การเผชิญหน้ากับ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์, บาเยิร์น มิวนิค และ เชลซี ภายในเวลาหนึ่งสัปดาห์ เป็นบทดสอบที่หนักหน่วงสำหรับทุกทีม
แต่การเก็บชัยชนะได้สองนัด และเสมออีกนัดในเกมที่ต้องต่อสู้อย่างหนัก คือผลลัพธ์ที่ อาร์เซน่อล ควรพึงพอใจแล้ว แม้ลึกๆ มิเกล อาร์เตต้า และลูกทีมจะรู้สึกว่าน่าจะทำได้กว่านี้ในนัดล่าสุด
"โดยรวมแล้ว ผมคิดว่ามันเป็นสัปดาห์ที่เป็นบวกจริงๆ เพราะความยากลำบากมันมหาศาลมาก" อาร์เตต้า กล่าวหลังโปรแกรมหนักสามนัดหลังสุด
"มันเป็นสัปดาห์ที่ยิ่งใหญ่ เริ่มต้นด้วยเกมดาร์บี้ จากนั้นเล่นกับ บาเยิร์น มิวนิค ในอีกสามวันต่อมา เราเสียนักเตะไปในเกมเหล่านั้น"
อาร์เซน่อลเจอปัญหาทันทีหลังเบรคทีมชาติ เมื่อกองหลังอย่าง กาเบรียล มากัลเยส บาดเจ็บ เช่นเดียวกับ ริคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ และมีเพียงแนวรับชาวอิตาเลียนที่ฟิตทันลงในดาร์บี้แมตช์
จากนั้น เลอันโดร ทรอสซาร์ ก็มาเจ็บเพิ่มระหว่างครึ่งแรกในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ตามด้วย วิลเลี่ยม ซาลีบา ที่เจ็บตอนซ้อมก่อนเกมเยือน เชลซี นัดล่าสุด
นั่นทำให้ คริสเตียน มอสเกร่า และ ปิเอโร่ อินกาปิเอ้ สองกองหลังตัวใหม่ต้องจับคู่กันในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กเป็นครั้งแรกในลีก ส่วนผู้เล่นคนอื่นสภาพความฟิตดีขึ้นหลังหายเจ็บ แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะลงตัวจริงได้
"อย่างวันนี้ เราต้องเล่นด้วยคู่เซนเตอร์แบ็กที่ไม่เคยเล่นด้วยกันมาก่อน ในเกมที่ยากลำบากจริงๆ" อาร์เตต้า กล่าวต่อ
"กัปตันทีม (มาร์ติน โอเดการ์ด) ยังไม่พร้อมลงตัวจริง, กองหน้าตัวเป้าเบอร์ 9 (วิคตอร์ เยอเคเรส) ก็ยังไม่พร้อม, ไค (ฮาแวร์ตซ์) ก็ยังไม่พร้อมลงเล่น และเรายังเสีย เลโอ (ทรอสซาร์) ไปในช่วงกลางสัปดาห์ด้วย แต่ทีมก็ต้องตอบสนองกับเรื่องนั้น"
การเจอกับ เชลซี ในชั่วโมงนี้คือเกมที่หนักหน่วงและเข้มข้นอย่างที่หลายคนคาด เพราะทั้งสองทีมคือสองทีมนำของตารางหลังจบเกมนัดที่ 12 และต่างชนะทีมใหญ่มาสวยงามในเกมยุโรป
แค่เริ่มเกมก็เห็นแล้วว่าอัดกันหนักทุกจังหวะที่เข้าบอล มีการเบรกฟาวล์แทบทุกนาที ไม่มีฝ่ายไหนได้ครองบอลยาวๆ หรือคอนโทรลเกมได้เลย
"คุณสามารถสัมผัสได้ตั้งแต่เริ่มต้นว่ามีเดิมพันสูงแค่ไหน ทั้งสองทีมทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างในทุกจังหวะ" อาร์เตต้า พูดถึงการเล่นแบบถึงลูกถึงคน
ใบเหลืองแรกปลิวออกมาตั้งแต่นาทีที่ 5 และผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็มีแล้ว 4 ใบ มาร์ติน ซูบีเมนดี้, คริสเตียน มอสเกร่า และ ริคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ เป็น 3 ผู้เล่นทีมเยือนที่โดนจดชื่อ ส่วนเจ้าถิ่นมี มาร์ค กูกูเรย่า สังเวยใบเหลืองเช่นกันในภารกิจหยุด บูคาโย่ ซาก้า
