ฟิตพร้อมลุยแค่ไหนหลังภารกิจทีมชาติ

อาร์เซน่อล คือหนึ่งในทีมที่ปล่อยนักเตะไปเล่นทีมชาติเยอะมาก รวมแล้วไม่ต่ำกว่าสิบราย
ผลงานแต่ละคนเป็นอย่างไรกันบ้าง และความฟิตความพร้อมมีมากแค่นไหนในการกลับมาเล่นให้สโมสร วันนี้เราจะไปวิเคราะห์กันอย่างละเอียด
ผู้รักษาประตู
ดาบิด ราย่า มีชื่อติดทีมชาติสเปน แต่เป็นสำรองตลอด 2 นัดในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ดังนั้นไร้ปัญหาในการกลับมาเฝ้าเสาให้ อาร์เซน่อล ส่วน เกปา อาร์ริซาบาลาก้า ไม่มีชื่อไปเล่นทีมชาติ
กองหลัง
ข่าวร้ายก่อนเบรกทีมชาติคือ วิลเลียม ซาลีบา บาดเจ็บจากเกมกับ ลิเวอร์พูล คาดว่าต้องพักราว 3-4 สัปดาห์ คริสเตียน มอสเกร่า เซนเตอร์ดาวรุ่งคนใหม่น่าจะได้ทำหน้าที่แทน หลังทำผลงานให้เห็นแล้วในแมตช์ที่แอนฟิลด์
มอสเกร่า ไปเล่นให้ทีมชาติสเปนชุดเล็ก และเป็นกัปตันทีมด้วยในคัดยูโร ยู-21 ที่ทัพกระทิงหนุ่มเปิดบ้านชนะ ไซปรัส 3-0 ก่อนได้พักในเกมพบ โคโซโว เพื่อหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บ เนื่องจากอาจต้องลงสนามต่อเนื่องระดับสโมสรระหว่างรอ ซาลีบา หายเจ็บกลับมา
อินกาปิเอ้ (ขวา) พาเอกวาดอร์ปิดท้ายรอบคัดเลือกได้สวยงาม
พี่ใหญ่ กาเบรียล บินไปเล่นให้ทีมชาติบราซิลในคัดบอลโลกซึ่งทัพแซมบ้าคว้าตั๋วลุยรอบสุดท้ายไปก่อนหน้านี้แล้ว จึงได้ลงสนามนัดเดียวเล่นครบ 90 นาทีพาทีมชนะ ชิลี 3-0 และได้พักเป็นสำรองไม่ถูกเปลี่ยนลงเล่นในเกมเยือน โบลิเวีย
มอสเกร่า กับ กาเบรียล ไม่ได้ถูกใช้งานหนักในทีมชาติ และพร้อมจับคู่กันตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กให้ อาร์เซน่อล และถ้าจะมีห่วงเล็กน้อยก็เป็น กาเบรียล จากการเดินทางไกลที่อาจมีเหนื่อยล้าบ้าง
ส่วนตัวใหม่ ปิเอโร่ อินกาปีเอ้ เพิ่งย้ายมาจาก เลเวอร์คูเซ่น และบินต่อทันทีไปช่วยทีมชาติเอกวาดอร์ในคัดบอลโลก โซนอเมริกาใต้
เอกวาดอร์ ได้ตั๋วเข้ารอบสุดท้ายไปก่อนหน้านี้แล้วเช่นกัน แต่ อินกาปีเอ้ ก็ยังได้ลงเล่นเต็ม 180 นาทีใน 2 นัดที่บุกเสมอ ปารากวัย 0-0 และเปิดบ้านเฉือนชนะ อาร์เจนตินา 1-0
เกมโค่นฟ้าขาวเมื่อเช้าวันพุธที่ผ่านมาค่อนข้างหนักเอาเรื่อง มีจังหวะทำฟาวล์ เข้าปะทะตุ๊บตั๊บกันตลอดทั้งเกมก่อนจบด้วยใบแดงฝั่งละใบ แต่ไม่มีรายงานว่าแนวรับคนใหม่ของ อาร์เซน่อล ได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ซึ่งดูจากที่เดินขอบคุณแฟนบอลหลังจบเกมก็ยังคงไม่น่ามีปัญหาใด ๆ
