เป็นชัยชนะนัดที่ 8 ติดต่อกันในทุกรายการ และหากนับเฉพาะเดือนตุลาคมเป็นการชนะได้ตลอด 6 นัด และ "ไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียว"
ผลงาน 6 นัดหลังสุดมีดังนี้
ชนะ ไบรท์ตัน 2-0 (เหย้า, คาราบาว คัพ)
ชนะ คริสตัล พาเลซ 1-0 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
ชนะ แอต.มาดริด 4-0 (เหย้า, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
ชนะ ฟูแล่ม 1-0 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
ชนะ เวสต์แฮม 2-0 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
ชนะ โอลิมเปียกอส 2-0 (เหย้า, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
อาร์เซน่อล กลายเป็มทีมพรีเมียร์ลีกทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่ลงเล่น 6 นัดในหนึ่งเดือน และชนะทุกนัดโดยไม่เสียประตูเลย
ผลงานสมบูรณ์แบบอย่างยิ่ง
นั่้นทำให้ยึดตำแหน่งจ่าฝูงในพรีเมียร์ลีกด้วยการนำหน้าคู่แข่ง 4 คะแนน และอยู่อันดับ 4 ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยผลงานชนะรวด 3 นัด รวมถึงเข้ารอบ 8 ทีมคาราบาว คัพ
เจาะในรายละเอียดผลงาน 6 นัดที่ชนะรวดตลอดเดือนตุลาคมแล้วก็ยิ่งเห็นได้ถึงความยอดเยี่ยมของ อาร์เซน่อล ในช่วงนี้
ในพรีเมียร์ลีก 3 นัด อาร์เซน่อล ปล่อยให้คู่แข่งยิงเข้ากรอบเพียง "ครั้งเดียว" ซึ่งเกิดขึ้นในนัดชนะ คริสตัล พาเลซ 1-0
จังหวะดังกล่าวไม่นับว่าเข้ากรอบก็ได้เพราะเป็นจังหวะที่ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ พยายามขึ้นโหม่งและมี ดาบิด ราย่า ออกมาคว้าบอลพอดี จังหวะถึงบอลแทบจะพร้อมกัน และไม่ได้มีทิศทางจากลูกบอลพุ่งไปหาประตูแม้แต่นิด
อย่างไรก็ตาม การได้ 3 คลีนชีตติดต่อกันในลีกก็นับว่าสวยงามอยู่ดี และนับทั้งฤดูกาลก็เป็นคลีนชีตที่ 6 ของ ราย่า แล้ว ได้ลุ้นถุงมือทองคำเป็นฤดูกาลที่ 3 ติดต่อกัน
ส่วนในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สองนัดที่พบ โอลิมเปียกอส และ แอตเลติโก มาดริด ก็โดนคู่แข่งยิงเข้ากรอบรวมกันแค่ 4 ครั้ง และแน่นอนไม่เป็นประตู
มีที่หวิดจะเสียประตูมากสุดก็คือบอลถ้วยคาราบาว คัพ กับ ไบรท์ตัน ที่เปลี่ยนผู้เล่นถึง 10 ตำแหน่งเพื่อเปิดโอกาสให้ดาวรุ่งและสำรองลงสนาม
ไบรท์ตัน ได้ลุ้นยิงถึง 18 ครั้ง และเข้ากรอบ 6 ครั้ง นับเฉพาะเข้ากรอบในนัดนี้ก็มากกว่าอีก 5 5 นัดของเดือนนี้รวมกัน
ยังดีที่ เกปา อาร์ริซาบาลาก้า มือสองของทีมที่ได้โอกาสเฝ้าเสา ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งการเซฟประตู ออกมาปิดมุม ตัดบอล ยืนตำแหน่ง สั่งการเกมรับ เรียกได้ว่าผลงานโดดเด่นไม่แพ้มือหนึ่งเลยทีเดียว
อาร์เซน่อล จึงรักษาคลีนชีตได้อีกนัด พร้อมกับได้สองประตูจาก อีธาน วาเนรี่ และ บูคาโย่ ซาก้า ช่วยให้เอาชนะและเข้ารอบต่อไปได้
ต้องบอกว่าเป็นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเป็นที่ดีมากๆ สำหรับ อาร์เซน่อล
เกมรุกอาจจะยิงไม่เยอะ มียิงเกิน 2 ประตูต่อนัดแค่เกมกับ แอต.มาดริด ที่เหลือชนะ 1-0 หรือไม่ก็ 2-0
แต่ก็เห็นได้ถึงความเด็ดขาด และใช้โอกาสได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณภาพวัดกันตรงนี้
และถ้าไล่อย่างละเอียดใน 3 นัดเกมลีกแล้วจะเห็นได้เลยว่าในช่วงครึ่งชั่วโมงแรกที่เจอกับ เวสต์แฮม, ฟูแล่ม และ พาเลซ ซึ่งเป็นการเจอทีมลอนดอนด้วยกันทั้งหมด เกมของ อาร์เซน่อล ค่อนข้างอึดอัดหาช่องเจาะแทบไม่ได้
แต่เมื่อเวลาผ่านไป การเล่นของ อาร์เซน่อล ก็เริ่มคลายพิษสงออกมา ขณะที่คู่แข่งเริ่มยุบไปเองเพราะมีโอกาสแล้วแต่ทำไม่ได้
แน่นอนว่า "เกมรับ" อันแข็งแกร่งคือ ปัจจัยสำคัญทำให้ผลงานตลอดเดือนตุลาคมออกมาไร้เทียมทาน ไม่เสียความบริสุทธิ์ให้ใคร
ชุดตัวจริงแข็งโป๊ก ยากที่คู่แข่งจะเจาะได้ ยูร์เรียน ทิมเบอร์, วิลเลียม ซาลีบา, กาเบรียล มากัลเญส และ ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ รวมถึงผู้รักษาประตู ดาบิด ราย่า เซตมาตรฐานฤดูกาลนี้เอาไว้สูงมาก
พอเปลี่ยนเป็นชุดสำรองที่มี เบน ไวท์, คริสเตียน มอสเกร่า, ปิเอโร่ อินกาปีเอ้ และ ไมลส์ ลูอิส-สเกลลี่ และด่านสุดท้ายอย่าง เกปา ก็ยังเอาตัวรอดได้ แม้รายละเอียดอาจไม่เนี้ยบเท่าก็ตาม
สิ่งที่ มิเกล อาร์เตต้า และแฟนบอลปืนใหญ่รออยู่คงเหลือเพียงแค่ให้ตัวหลักในแนวรุกหายเจ็บกลับมาช่วยทีมอีกครั้งไม่ว่าจะเป็น มาร์ติน โอเดการ์ด, ไค ฮาแวร์ตซ์ และ โนนี่ มาดูเอเก้ รวมถึง กาเบรียล เชซุส ที่หากฟิตสมบูรณ์ก็เป็นอีกไพ่เด็ดให้กับทีมได้แน่นอน
ย้อนไปในฤดูกาลที่แล้ว อาร์เซ่นอล ชนะในลีกได้นัดเดียวตลอดเดือนตุลาคม แต่ครั้งต่างออกไป
เกมรุก "คม" มีโอกาสแล้วทำได้ และ "เขี้ยว" ในเกมรับ ไม่เสียประตูง่ายๆ
ตุลา'คม'และ'เขี้ยว'อย่าแท้จริง
