ลูอิส-สเกลลี่ ก้าวขึ้นมาติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่เป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม เขาทำประตูได้ทันทีในแมตช์ประเดิมสนามศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก พบ แอลเบเนีย พร้อมกับสร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้เล่นสิงโตคำรามที่อายุน้อยสุดทำประตูได้ในการลงสนามให้ชุดใหญ่เป็นครั้งแรกด้วยวัย 18 ปี 176 วัน
แบ็กซ้ายจาก อาร์เซน่อล ติดทีมของกุนซือ โธมัส ทูเคิล ต่อเนื่องทั้งในเดือนมิถุนายน, กันยายน และ ตุลาคม ทว่าหลุดโผในชุดล่าสุดเดือนนี้
ทูเคิล ให้เหตุผลในการตัดชื่่อออกจากทีมว่า "ไม่ได้ลงเล่นมากพอในระดับสโมสร" ทำให้แบ็กซ้ายวัย 19 ปีต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งสำคัญ
"ผมสนุกกับมันนะ" เขากล่าวหลังเกมที่ อาร์เซน่อล บุกชนะ ไบรท์ตัน 2-0 ในศึกคาราบาว คัพ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา "มันเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่สำหรับผมที่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ลงสนามมากนัก แต่ผมก็มีความสุขที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม"
"การแข่งขันเพื่อแย่งตำแหน่งนั้นสำคัญมาก และผมก็เป็นคนที่ไม่ยอมแพ้คนหนึ่ง ผมจึงไม่เคยคิดจะถอย ผมสนุกกับความท้าทายนี้ การได้อยู่ร่วมกับเพื่อนๆ ในทีมนี้เป็นความสุขอย่างแท้จริง"
"มาตรฐานของทีมสูงลิบ และทุกคนต่างต้องการลงเล่น เนื่องจากมาตรฐานของเรายกระดับขึ้นมากในฤดูกาลนี้ โอกาสจึงจำกัด แต่สิ่งเดียวที่คุณทำได้คือต้องต่อสู้"
การได้เป็นตัวจริงในเกมกับ ไบรท์ตัน เป็นเพียงการออกสตาร์ตครั้งที่ 4 ของ ลูอิส-สเกลลี่ ในฤดูกาลนี้ และยังไม่มีโอกาสลงเป็น 11 ตัวจริงในเกมพรีเมียร์ลีกเลย โดยลงเล่นในฐานะตัวสำรองรวม 7 นัด คิดเป็นเวลา 92 นาที
ลูอิส-สเกลลี่ ไม่ติดทีมชุดล่าสุดของ โธมัส ทูเคิ่ล
แม้ว่าในรายการอื่นเขาจะทำผลงานได้ดีกว่า โดยได้ลงเล่นเป็นตัวจริงทั้งในคาราบาว คัพ 2 นัด และแชมเปี้ยนส์ ลีก 2 นัดซึ่งรวมถึงเกมถล่ม แอตเลติโก มาดริด 4-0 แต่สถานการณ์นี้แตกต่างจากฤดูกาลที่แล้วอย่างสิ้นเชิง
ลูอิส-สเกลลี่ เคยทำสถิติลงสนามถึง 39 นัดในฤดูกาล 2024/25 ซึ่งเป็นสถิติการลงสนามมากที่สุดของแข้งดาวรุ่งปืนใหญ่ที่อายุ 18 ปีหรือต่ำกว่า นับตั้งแต่ยุคของ เชส ฟาเบรกาส ในฤดูกาล 2005/06
ก่อนการประกาศรายชื่อทีมชาติอังกฤษชุดล่าสุด ทูเคิล ได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับ ลูอิส-สเกลลี่ เป็นการส่วนตัว โดยเน้นย้ำว่าเขาจะไม่ถูกเรียกติดทีม U-21 เช่นกัน เนื่องจากยังถูกพิจารณาในฐานะผู้เล่นระดับทีมชาติชุดใหญ่
"ไมลส์ เป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม และลงเล่นให้เราในแคมป์ที่แล้วในเกมคัดเลือกฟุตบอลโลกที่ริกา" ทูเคิล กล่าว
"เขาแค่ต้องการการลงเล่นที่เป็นตัวจริงและนาทีในสนามที่มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ นิโก้ โอไรลีย์ (แมนฯ ซิตี้) ทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องในตำแหน่งนั้น เขาจึงนำหน้าอยู่เล็กน้อยสำหรับทีมชาติรอบนี้"