อินกาปีเอ้ จะเริ่มที่สำรองไปก่อนในเกมพบ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เพราะนอกจากเดินทางกลับถึงสโมสรช้ากว่าเพื่อนร่วมทีมหลายคนแล้ว เขาก็ยังไม่ได้ซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมใหม่เลย แถมโปรแกรมหลังเบรกทีมชาติ อาร์เซน่อล จะลงสนามเร็วเป็นคู่แรกของวันเสาร์ในเวลา 12.30 น. ตามเวลาอังกฤษ
คาลาฟิออรี่ ลงสนามให้ทีมชาติอิตาลี
ส่วนกลุ่มผู้เล่นฟูลแบ็กมี เจอร์เรียน ทิมเบอร์ ของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ , ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ ทีมชาติอิตาลี และ ไมลส์ ลูอิส-สเกลลี่ ทีมชาติอังกฤษ ในเกมคัดบอลโลกทั้งหมด
ทิมเบอร์ เป็นสำรองตลอดสองนัด ถูกเปลี่ยนลงเล่นเพียง 28 นาทีเกมที่ทัพกังหันบุกชนะ ลิทัวเนีย 3-2 สภาพร่างกายตอนกลับสโมสรจึงดีเยี่ยม และจะยึดตัวจริงต่อไปแม้มีข่าวว่า เบน ไวท์ อาจหายเจ็บกลับมาในสุดสัปดาห์นี้
คาลาฟิออรี่ เจ้าของรางวัลแข้งยอดเยี่ยม อาร์เซน่อล ประจำเดือนสิงหาคม เล่นเต็ม 90 นาที ทำผลงานใช้ได้ในเกม อิตาลี รัวชนะ อาร์เมเนีย 5-0 ก่อนสลับเป็นสำรองและไม่ถูกเปลี่ยนลงในแมตช์สุดระทึกอัซซูรี่เฉือนชนะ อิสราเอล 5-4
ส่วน น้องไมลส์ ลงเล่นในนัด อังกฤษ ชนะ อันดอร์ร่า 2-0 ก่อนถูกตัดชื่อออกเกมพบ เซอร์เบีย ซึ่งไม่ได้บาดเจ็บแต่อย่างใด (เดินทางไปเบลเกรดด้วย) แต่ โธมัส ทูเคิ่ล จัดการเรื่องเวลาลงสนามให้เหมาะสมหลังเล่นครบ 90 นาทีกับนัดแรกทีมชาติ ทั้งที่ 3 นัดแรกกับ อาร์เซน่อล ลงสนามรวมเพียง 44 นาที
กองกลาง
เป็นกลุ่มที่แยกย้ายไปทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจกับทีมชาติไม่ว่าจะเป็น เดแคลน ไรซ์ , มาร์ติน โอเดการ์ด , มาร์ติน ซูบีเมนดี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มิเกล เมรีโน่
เมรีโน่ ยิงถึง 4 ประตูให้ทีมชาติสเปน
ไรซ์ ลงตัวจริงทั้งสองนัดให้ทีมชาติอังกฤษ โดยโหม่งทำประตูได้ในเกมชนะ อันดอร์ร่า 2-0 ก่อนทำ 2 แอสซิสต์จากการเปิดเตะมุมและฟรีคิก พาทัพสิงโตบุกขย่ม เซอร์เบีย 5-0 ซึ่งทั้งสองนัดนี้ ไรซ์ ถูกเปลี่ยนตัวออกไปพักในนาที 68 และ 81 ตามลำดับ
รายของ โอเดการ์ด ที่หายเจ็บไหล่เป็นสำรองในเกมกับ ลิเวอร์พูล ได้ลงตัวจริงให้ทีมชาตินอร์เวย์ก่อนเล่น 45 นาทีแรกในเกมอุ่นเครื่องชนะ ฟินแลนด์ 1-0 จากนั้นเล่นเต็ม 90 นาทีในคัดบอลโลกที่ขุนพลจากแดนไวกิ้งปูพรมถล่ม มอลโดว่า 11-1
