45 นาทีรู้เรื่อง

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หลังผ่านตุลาคมอันยอดเยี่ยมชนะตลอด 6 นัดแบบไม่เสียประตู อาร์เซน่อล เริ่มต้นเดือนพฤศจิกายนได้ดีไม่แพ้กันในเกมเยือน เบิร์นลีย์ ที่เพียงแค่ 45 นาทีแรกก็แทบจะได้บทสรุปกันแล้ว

ประตูจาก วิคตอร์ โยเคเรส และ เดแคลน ไรซ์ ในครึ่งแรกช่วยให้ อาร์เซน่อล บุกชนะ เบิร์นลีย์ ได้ 2-0 เป็นชัยชนะในลีกนัดที่ 5 ติดต่อกัน และนัดที่ 9 จากทุกรายการ พร้อมเพิ่มสถิติ "คลีนชีต" 7 นัดติด

นับเป็นชัยชนะสุดสำคัญอีกนัดเพราะช่วยให้ทีมของ มิเกล อาร์เตต้า นำคู่แข่งเพิ่มเป็น 6 คะแนนหลังผ่าน 10 นัดแรก และผ่านเกมยากอีกเกมที่สนาม เทิร์ฟ มัวร์

ในช่วงหนึ่งปีหลังสุด เบิร์นลีย์ แพ้เกมลีกคาบ้านแค่นัดเดียวคือการเจอ ลิเวอร์พูล ช่วงต้นฤดูกาล ซึ่งก็เกือบยันเสมอได้อยู่แล้ว แต่มาเสียจุดโทษช่วงทดเจ็บทำให้พ่ายไปหวุดหวิด 

แต่ อาร์เซน่อล สามารถเช็กบิลเจ้าถิ่นได้อยู่หมัดในครึ่งแรกจากฟอร์มอันยอดเยี่ยมโดยเฉพาะเกมรุก

"ปืนใหญ่" สร้างโอกาสลุ้นยิงได้ 8 ครั้ง เข้ากรอบ 6 ครั้ง ก่อนเปลี่ยนเป็น 2 ประตูขึ้นนำ โดยที่ค่า xG (โอกาสที่น่าจะเป็นประตู) สูงถึง 2.27 

ย้อนไปในเกมลีก 3 นัดก่อนหน้าที่พบ เวสต์แฮม , ฟูแล่ม และ คริสตัล พาเลซ รูปเกมในช่วงครึ่งชั่วโมงแรกค่อนข้างคล้ายกันคือ อาร์เซน่อล เจอการตั้งรับแน่นหนาจนแทบจะหาช่องเจาะไม่ง่าย "

แต่เกมนี้ต่างออกไป อาร์เซน่อล หาจังหวะได้อย่างต่อเนื่องซึ่งคนที่ต้องชมมากสุดคือ วิคตอร์ โยเคเรส ที่มี 45 นาทีที่ "ดีสุด" นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมในฤดูกาลนี้

หัวหอกทีมชาติสวีเดนมีส่วนร่วมในแทบทุกจังหวะเกมรุกของทีม การพักบอลแดนหน้าทำได้ดีเหมือนเคย เพื่อนร่วมทีมเล่นต่อได้ง่าย และยังดึงตัวประกบเพื่อเปิดพื้นที่ว่างได้ตลอด การเล่นลงตัวทุกจังหวะ และดูเป็นธรรมชาติ 


โยเคเรส เล่นดีและมีประตู

เพียง 14 นาทีแรกของเกม โยเคเรส ก็ปลดล็อกประตูแรกนอกบ้านได้สำเร็จจากลูกโหม่งระยะเผาขนที่จุดเริ่มต้นมาจากอาวุธหลักของทีมในลูกเตะมุม เดแคลน ไรซ์ เปิดให้ กาเบรียล มากัลเญส กระแทกบอลจากเสาไกลกลับคืนมาให้โขกง่ายดาย

ประตูที่สองของทีม โยเคเรส ก็ควรได้เครดิตเช่นกันเพราะเป็นจุดเริ่มต้นในการเล่นโต้กลับที่พาบอลจากหน้าเขตโทษตัวเองผ่านกลางสนามขึ้นมาก่อนเปิดทะแยงขึ้นทางซ้ายด้วยน้ำหนักและทิศทางสมบูรณ์แบบสุดๆ จากนั้น ทรอสซาร์ โยกแล้วจัดการหยอดไปให้ ไรซ์ โขกเข้าไป

การเปิดบอลของ โยเคเรส ในช็อตนี้ทำได้ไร้ที่ติจริงๆ ซึ่งการเปลี่ยนจากรับเป็นรุกเพื่อโจมตีคู่แข่งต้องทำให้ได้แบบนี้ แม่นยำ เฉียบขาด และน้อยจังหวะเพื่อที่คู่แข่งไม่สามารถอยลงมาจัดระเบียบในเกมรับได้ทัน

นอกจากเป็นการเข้าทำที่สวยงามมีประสิทธิภาพแล้ว ประตูนี้ยังเป็นประตูแรกจากโอเพ่นเพลย์ในการเล่นนอกบ้านฤดูกาลนี้อีกด้วย ไม่ได้มีเพียงลูกเซตพีซที่หลายทีมปรามาส 

อดีตหัวหอก สปอร์ติ้ง ลิสบอน น่าจะมี 2-3 แอสซิสต์ด้วยในครึ่งแรกที่จ่ายให้ บูคาโย่ ซาก้า ยิงเน้นๆ ติดเซฟ มาร์ติน ดูบราฟก้า สองครั้ง แถมยังเก็บจังหวะสองให้ ทรอสซาร์ ยิงไปติดตัวเคลียร์บนเส้นอีก

