เส้นทางอาชีพของเขาไม่ธรรมดา ผ่านการยิงกระจายให้ทั้ง โคเวนทรี ซิตี้ และ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา แต่ยังมีอีกหลายเรื่องที่แฟนบอลอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับกองหน้าหมายเลข 14 คนใหม่ของเรา
1. จุดเริ่มต้นอันแสนเรียบง่าย
โยเคเรส เกิดที่สต็อกโฮล์ม เริ่มเล่นฟุตบอลตอนอายุ 6 ขวบ หลังพ่อแม่กล่อมให้ไปซ้อมกับ อัสพุดเดน-เทลลุส (Aspudden-Tellus) เขาไม่ได้เริ่มต้นเส้นทางในสนามหญ้าหรูหราเหมือนทุกวันนี้ แต่เป็นพื้นกรวดและทราย ต้องใส่กางเกงขายาวเพื่อไม่ให้หัวเข่าแตกกันเลยทีเดียว!
2. ตามรอยรุ่นพี่ในตำนาน
หลังอยู่กับสโมสรแรกเกือบสิบปี โยเคเรส ย้ายไป บรอมมาโพยการ์นา (Brommapojkarna) สโมสรเล็กในสต็อกโฮล์มที่ขึ้นชื่อเรื่องปั้นเยาวชน โดยเคยปั้นตำนานอย่าง อันเดอร์ส ลิมพาร์ อดีตแข้ง อาร์เซน่อล ชุดแชมป์ลีกปี 1990/91 และยังเป็นต้นสังกัดเก่าของ เดยัน คูลูเซฟสกี้ และ ลูคัส เบิร์กวาลล์ สองแข้งไก่เดือยทองในปัจจุบัน
3. เริ่มฉายแวว
หลังจากซัดไป 16 ประตูจาก 17 นัดให้ทีมเยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี โยเคเรส ได้ประเดิมสนามชุดใหญ่ในวัยเพียง 16 ปี ก่อนซัดประตูแรกของอาชีพในเกมพบ ไอเอฟ ซิลเวีย เมื่อเดือนสิงหาคม 2015
แม้ปีนั้น บรอมมาโพยการ์นา ต้องตกชั้นลงสู่ดิวิชั่น 1 (เทียบได้กับลีกระดับ 3 ของประเทศ) แต่เขายิงไปทั้งหมด 7 ประตูในปีถัดมา พาทีมกลับคืนลีกรองภายในฤดูกาลเดียว
4. สั่งลาบ้านเกิดแบบฮีโร่
ฟอร์มร้อนแรงของ เยอเคเรส ไปเข้าตา ไบรท์ตัน ทีมพรีเมียร์ลีก ที่ดึงไปร่วมทีมแบบสัญญา 2 ปีครึ่ง แต่ก่อนจะอำลาบ้านเกิดสวีเดน เขาจัดแฮตทริกนัดสุดท้ายใส่ เกเฟล พาทีมเลื่อนชั้นสองปีติดต่อกัน และได้หวนคืนสูงสุดอีกครั้งหลังรอคอยมานาน
5. ร่วมงานคนคุ้นเคย
โยเคเรส อาจเพิ่งย้ายร่วมทีม อาร์เซน่อล แต่เขาไม่ได้คนแหลกหน้ากับนักเตะบางคน เขาเคยเล่นกับ เบน ไวท์ ในทีม ไบรท์ตัน เช่นเดียวกับ เลอันโดร ทรอสซาร์ โดยทั้งสามลงเล่นร่วมกันครั้งสุดท้ายในบอลถ้วยลีก คัพ พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2020/21
6. เคยลงเล่นในเอมิเรตส์มาแล้ว
ดาวยิงเจ้าของเสื้อหมายเลข 14 คนใหม่ เคยลงสนามให้ ไบรท์ตัน ดวล อาร์เซน่อล ที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม มาแล้วในเกมยู-23 เกมนั้นปืนใหญ่นำก่อนจากการลากของ บูคาโย่ ซาก้า ก่อนที่ไบรท์ตัน จะตีเสมอจาก อารอน คอนเนลลี่ ในนาที 93
7. มีเชื้อสายฮังการี
แม้จะเป็นทีมชาติสวีเดนในปัจจุบัน แต่ โยเคเรส สามารถเลือกเล่นให้ทีมชาติฮังการีได้จากฝั่งคุณปู่ที่ย้ายมาสวีเดนปี 1956
8. เดบิวต์ที่ไหน ยิงที่นั่น!
โยเคเรส เปิดตัวกับ สปอร์ติ้ง ด้วยการยิงเบิ้ลใส่ วิเซล่า ส่วนการเล่นในถ้วยยุโรปนัดแรกก็ยิงใส่ สตวร์ม กราซ แถมยังซัดแฮตทริกในนัดแรกของบอลถ้วยโปรตุเกสและลีกคัพอีกด้วย
นัดแรกอย่างเป็นทางการของ เยอเคเรส กับ อาร์เซน่อล คือนัดเปิดสนามพรีเมียร์ลีกที่มีคิวไปเยือนทีมใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งมีเจ้านายเก่า รูเบน อาโมริม คุมทัพอยู่ด้วย เขาจะรักษาสถิติประเดิมสนามพร้อมยิงประตูต่อไปได้หรือไม่
9. ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น
สเตฟาน โยเคเรส คุณพ่อของเขาเคยเป็นนักเตะเช่นกัน โดยเล่นให้ ไดเอฟเค ออสเตอร์ซุนด์ และ สตูกุน ก่อนจะผันตัวมาเป็นโค้ชให้ลูกชายที่ อัสพุดเดน-เทลลุส
10. ถ้วยรางวัลเพียบ
นอกจากแชมป์ลีก 3 สมัย และบอลถ้วยในประเทศ โยเคเรส ยังคว้ารางวัลส่วนตัวเพียบในช่วงที่ค้าแข้งในโปรตุเกสกับ สปอร์ติ้ง
ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนในโปรตุเกส 7 ครั้ง
กองหน้ายอดเยี่ยมประจำเดือน 8 ครั้ง
ดาวซัลโวลีก 2 ปีติด
ติดทีมยอดเยี่ยม 2 ปีติด
นักเตะยอดเยี่ยมประจำปี 2023/24
ย้อนไปในช่วงที่เล่นให้ โคเวนทรี ก็ติดทีมยอดเยี่ยมของลีกแชมเปี้ยนชิพในฤดูกาล 2022/23 เช่นกัน
11. ท่าดีใจสุดไอคอนิค
สิ่งหนึ่งที่แฟนบอลทั่วยุโรปเริ่มคุ้นตาในช่วงไม่กี่ฤดูกาลหลัง ก็คือ ท่าดีใจสุดไอคอนิคของ โยเคเรส ที่หลายคนรู้จักในชื่อ "Mash Celebration" ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก "Bane" วายร้ายตัวแกร่งจากจักรวาล DC Comics
แต่เบื้องหลังท่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะหนังหรือคอมิกส์อย่างเดียว เพราะเจ้าตัวได้เล่าให้เราฟังในบทสัมภาษณ์เปิดตัวว่า "ก่อนจะมีท่านี้ เพื่อนผมชอบบ่นตลอดเลยว่าให้หา 'ท่าดีใจเป็นของตัวเอง' ได้แล้ว เพราะพวกเขาเบื่อมากกับที่ผมเปลี่ยนท่าทุกครั้งที่ยิงได้"
"ผมคิดว่าช่วงนั้นน่าจะเป็นตอนพักเบรกบอลโลก 2022 พอดี ซึ่งผมก็มีเวลาว่างอยู่บ้าง เลยไปเที่ยวกับเพื่อนๆ แล้วระหว่างทางก็คุยกันเรื่องนี้แหละ สุดท้ายก็นั่งคิดกันไปเรื่อยๆ จนได้ท่านี้ออกมา"
"พวกเราคิดว่ามันเท่ดี ผมเลยเริ่มใช้ทันที แล้วพอได้ทำจริงในสนาม มันยิ่งรู้สึกดีเข้าไปใหญ่!"
12. หล่อเท่จนได้ขึ้นปก
นอกจากยิงประตูได้ โยเคเรส ยังได้ขึ้นปก Vogue Scandinavia เดือนมิถุนายน 2025 อีกด้วย! ในบทสัมภาษณ์ยังพูดถึงการออกกำลังกายประจำวัน และของที่ขาดไม่ได้คือ การดื่ม "ขิงช็อต" ที่มักดื่มเพื่อบูสพลังหรือเสริมภูมิคุ้มกัน
13. เบอร์ 14 คนใหม่
หลังเบอร์นี้ว่างเว้นไปหนึ่งฤดูกาล ตอนนี้เรามีเจ้าของใหม่แล้ว เบอร์ 14 ที่เคยเป็นของตำนานอย่าง เธียร์รี อองรี, ธีโอ วัลค็อตต์, ปิแอร์-เอเมอเริค โอบาเมย็อง และ มาร์ติน คีโอว์น
14. ดาวยิงเบอร์หนึ่งของโลก
โยเคเรส ฟอร์มแรงไม่หยุดซัดไป 62 ประตู ในปีปฏิทินเดียวให้ทั้งสโมสรและทีมชาติ พาเขาคว้ารางวัล IFFHS World's Best Top Goal Scorer หรือ ดาวยิงเบอร์หนึ่งของโลก จากสหพันธ์ประวัติศาสตร์และสถิติลูกหนังนานาชาติ (IFFHS)
เขาทำไปถึง 62 ประตู ตลอดปีปฏิทินให้ทั้งสโมสรและทีมชาติ กลายเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2021 ที่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยิงได้ 69 ลูกให้ บาเยิร์น และทีมชาติโปแลนด์
นอกจากนี้ เยอเคเรส ยังครองตำแหน่ง ดาวซัลโว ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2024/25 ด้วยจำนวน 9 ประตูให้กับทีมชาติสวีเดนอีกด้วย
***