กัปตันทีมปืนใหญ่ทำไป 2 แอสซิสต์และยิงเอง 1 ลูก ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นในช่วง 10 นาทีท้ายของครึ่งแรก และทำให้ตอนนี้เขาเป็นผู้เล่นที่แอสซิสต์มากกว่าทุกคนในคัดบอลโลก โซนยุโรป ที่จำนวน 7 แอสซิสต์
ฝั่งทีมชาติสเปนมี ซูบีเมนดี้ และ เมรีโน่ ลงตัวจริงพร้อมกันทั้งในเกมเปิดรังชนะ บัลแกเรีย 3-0 ต่อด้วยบุกกระหน่ำ ตุรกี 6-0
ซูบีเมนดี้ ทำแอสซิสต์ได้ในเกมพบ บัลแกเรีย ก่อนถูกถอดไปพักในนาที 62 ส่วนในเกมกับ ตุรกี ที่ยังคงคุมจังหวะแดนกลางได้ยอดเยี่ยมเช่นกัน ถูกเปลี่ยนออกช่วง 17 นาทีท้าย
และแน่นอนคนที่ผลงานเด่นสุดในช่วงเบรกทีมชาติคือ เมรีโน่ ที่เริ่มด้วยโหม่งปิดท้ายนัดชนะบัลแกเรีย ก่อนซัดแฮตทริกในเกมเยือน ตุรกี ซึ่งแต่ละลูกสวยงามทีเดียวโดยเฉพาะลูกสุดท้ายที่ปั่นจากหน้าเขตโทษเสียบสามเหลี่ยมหมดจด
โอเดการ์ด ทำแอสซิสต์มากสุดในคัดบอลโลกโซนยุโรป
แนวรุก
แนวรุกของ อาร์เซน่อล ต่างพาเหรดติดทีมชาติในรอบล่าสุดกันถ้วนหน้าไม่ว่าจะเป็นกลุ่มแข้งใหม่ทั้ง วิคตอร์ โยเคเรส , โนนี่ มาดูเอเก้ และ เอเบเรชี่ เอเซ่ รวมถึง กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ และ เลอันโดร ทรอสซาร์ ยกเว้นเพียง บูคาโย่ ซาก้า และ ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่มีปัญหาบาดเจ็บ
โยเคเรส ลงตัวจริงเล่นครบ 180 นาทีให้ทีมชาติสวีเดนทั้งเกมเสมอ สโลวีเนีย 2-2 และพลาดท่าพ่าย โคโซโว 0-2 โดยมี 1 แอสซิสต์ในเกมแรกที่พยายามจับบอลยิงในเขตโทษ แต่หลุดเข้าทาง ยาซิน อายารี่ สอดมายิงนำ 2-1 ซึ่งน่าจะเป็นประตูชัยแล้ว แต่นาทีสุดท้ายกลับโดน สโลวีเนีย ตามตีเสมอ
ส่วนคนที่ผลงานทีมชาติดีสุดในแผงแนวรุกคือ โนนี่ มาดูเอเก้ ซึ่งได้โอกาสเต็ม ๆ กับทีมชาติด้วยในช่วงที่ ซาก้า บาดเจ็บ
มาดูเอเก้ ลงเป็นปีกขวาให้ทีมชาติอังกฤษในเกมคัดบอลโลกเอาชนะ อันดอร์ร่า 2-0 ต่อด้วยบุกชนะ เซฮร์เบีย 5-0 ซึ่งเขาทำประตูแรกในนามทีมชาติได้สำเร็จจากการใช้ความเร็วกระชากบอลเข้าเขตโทษก่อนชิพผ่านผู้รักษาประตูเข้าไปอย่างสุดยอด
ผลงานของอดีตแข้ง เชลซี ตั้งแต่เกมกับ ลิเวอร์พูล ต่อเนื่องถึงทีมชาติ น่าจะทำให้เจ้าตัวมั่นใจขึ้นมาก และทำให้ มิเกล อาร์เตต้า อุ่นใจได้ไม่น้อยกับเกมรุกฝั่งขวาที่เคยเป็นจุดบอดตอน ซาก้า บาดเจ็บหนักในฤดูกาลที่แล้ว