เรียกได้ว่าเป็นครึ่งแรกที่เด่นสุดๆ สำหรับ โยเคเรส โดยนอกจากสองประตูที่มีส่วนร่วม จังหวะอื่นที่จะเป็นประตูก็มีเอี่ยวด้วยทั้งหมด 

แต่น่าเสียดายที่เจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บจนต้องเปลี่ยนตัวออกช่วงพักครึ่ง ซึ่ง อาร์เตต้า เปิดเผยว่า "ในครึ่งแรก เขาเล่นได้ดีที่สุดเกมหนึ่งกับเราเลย แต่เขารู้สึกว่ามีปัญหาที่กล้ามเนื้อ ดังนั้นเราคงต้องรอเพื่อดูว่าอาการบาดเจ็บนั้นรุนแรงแค่ไหน"


ซูบีเมนดี้ และ โยเคเรส เล่นไม่จบเกมเพราะเจ็บทั้งคู่

นอกจากเกมรุกที่สร้างโอกาสได้ และนำ 2-0 แล้ว เกมรับก็ไม่เปิดโอกาสให้ เบิร์นลีย์ ได้ง้างยิงแม้แต่ครั้งเดียว อย่างดีสุดก็ได้แค่สัมผัสบอลในเขตโทษไป 2 ครั้ง

การนำ 2-0 สำหรับ อาร์เซน่อล ชั่วโมงนี้ อาจเหมือน 3-0 หรือ 4-0 สำหรับทีมอื่นเพราะโอกาสชนะสูงมาก 

"ครึ่งแรกนั้นสุดยอดมาก เรายิงได้สองประตูและไม่เสียอะไรเลย นั่นคือรากฐานสำคัญในชัยชนะ ขณะที่การเล่นเกมรับก็ยอดเยี่ยมอีกครั้ง เราไม่เปิดโอกาสให้คู่แข่งเลย" อาร์เตต้า ชมผลงานลูกในครึ่งแรก

ส่วนครึ่งหลังมีการเปลี่ยนผู้เล่นที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนออกไปพักซึ่งนอกจาก โยเคเรส แล้ว มาร์ติน ซูบีเมนดี้ ก็ถูกถอดออกเช่นกันโดยที่กองกลางทีมชาติสเปนแจ้งขอเปลี่ยนตัวเองด้วย

ตอนนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าอาการของ ซูบีเมนดี้ ร้ายแรงเพียงใด แต่เจ้าตัวจะได้พักฟื้นเต็มๆ ตลอดหนึ่งสัปดาห์เพราะในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดเยือน สลาเวีย ปราก วันอังคารนี้ จะติดโทษแบนอยู่แล้ว 

การไม่มี โยเคเรส ที่เด่นสุดในเกมรุก รวมถึงตัวที่คอนโทรลเกมแดนกลางได้ดีอย่าง ซูบีเมนดี้ ทำให้การเล่นของ อาร์เซน่อล ใน 45 นาทีหลังไม่ได้คุกคามเจ้าถิ่นมากนัก และต้องเน้นความชัวร์ในเกมรับเพื่อรักษาสกอร์ ขณะที่ค่า xG ลดเหลือเพียง 0.15 เพราะแทบไม่มีโอกาสจะแจ้ง

จากนั้นพวก บูคาโย่ ซาก้า และ เอเบเรชี่ เอเซ่ ก็ทยอยถูกถอดไปเก็บเพื่อเซฟตัวไว้เล่นถ้วยยุโรป เปิดโอกาสให้ เบิร์นลีย์ มีลุ้นในเกมรุกบ้าง และได้โอกาสยิงครั้งแรกก็ตอนเข้าสู่ช่วงยี่สิบนาทีสุดท้าย


เดแคลน ไรซ์ ช่วยทีมสุดตัวทั้งรุกและรับ

มีที่เหนื่อยสุดคือ เดแคลน ไรซ์ ที่วิ่งทั่วสนามช่วยทีมทั้งเกมรุกและเกมรับ โดยเฉพาะหลังจาก ซูบีเมนดี้ ถูกเปลี่ยนออก ก็ต้องลงมาช่วยเกมรับมากเป็นพิเศษ เป็นอีกคนที่ทำผลงานได้ประทับใจอย่างยิ่ง

"เราต้องเปลี่ยนผู้เล่นบางคนไป และเราก็ไม่ได้คุมเกมได้มากนักในครึ่งหลัง" อาร์เตต้า กล่างถึงการเล่นในครึ่งที่ดร็อปลงไปบ้าง 

จังหวะหวาดเสียวสุดที่ อาร์เซน่อล เกือบเสียประตูเกิดขึ้นในช่วงทดเจ็บจากฟรีคิกของ มาร์คัส เอ็ดเวิร์ดส์ ที่ชนอย่างจัง

แม้ไม่ได้ดีงามเหมือนครึ่งแรก แต่ท้ายที่สุด อาร์เซน่อล ก็ยังรักษาความได้เปรียบในสกอร์ที่นำเอาไว้ตลอดรอดฝั่ง จบด้วยชัยชนะและคลีนชีตที่ตอกย้ำถึงคุณภาพการเล่นของทีมในช่วงนี้ เช่นเดียวกับลูกเตะมุมที่ทำให้ทีมได้แล้ว 8 ประตูในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ 

สิ่งที่ อาร์เซน่อล แสดงให้เห็นในเกมที่ เทิร์ฟ มัวร์ คือภาพของทีมที่เติบโตอย่างแท้จริง และรู้จัก "ปิดเกม" อย่างมีระเบียบและมั่นคง ไม่ต้องเล่นเต็มเครื่องทุกนาที แต่เข้าใจมากขึ้นว่าเล่นอย่างไรถึงจะชนะได้



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด