วมแสดง นี่คือดีลที่ "ควรจะเวิร์ก"

แต่สุดท้าย...มันก็ไม่เวิร์ก

ตลอดหกฤดูกาลที่ ป็อกบา อยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เขามักมีข่าวเชื่อมโยงกับ เรอัล มาดริด ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเป้าหมายในฝันมาตลอด แม้เขาจะช่วยทีมคว้าแชมป์ลีกคัพ และยูโรปา ลีก รวมถึงพาทีมเข้าชิงชนะเลิศอีกสองรายการ แต่ก็มีเสียงวิจารณ์เรื่องความสม่ำเสมอและบทบาทเกมรับที่ไม่น่าประทับใจ

รอย คีน อดีตกัปตันทีมผีแดงเคยวิจารณ์ว่า "ป็อกบา มีปัญหาด้านทัศนคติ" ขณะที่ ปาทริค วิเอร่า มิดฟิลด์รุ่นพี่ร่วมชาติฝรั่งเศส มองว่าระบบแท็กติกของยูไนเต็ดในยุคนั้นทำให้เจ้าตัวไม่สามารถโชว์ฟอร์มเหมือนในทีมชาติได้

ท้ายที่สุด ป็อกบา ย้ายออกจากทีมแบบไม่มีค่าตัวหลังหมดสัญญาในช่วงซัมเมอร์ปี 2022 และกลับไปเล่นให้ ยูเวนตุส อีกครั้ง

สรุป: ไม่เวิร์ก

นิวคาสเซิ่ล : อเล็กซานเดอร์ อีซัค  

ตำแหน่ง : กองหน้า 

ค่าตัว : 63 ล้านปอนด์  

วันเซ็นสัญญา : สิงหาคม 2022

อีซัค คือการเสี่ยงที่ นิวคาสเซิ่ล คำนวณมาอย่างรอบคอบเมื่อต้องหาดาวยิงรายใหม่มาทดแทน คัลลั่ม วิลสัน ที่มีปัญหาบาดเจ็บรบกวน และพวกเขาตัดสินใจเซ็นสัญญานักเตะที่ทุกสโมสรใหญ่รู้จักดี แต่ยังไม่มั่นใจเต็มที่

ดาวยิงทีมชาติสวีเดนรายนี้ทำผลงานได้ดีที่ เรอัล โซเซียดาด ในสเปน แต่ชื่อเสียงของเขาคือพรสวรรค์สูงส่งที่มาพร้อมกับความใจร้อนและขาดความแน่นอน

ผ่านมาสามปี อีซัค กลายเป็นผู้เล่น นิวคาสเซิ่ล คนแรกที่ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 20 ประตูขึ้นไปในสองฤดูกาลติดต่อกัน เขาคือนักเตะที่สโมสรใหญ่ทุกทีมต่างจับตามองอย่างใกล้ชิด และการเสี่ยงครั้งนี้ก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

"เขามีพลังวิเศษในเท้า เป็นกองหน้าที่เคลื่อนไหวอย่างลื่นไหลมากกว่าจะวิ่ง และสถานะของเขาในฐานะไอคอนแห่งไทน์ไซด์นั้นมั่นคงแน่นแฟ้น" 

นี่คือคำกล่าวของ อลัน เชียเรอร์ ตำนานกองหน้าสาลิกาดงผู้ซึ่งรู้เรื่องการยิงประตูเป็นอย่างดี 

สรุป: ประสบความสำเร็จ

สเปอร์ส : โดมินิค โซลันกี้ 

ตำแหน่ง : กองหน้า

ค่าตัว : 65 ล้านปอนด์  

วันเซ็นสัญญา : สิงหาคม 2024

ถ้าวัดจากจำนวนประตูเพียงอย่างเดียว อาจมีคนบอกว่า โดมินิค โซลันกี้ ทำผลงานต่ำกว่าที่คาดไว้ในฤดูกาลแรกกับ สเปอร์ส แต่ในภาพรวมแล้วเขามีดีกว่านั้น 

หัวหอกทีมชาติทีมชาติอังกฤษยิงได้แค่ 16 ประตู จากการลงเล่น 45 นัดหลังย้ายมาจาก บอร์นมัธ เมื่อซัมเมอร์ปีที่แล้ว ผลกระทบที่เขามีต่อทีมลึกกว่านั้นมาก

โซลันกี้ มักจะยิงประตูได้ในเกมใหญ่ ๆ รวมถึงในเกมเลกที่สองของรอบรองชนะเลิศและรอบก่อนรองชนะเลิศยูโรปาลีก ลีก และยังเป็นคนแอสซิสต์ให้ ลูคัส เบิร์กวัลล์ ทำประตูชัยในเกมแรกของรอบตัดเชือกคาราบาวคัพที่ชนะ ลิเวอร์พูล 

โซลันกี้ ย้ายมาที่สเปอร์สเพื่อคว้าแชมป์ และเขาก็ทำได้สำเร็จด้วยการเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในรอบชิงชนะเลิศยูโรปา ลีก 

ดาวเตะวัย 27 ปีคนนี้เป็นที่รักของแฟนบอล เขาทุ่มเทเต็มที่ในทุกเกม และคาดว่าจะพัฒนาฝีเท้าขึ้นเรื่อยๆ ภายใต้การคุมทีมของ โธมัส แฟรงค์ เฮดโค้ชคนใหม่

สรุป: ได้อยู่