ในทีม อาร์เซน่อล คนที่ยึดตำแหน่งแบ็กซ้ายไว้อย่างเหนียวแน่นคือ ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ ปราการหลังทีมชาติอิตาลี ซึ่งออกสตาร์ตเป็นตัวจริงทั้ง 11 นัดในพรีเมียร์ลีก
นอกจากนี้ การมาถึงของ ปิเอโร่ อินกาปีเอ้ กองหลังทีมชาติเอกวาดอร์วัย 23 ปีที่พร้อมลงเล่นทั้งแบ็กซ้ายและเซ็นเตอร์แบ็ก ก็เป็นอีกหนึ่งอุปสรรคสำคัญสำหรับ ลูอิส-สเกลลี่
สิ่งที่ คาลาฟิออรี่ และ อินกาปีเอ้ มีเหนือกว่า ลูอิส-สเกลลี่ คือ "ประสบการณ์" ในฤดูกาลที่ อาร์เซน่อล ตั้งใจจะคว้าแชมป์ให้ได้ อันเดรีย แบร์ต้า ผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่ได้เลือกสรรนักเตะที่เน้นผู้เล่นในวัยที่พีกที่สุดให้กับ มิเกล อาร์เตตา ส่งผลให้การโรเตชั่นทีมในบางตำแหน่งไม่ได้เกิดขึ้นมากนัก
โอกาสลงสนามต้องมากกว่านี้
ลูอิส-สเกลลี่ มีความยืดหยุ่นพอที่จะลงเล่นในตำแหน่งกองกลางได้ แต่โอกาสที่จะได้ลงสนามเป็นประจำในบทบาทนั้นก็มีน้อย เนื่องจาก อาร์เซน่อล ก็มีตัวเลือกมากมายในแดนกลางเช่นกัน
ลูอิส-สเกลลี่ และ อีธาน วาเนรี่ ต่างก็เซ็นสัญญาระยะยาวเมื่อช่วงซัมเมอร์ ซึ่งบ่งชี้ว่าสโมสรเชื่อมั่นในอนาคตของพวกเขา แต่ภายใต้แรงกดดันมหาศาลในการคว้าชัยชนะ การมีส่วนร่วมกับทีมชุดใหญ่ของทั้งคู่จึงไม่ได้รุดหน้าอย่างที่ควรจะเป็น
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับนักฟุตบอลที่กำลังพัฒนา การที่ ลูอิส-สเกลลี่ ก้าวขึ้นมาอย่างรวดเร็วจากดาวรุ่งโนเนมสู่การเป็นผู้เล่นทีมชาติ ถือเป็นความสำเร็จอันน่าทึ่ง การได้ห่างหายจากความสนใจ และมีช่วงเวลาของการพัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไป อาจไม่ใช่แค่สิ่งที่เสียหาย แต่มันอาจเป็นผลดีต่อการเติบโตของเขาด้วยซ้ำ
แต่สิ่งที่สร้างความยุ่งยากใจอาจเป็น 'ฟุตบอลโลก' เพราะโอกาสครั้งสำคัญแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับวัยรุ่นทุกคน
ลูอิส-สเกลลี่ จึงจำเป็นต้องชั่งน้ำหนักระหว่าง "ความอดทน" ที่มีต่อสโมสร กับ "ความทะเยอทะยาน" ในการได้เล่นในเวทีระดับฟุตบอลโลก
แน่นอนว่า วิธีการที่ง่ายสุดในการบรรลุความทะเยอทะยานนั้น คือการได้ลงเล่นมากขึ้นกับ อาร์เซน่อล ซึ่งมีความเป็นไปได้เสมอ ความไม่แน่นอนของฟอร์มการเล่นและอาการบาดเจ็บของเพื่อนร่วมทีม หรือถึงการขยับตำแหน่งไปเล่นเซนเตอร์แบ็กย่อมหมายถึงโอกาสที่เปิดมากขึ้นของ ลูอิส-สเกลลี่
แบ็กซ้ายที่เป็นผลผลิตจากเฮลเอนด์กำลังมุ่งมั่นทำงานอย่างหนักภายใต้การดูแลของ กาเบรียล ไอน์เซ่ ผู้ช่วยโค้ชคนใหม่ ซึ่งจะช่วยสอนเขาได้มากในฐานะอดีตแบ็กซ้ายทีมชาติอาร์เจนตินา ทัศนคติของเขาคือการพัฒนาตนเองอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
"ในกรณีของ ไมลส์ เมื่อมองจากอายุของเขา และสิ่งที่เขาทำไปแล้ว มันช่างน่าทึ่งมาก" อาร์เตต้า ให้ความเห็น
"ดังนั้น อย่ามองแค่ช่วงเวลาที่ยากลำบากที่เกิดขึ้น เพราะบางทีมันอาจเกิดขึ้นด้วยเหตุผลที่ถูกต้อง และวันนี้คุณอาจจะยังมองไม่เห็นมัน"
ระหว่าง "ความอดทน" กับ "ความทะเยอทะยาน" ไม่มีคำตอบที่ง่าย แต่ ไมลส์ ลูอิส-สเกลลี่ ต้องหาทางพิสูจน์ว่าทั้งสองอย่างสามารถเดินคู่กันได้ และอาจเดินไปไกลมากพอไปถึงสู่เวทีฟุตบอลโลกในแบบที่เขาสมควรได้รับ
