ของมันโดนกันได้

ตลอด 15 นัดก่อนลงสนามนัดล่าสุด อาร์เซน่อล ชนะได้ถึง 13 นัด และเสียไปเพียง 3 ประตู โดยที่ไม่เคยเสียเกิน 1 ประตูต่อนัดด้วย

แต่เกมเยือนสเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ ของ ซันเดอร์แลนด์ จบแบบสุดดราม่าในสกอร์ 2-2 เป็นผลลัพธ์ที่ผิดคาดอยู่บ้าง แต่หากเจาะในรายละเอียดทุกอย่างแล้วก็เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ ไม่ได้เซอร์ไพรส์มากนัก

มิเกล อาร์เตต้า กลับมาใช้งานชุดใหญ่อีกครั้ง หลังพักตัวหลักบางรายในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่บุกชนะ สลาเวีย ปราก เมื่อกลางสัปดาห์

แต่กระนั้นก็ขาดผู้เล่นบาดเจ็บหลายคน ไม่ว่าจะเป็น มาร์ติน โอเดการ์ด, ไค ฮาแวร์ตซ์, โนนี่ มาดูเอเก้, กาเบรียล เชซุส, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ และ วิคตอร์ โยเคเรส

นั่นทำให้ต้องส่ง มิเกล เมรีโน่ เป็นหน้าเป้าจำเป็นอีกนัด ขณะที่กลุ่มสำรองในเกมรุกล้วนเป็นดาวรุ่งยกแผง ทั้ง อีธาน วาเนรี่, แม็กซ์ ดาวแมน และ อันเดร แฮร์ริมัน-แอนนูส ที่ไม่มีใครอายุเกิน 18 ปีเลย

ในครึ่งแรก อาร์เซน่อลหาช่องเจาะลำบากมาก เพราะเกมรับของซันเดอร์แลนด์ปักหลักยืนกันแน่นหนา คุมพื้นที่แน่นทุกจุด และประกบได้ดี คนเข้า-คนซ้อนรู้จังหวะ ไม่ทับตำแหน่งกัน

การขาด โยเคเรส ทำให้เกมรุกของอาร์เซน่อลขาดประสิทธิภาพไปพอสมควร ไม่ได้กดดันเจ้าถิ่นเท่าที่ควร เพราะไม่มีตัวค้ำแดนหน้าที่สามารถไล่เพรสซิ่งได้ตลอด คอยชน และดึงตัวประกบ

เมื่อไม่มีหัวหอกทีมชาติสวีเดนอยู่ในสนาม เกมรับของซันเดอร์แลนด์ก็ไม่ลำบากใจมากนัก เซนเตอร์แบ็กสามารถขยับออกมาซ้อนฟูลแบ็กได้ ตรงนี้ทำให้ริมเส้นอย่าง บูคาโย่ ซาก้า และ เลอันโดร ทรอสซาร์ เจองานหนักมากในการสร้างสรรค์จังหวะเกมรุก

มิเกล เมรีโน่ รับหน้าที่แทนเป็นฟอลส์ไนน์ มีจุดเด่นในการสอดเข้าทำประตู แต่บทบาทอื่นไม่ได้ตอบโจทย์แบบโยเคเรส อย่างไรก็ตาม อาร์เตต้า ก็ไม่มีทางเลือกมากนัก เพราะตัวเลือกอื่นในตำแหน่งนี้ต่างเจ็บกันหมด

45 นาทีแรกจึงเป็นเกมที่ค่อนข้างอึดอัดสำหรับอาร์เซน่อล และขณะเดียวกันก็ถูกทดสอบลูกโด่งจากเจ้าถิ่นเป็นระยะ จนกระทั่งเป็นฝ่ายขึ้นนำจากการเล่นฟรีคิกที่สองกองหลังอย่าง นอร์ดี มูกีเอเล่ และ แดน บัลลาร์ด เติมเข้าไปเล่นร่วมกันในเขตโทษ ก่อนจบด้วยการทำประตูออกนำให้แฟนบอลเจ้าถิ่นได้เฮลั่นสนาม

