น้อยนิดมหาศาล

ลูกวอลเลย์สุดงามในท้ายครึ่งแรกเป็นประตูเดียวที่เกิดขึ้นในลอนดอน ดาร์บี้แมตช์เกมนี้ซึ่งทั้งสองทีมไม่ได้มีโอกาสจะแจ้งกันมากนัก

เป็นเกมที่ค่อนข้างอึดอัด และไม่ง่ายสำหรับ อาร์เซน่อล ซึ่งต้องรอจนถึงนาทีที่ 33 ที่ได้โอกาสลุ้นยิงครั้งแรกจาก เลอันโดร ทรอสซาร์ ก่อนเปลี่ยนโอกาสครั้งที่สองในอีก 6 นาทีถัดมาให้กลายเป็นประตูสำเร็จจากทีเด็ดลูกเซตพีซอีกครั้ง

เดแคลน ไรซ์ เปิดบอลเข้าเขตโทษไปให้ กาเบรียล มากัลเญส โหม่งกลับมาให้ เอเซ่ กระโดดวอลเลย์ส่งบอลเข้าประตูไปสวยงาม

นี่คือประตูจากลูกตั้งเตะลูกที่ 11 ในพรีเมียร์ลีกของ อาร์เซน่อล ฤดูกาลนี้ มากกว่าทุกทีมอย่างไม่ต้องสงสัยเพราะเป็นจุดแข็งที่ใช้โจมตีคู่แข่งได้ตลอดโดยเฉพาะในเกมที่หาโอกาสจากโอเพ่นเพลย์ได้ยากแบบนี้

พาเลซ ของกุนซือ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ เป็นทีมที่ระบบการเล่นแน่นมาก มีแนวทางชัดเจน และใช้ศักยภาพของนักเตะได้อย่างเต็มที่ ใครเจอก็ลำบาก การที่ อาร์เซน่อล ชนะได้จึงสำคัญอย่างยิ่ง

  มิเกล อาร์เตต้า กล่าวหลังเกมถึงความยากในเกมนี้ว่า "ต้องยกเครดิตให้ พาเลซ เลย เพราะทุกครั้งที่เราพยายามทำอะไร พวกเขาปรับตัวได้ดีมาก แผงรับไม่พุ่งสุ่มสี่สุ่มห้า ไม่เสียตำแหน่งง่ายๆ ตัวริมเส้นสองข้างดุดันมาก ทำให้หาพื้นที่ยาก และทุกครั้งที่พวกเขาแย่งบอลได้ก็มีเป้าหมายชัดคือ มาเตต้า กับตัววิ่งสนับสนุนสองคน"

"เราต้องมีระเบียบวินัยมากๆ เพราะถ้าหลุดแค่จังหวะเดียว โดยเฉพาะตอนวิงแบ็กสองฝั่งเติมขึ้นพร้อมกัน เราอาจโดนเล่นงานได้ง่ายๆ ผมบอกนักเตะเลยว่า เกมนี้จะยาวนาน ดังนั้นต้องนิ่ง ต้องมั่นคงทางอารมณ์ และเมื่อมีโอกาสโจมตี ต้องทำให้เด็ดขาด เพราะโอกาสจะไม่มากนัก"

เอเซ่ ทำประตูได้อย่างยอดเยี่ยม

ตลอดครึ่งชั่วโมงแรก อาร์เซน่อล ไม่มีโอกาสได้ง้างยิงเลย และได้สัมผัสบอลในเขตโทษ พาเลซ แค่ 2 ครั้งเท่านั้น

ในยุคของ กลาสเนอร์ พาเลซ เล่นได้ดีมากในการเจอทีมใหญ่ พวกเขาเคยบุกเสมอ อาร์เซน่อล ในท้ายฤดูกาลที่แล้ว และโค่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ต่อด้วยตบ ลิเวอร์พูล ฉลองแชมป์อีกครั้งในคอมมิวนิตี้ ชิลด์ 

ส่วนฤดูกาลนี้ก็บุกเสมอ เชลซี ในนัดแรก ก่อนถล่ม แอสตัน วิลล่า 3-0 และเป็นทีมแรกที่ยัดเยียดความปราชัยให้ ลิเวอร์พูล จากลูกยิงในช่วงทดเจ็บของ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์

หลังได้ประตูนำจาก เอเซ่ อาร์เซน่อล ไม่สามารถบวกเพิ่มเพื่อความอุ่นใจ แต่ก็ทำในอีกสิ่งสำคัญคือการรักษาสกอร์นำและเก็บคลีนชีตได้สำเร็จ 

"เราทำได้ดีมากในเรื่องความนิ่ง และเล่นตามแท็กติกที่วางไว้ ครึ่งแรกเราเล่นอึดอัดหน่อย แต่ก็หาทางยิงประตูขึ้นนำได้ ส่วนครึ่งหลังเราทำได้ดีขึ้น เกมรุกลื่นไหลกว่าเดิม แต่พอขึ้นนำแค่ 1-0 เรารู้ว่าเราต้องอดทน เพราะถ้าจะชนะทีมแบบนี้ได้ ต้องมีวินัยและรักษาคลีนชีตให้ได้ ซึ่งมันสำคัญมาก" อาร์เตต้า กล่าวต่อ