ใบแดงเกิดขึ้นจนได้ และเป็น มอยเสส ไกเซโด้ ที่โดนไล่ออก หลังเข้าบอลอันตรายย่ำใส่ข้อเท้า มิเกล เมรีโน่ ก่อนจบครึ่งแรกด้วยใบเหลืองของ ปิเอโร่ อินกาปิเอ้
"นี่เป็นการต่อสู้ที่ดุเดือด มีการหยุดเกมบ่อยครั้ง มีการเข้าแทรกแซงจากผู้ตัดสินหลายครั้ง และนั่นเปลี่ยนบริบทของเกม เราได้ใบเหลือง 4 ใบ พวกเขาเหลือผู้เล่นสิบคน และในขณะนั้นเราต้องจัดระเบียบเกมให้ได้"
แม้ทีมปืนใหญ่มีผู้เล่นมากกว่า แต่การที่แนวรับถึง 4 คนได้ใบเหลืองในเกมที่ปะทะกันหนัก การเล่นหลายจังหวะจึงทำได้ไม่สุด เพราะเสี่ยงต่อการเหลือผู้เล่น 10 คนเช่นกัน
เชลซี เล่นได้ดีมากทั้งตอนมีตัวเท่ากันหรือตอนเหลือ 10 คน นักเตะมีสปิริตสูง วิ่งสู้ฟัดทุกคน และหลายคนก็พาบอลขึ้นหน้าได้ดี รวมถึงเรียกฟาวล์ได้บ่อย รีซ เจมส์ คนเดียวเรียกใบเหลืองจากฝั่งอาร์เซน่อลได้ถึง 3 ใบ
ลูกทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า เล่นเกมรับแข็งแกร่ง ป้องกันหน้าเขตโทษดีเยี่ยม และพร้อมโต้กลับทุกจังหวะ ทำให้อาร์เซน่อลเปิดเกมรุกได้ไม่สุดเพราะต้องคอยระวังสวนกลับ
อาร์เตต้า เลือกถอด คาลาฟิออรี่ ผู้ได้ใบเหลืองออก แล้วส่ง ไมล์ส ลูอิส-สเกลลี่ ลงแทนในครึ่งหลัง แต่ไม่ถึงสิบนาทีในสนาม แบ็กดาวรุ่งก็โดนเหลืองอีก ทำให้รูปเกมรับยังตึงเครียดเหมือนเดิม
อีกจุดที่ผิดแผนคือการเสียฟาวล์ตั้งแต่เชลซีบุกครั้งแรกในครึ่งหลัง นำไปสู่ฟรีคิกและต่อเนื่องเป็นเตะมุมจนได้ประตู
มอสเกร่า และ อินกาปิเอ้ มีศักยภาพจะเป็นตัวท็อปในอนาคต แต่ตอนนี้ยังห่างชั้นจากรุ่นพี่อย่าง กาเบรียล และ ซาลีบา ทำให้การป้องกันในเขตโทษมีปัญหา และการเสียประตูจากเซตพีซยิ่งน่าเจ็บใจ เพราะทีมนี้ปกติแข็งแกร่งมากในจุดนี้
การโจมตีจากลูกตั้งเตะก็ลดความอันตรายลงเมื่อไม่มีเซนเตอร์ตัวจริง จังหวะเตะมุมหรือฟรีคิกแทบไม่ได้ลุ้น
เกมรุกโดยรวมก็ดูเนือย ไม่มีชีวิตชีวา อาจเพราะความล้าสะสมจากสองเกมหนักก่อนหน้านี้
ระดับการเล่นของ อาร์เซน่อล ต่ำกว่ามาตรฐาน และไม่สามารถฉกฉวยความได้เปรียบจากตัวผู้เล่นมากกว่า สิ่งที่ทำได้ดีสุดคือการตีเสมอจากลูกโหม่งของ มิเกล เมรีโน่
"ผมรู้สึกว่ามันค้างคา เพราะวันนี้เราน่าจะชนะ และควรจะชนะ แต่เราทำไม่ได้ นั่นคือบทเรียน" อาร์เตต้า กล่าวหลังเกม
แต่เมื่อมองภาพหลังเบรกทีมชาติกลับมา สถานการณ์ของ อาร์เซน่อล ยังไม่เสียหาย พวกเขายังนำจ่าฝูงแม้ แมนฯ ซิตี้ ไล่มาเหลือ 5 คะแนน และห่าง เชลซี 6 คะแนน
นักเตะตัวรุกหลายคนกำลังทยอยกลับมา และโปรแกรมหลังจากนี้เบาลง ทำให้ อาร์เตต้า มีโอกาสพาทีมกลับสู่ระดับการเล่นที่ควรจะเป็นอีกครั้ง
แม้จะผิดหวังที่ไม่สามารถชนะทีม 10 คนอย่าง เชลซี ได้ แต่เมื่อดูภาพรวม สถานการณ์ผู้เล่นบาดเจ็บ โปรแกรมหนัก คู่แข่งกำลังฟอร์มดีผลเสมอถือว่าไม่เสียหาย และเดินหน้าต่อได้เหมือนเดิม