นี่คือการทำประตูทีมเก่าของ แดน บัลลาร์ด ที่เคยอยู่ในทีมเยาวชนของปืนใหญ่หลายปี แต่ไม่สามารถขึ้นชุดใหญ่ได้ ต้องออกจากทีมไปพิสูจน์ตัวเองที่อื่น และได้กลับมาพรีเมียร์ลีกอีกครั้งในคราบแมวดำ

อาร์เตต้า ปรับเกมได้ดีขึ้นในครึ่งหลังที่ลุยแหลกแบบต่อเนื่อง แบ็กสองข้างอย่าง เจอร์เรียน ทิมเบอร์ และ ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ เติมเข้าเขตโทษเป็นว่าเล่น และสร้างจังหวะลุ้นประตูได้หลายครั้งจนได้สองประตูแซงนำจาก ซาก้า และ ทรอสซาร์ ที่เป็นจังหวะโอเพ่นเพลย์ ไม่ได้พึ่งแค่เซตพีซอย่างเดียว

อาร์เซน่อลทำทุกอย่างที่ควรต้องทำในครึ่งหลัง และสามารถพลิกสถานการณ์เป็นผู้นำได้สำเร็จ

ในหลายนัดก่อนหน้านี้ ทีมของอาร์เตต้าสามารถปิดเกมเป็นผู้ชนะได้เมื่อมีสกอร์นำเพียงประตูเดียว แต่เกมนี้กลับเจองานยากกว่าที่คาด เพราะซันเดอร์แลนด์ตบเกียร์ห้าลุยอีกรอบในช่วงท้าย

เรชีส เลอ บรีส กุนซือชาวฝรั่งเศสของทัพแมวดำ กล้าวัดแบบไม่มีกลัวด้วยการเปลี่ยนสามแนวรุกชุดใหม่ลงแทนชุดตัวจริง จากนั้นก็ถอดกองหลังและเติมกองหน้าไปอีกคน เรียกได้ว่าเทหมดหน้าตักไม่ยอมแพ้คาบ้าน

ซันเดอร์แลนด์กดดันเกมรับของอาร์เซน่อลได้อย่างต่อเนื่อง ดาบิด ราย่า ต้องออกแรงเซฟไปหลายครั้ง และสุดท้ายก็พลาดจนได้กับประตูในช่วงทดเจ็บของ ไบรอัน บร็อบบีย์ หนึ่งในตัวสำรองของเจ้าถิ่น

อาร์เซน่อลต้านไม่อยู่ และเสีย 2 ประตูในนัดเดียวเป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ สถิติชนะรวดถูกหยุดลง

แน่นอน การโดนซันเดอร์แลนด์ไล่ตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ชัยชนะหลุดมือ แต่เกมแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้อยู่แล้วกับการแข่งขันฟุตบอลลีกอันยาวนานเกือบสิบเดือน

และที่สำคัญ ต้องให้เครดิตคู่แข่งอย่างซันเดอร์แลนด์ ที่ทำให้เห็นเช่นกันว่าสู้สุดใจจริงๆ และสมควรกับการมีแต้มติดมือในรังของตัวเอง

ซันเดอร์แลนด์เป็นหนึ่งในน้องใหม่ที่กลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้งหลังหายหน้าไปหลายปี และการกลับมาครั้งนี้ก็ไม่ธรรมดาเลย โดยเฉพาะการเล่นในรังของตัวเอง

พวกเขาสร้างฮือฮาตั้งแต่นัดเปิดฤดูกาลที่ไล่ตบเวสต์แฮมถึง 3-0 ต่อด้วยอัดเบรนท์ฟอร์ด 2-1 และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่แพ้ใครในบ้าน

ทัพแมวดำได้เปรียบในเรื่องความฟิตและความสด เพราะเตรียมทีมมาตลอดสัปดาห์ ต่างจากอาร์เซน่อลที่เล่นทั้งกลางสัปดาห์และสุดสัปดาห์ต่อเนื่อง