แม้มีเพียงประตูเดียว และทำให้แฟนบอลต้องลุ้นกันตัวเกร็งกว่าจะจบเกม แต่ก็เป็นชัยชนะที่สำคัญไม่แพ้ในเกมที่ยิงประตูถล่มทลายเพราะทำให้ อาร์เซน่อล ขยับหนีคู่แข่งเพิ่มเป็น 4 คะแนนในสัปดาห์ที่หลายทีมใหญ่พลาดท่าแพ้

ไม่ออกอาการมากนักหลังยิงใส่ทีมเก่า

ขณะที่ อาร์เตต้า ถึงขนาดบอกว่าเป็นชัยชนะที่สำคัญสุดของฤดูกาลเลยก็ว่าได้ "เรารู้ดีว่ามันยากแค่ไหน หลังจากต้องลงเล่นทุกๆ สามวัน เรามีโอกาสสำคัญในสัปดาห์นี้จากผลคู่อื่นๆ และเราก็รู้ว่าคู่แข่งวันนี้คือทีมที่มีระบบการเล่นดีมากๆ เป็นทีมที่เล่นด้วยยาก และสามารถทำให้คุณหัวเสียได้ตลอด พวกเขาพร้อมจะลงโทษคุณทันทีถ้าหลุดสมาธิเพียงเสี้ยววินาทีเดียว" 

ในตารางคะแนนตอนนี้ อาร์เซน่อล อาจเซอร์ไพรส์นิดๆ ที่สองทีมตามหลังคือ "น้องใหม่" ซันเดอร์แลนด์ และบอร์นมัธ ส่วนช่องว่างกับ แมนฯ ซิตี้ เพิ่มเป็น 6 คะแนน และหนี ลิเวอร์พูล เป็น 7 คะแนน

อาร์เตต้า พูดถึงการนำคู่แข่งเพิ่มมากขึ้นว่า "เรารู้ดีว่าทุกเกมในลีกนี้ยากหมด มันยังเร็วเกินไปที่จะพูดอะไร แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องรักษามาตรฐานนี้ไว้ และพัฒนาจุดเล็กๆ ที่ยังทำได้ดีกว่านี้ เพื่อให้เราได้เปรียบมากขึ้นในระยะยาว"

อย่างไรก็ตาม ในชัยชนะล่าสุดนี้ก็มีเรื่องต้องกังวลไม่น้อยเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บเพิ่มเติมที่ อาร์เตต้า เผยว่ามีผู้เล่นถึง 4 รายบาดเจ็บจากเกมนี้ทั้ง วิลเลียม ซาลีบา, เดแคลน ไรซ์, ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ และไม่เว้นแม้แต่ตัวที่ลงสำรองอย่าง กาเบรียล มาร์ติเนลลี่

ขณะที่ บูคาโย่ ซาก้า ก็มีอาการป่วยก่อนเกมจนแทบไม่ได้ซ้อม การที่ อาร์เตต้า ตัดสินใจเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่นาที 66 ตอนที่สกอร์ยังนำแค่ลูกเดียว ก็บ่งบอกชัดเจนว่าให้ฝืนเล่นต่อไปไม่ได้ ยิ่งเกมยืดเยื้อยิ่งมีโอกาสล้าและบาดเจ็บได้ง่าย

ทั้งหมดต้องเข้ารับการตรวจอย่างละเอียดในวันจันทร์ และยังดีที่โปรแกรมต่อไปเป็นคาราบาว คัพ ที่ อาร์เตต้า ต้องปรับทีมหลายตำแหน่งอยู่แล้ว กลุ่มผู้เล่นเหล่านี้น่าจะได้พักกันถ้วนหน้า

ตารางคะแนนหลังผ่าน 9 นัดแรก

ตอนนี้ อาร์เตต้า พาทีมชนะได้ 7 นัดติดต่อกันจากทุกรายการ และไม่เสียประตูเลยตลอด 5 นัดหลังสุด แถมไล่เช็กบิลทีมที่เคยทำแต้มหล่นได้ต่อเนื่องไล่ตั้งแต่ นิวคาสเซิ่ล, เวสต์แฮม, ฟูแล่ม และ คริสตัล พาเลซ ซึ่งฤดูกาลที่แล้ว อาร์เซน่อล เก็บได้แค่ 2 คะแนนเท่านั้น

ในช่วงโปรแกรมที่ไม่ง่าย ต้องลงเล่นทุกสามวัน และคู่แข่งล่าสุดอย่าง พาเลซ ก็สร้างความอึดอัดใจได้อย่างมาก ประตูเดียวของ เอเบเรชี่ เอเซ่ จึงสำคัญและมีความหมายสุด ๆ 

เส้นทางลุ้นแชมป์ของ อาร์เซน่อล ยังอีกยาวไกล แต่ชัยชนะเหนือ คริสตัล พาเลซ ครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงสิ่งสำคัญที่สุดในเกมฟุตบอลอีกครั้ง นั่นคือการหาทางชนะได้แม้ในวันที่ไม่ได้เล่นดีที่สุด หรือยิงประตูได้มากสุด

ประตูเดียวก็เพียงพอหากมาในช่วงเวลาที่ทีมต้องการ...