มาดูเอเก้ มีประตูแรกกับทีมชาติแล้ว
ส่วน เอเซ่ ได้โอกาสลงตัวจริงตำแหน่งตัวปั้นเกมตรงกลางในเกมกับ อันดอร์ร่า และฟอร์มโดยรวมไม่ดีนัก และพลาดโอกาสทำประตูไปหลายครั้ง ทำให้นัดต่อมาหลุดเป็นสำรองไม่ได้ถูกเปลี่ยนตัวลงเล่น
รายของ มาร์ติเนลลี่ ถูกเรียกตัวติดทีมชาติบราซิลในยุคของกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ ที่ส่งเขาลงตัวจริงทำเกมรุกฝั่งซ้ายในเกมพบ ชิลี ก่อนที่ทัพแซมบ้าซึ่งเข้ารอบสุดท้ายไปก่อนหน้านี้แล้ว จะเอาชนะไป 3-0 ส่วนนัดต่อมานั่งสำรองยาวในเกมเยือน โบลิเวีย
อีกคนที่ไปเล่นทีมชาติชุดใหญ่คือ เลอันโดร ทรอสซาร์ ที่ลงเป็นสำรองให้ อาร์เซน่อล เพียงนัดเดียวจาก 3 นัดแรก แต่ยังคงมีชื่อติดทีมชาติเบลเยียม
ทรอสซาร์ ลงสำรองแทน เดอ บรอยน์ ช่วง 23 นาทีสุดท้ายเกมที่ เบลเยียม ไล่หวด ลิกเตนสไตน์ 6-0 ก่อนได้ลงตัวจริงเกมเจอ คาซัคสถาน ซึ่งเบลเยียมยิงชนะครึ่งโหลอีกนัด แต่ ทรอสซาร์ ไม่ได้มีสกอร์หรือแอสซิสต์
นอกจากนี้ อีธาน วาเนรี่ และ แม็กซ์ ดาวแมน ก็ไปลุยให้ทีมชาติชุดเล็กมาเช่นกัน โดย วาเนรี่ เล่นดีเลยกับทีมชาติอังกฤษชุดยู-21 ที่ลงตัวจริงพร้อมยิงประตู แถมได้ตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในนัดชนะ คาซัคสถาน 2-0 ซึ่งเป็นนัดเดียวที่ลงเล่นในเบรกทีมชาติรอบนี้
มิเกล อาร์เตต้า ปลื้มใจกับผลงานลูกทีมในทีมชาติ
ขณะที่ เจ้าหนูแม็กซ์ในวัย 15 ปี ก็ได้รับคำชมอย่างมากหลังขยับรุ่นจากทีมยู-17 ไปเล่นชุดยู-19 โดยเริ่มจากลงเป็นสำรอง 20 นาทีสุดท้ายนัดชนะ ยูเครน 2-0 ก่อนลงตัวจริงในเกมเสมอ สเปน 3-3 ซึ่งเจ้าตัวทำไป 1 แอสซิสต์ ต่อด้วยยึดตัวจริงนัดสุดท้ายเอาชนะ เนเธอร์แลนด์ ขาดลอย 4-1
ในภาพรวมเป็นเบรกทีมชาติที่นักเตะ อาร์เซน่อล ทำผลงานได้น่าประทับใจ และที่สำคัญสุดคือ ไม่มีใครบาดเจ็บกลับมาซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีเลยทีเดียว
การหวนคืนสโมสรในสภาพไร้รอยขีดข่วนคือเรื่องที่ดีสำหรับ มิเกล อาร์เตต้า เพราะโปรแกรมหลังเบรกทีมชาติมีงานใหญ่รออยู่เพียบในเดือนกันยายนทั้งการเจอ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่เพิ่งเปลี่ยนโค้ช ต่อด้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดแรก ไปเยือน แอธ.บิลเบา และเกมลีกนัดบิ๊กแมตช์ทั้่งรับมือ แมนฯ ซิตี้ และไปเยือน นิวคาสเซิ่ล
ยิ่งโปรแกรมยาก ก็ยิ่งต้องการนักเตะที่ฟิตพร้อมและอยู่ในฟอร์มดี