ก่อนลงสนามนัดนี้ ซันเดอร์แลนด์เก็บได้ถึง 18 คะแนนจาก 10 นัดแรก มีเพียงอาร์เซน่อลกับแมนฯ ซิตี้เท่านั้นที่ทำได้มากกว่า

เป็นอีกครั้งที่น้องใหม่ทีมนี้แสดงให้เห็นถึงสปิริตนักสู้เกินร้อย โดยเฉพาะในช่วงท้ายที่ทำเอาทีมของอาร์เตต้าเจอกับ 10-15 นาทีที่ยากลำบากที่สุดของฤดูกาลก็ว่าได้

ปืนใหญ่ที่ว่าเยี่ยมยุทธ์ในลูกตั้งเตะ ก็เจอบททดสอบราวกับ “หนามยอกเอาหนามบ่ง” จากทัพแมวดำที่เชี่ยวชาญลูกตั้งเตะและลูกทุ่มไกลไม่แพ้กัน จังหวะบอมบ์เข้าเขตโทษแต่ละครั้งทำเอาจ่าฝูงปั่นป่วนชัดเจน

อาร์เตต้าไม่สามารถปรับเกมได้ในช่วงท้าย เพราะประเมินว่าอาจเป็นเกมที่หนักเกินไปสำหรับดาวรุ่งแนวรุกหลายคน เนื่องจากสถานการณ์ตอนนั้นซันเดอร์แลนด์ไล่บดไล่บี้อย่างหนัก จังหวะ 50-50 ใส่แบบไม่ยั้ง

กรานิต ชาก้า ที่เป็นอีกคนที่ได้เจอทีมเก่า ก็ทำหน้าที่ในบทบาทปัจจุบันของตัวเองอย่างเต็มที่ ไม่มีออมมือให้กับอดีตต้นสังกัดที่เคยอยู่มานานถึง 7 ปี

ท้ายที่สุด อาร์เซน่อลจึงได้เพียงแค่เสมอ และเป็นครั้งแรกในฤดูกาลที่นำคู่แข่งแต่ไม่ชนะ

เป็นเรื่องน่าเสียดายกับการพลาดชัยชนะของอาร์เซน่อล แต่ก็ต้องยอมรับว่าซันเดอร์แลนด์เล่นได้ดี การที่พวกเขาเกาะกลุ่มบนของตารางได้ในเวลานี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม การสะดุดได้แค่เสมอของอาร์เซน่อลหลังจากชนะมา 10 นัด ถือว่าไม่ได้เสียหายมากนัก ฤดูกาลนี้ยังอีกยาวไกล และมีโอกาสเก็บแต้มได้อีกมากมาย

มิเกล อาร์เตต้า พาทีมรั้งจ่าฝูงในเวลานี้ ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว และต้องไม่ลืมว่าฤดูกาลนี้เต็มไปด้วยปัญหาบาดเจ็บแทบทุกนัด โดยนัดล่าสุดก็ขาดแนวรุกพร้อมกันถึง 6 คน

อาร์เซน่อลยังสามารถคาดหวังสิ่งดีๆ ที่รออยู่ได้ เพราะตามรายงานข่าว ผู้เล่นที่เจ็บตอนนี้จะกลับมาได้เกือบหมดหลังเบรกทีมชาติในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า ขุมกำลังตรงนี้แหละที่จะทำให้ทีมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และสามารถปรับทีมตามสถานการณ์ได้ง่ายขึ้น

ทุกทีมในลีกตอนนี้ล้วนเคยสะดุดมาแล้วทั้งนั้น อาร์เซน่อลพลาดน้อยกว่าทีมอื่นด้วยซ้ำ ช่องว่างจากคู่แข่งลดเหลือ 4 คะแนนก็จริง แต่ก็ยังเป็นตำแหน่งที่ดีมากๆ

การสะดุดเล็กน้อยในตอนนี้ไม่ได้ทำลายความมั่นใจของทีมแต่อย่างใด และเมื่อเบรกทีมชาติกลับมา ก็เชื่อได้เลยว่า อาร์เซน่อลทีมนี้พร้อมเดินหน้าเต็มตัวอีกครั้งแน่นอน