ผ่านบททดสอบก่อนบุกวิลล่า พาร์ค
แมนฯ ซิตี้ ลงสนามก่อนในวันอังคาร บุกชนะ ฟูแล่ม หวุดหวิด 5-4 ทำให้ไล่จี้ อาร์เซน่อล เหลือ 2 คะแนน ดังนั้นเป้าหมายของ มิเกล อาร์เตต้า จะเป็นอื่นไม่ได้นอกจาก 3 คะแนนเท่านั้น
หลังผ่านสัปดาห์อันหนักหน่วงเจอทั้ง ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์, บาเยิร์น มิวนิค และ เชลซี อาร์เตต้า จำต้องปรับทีมในบางตำแหน่งเพื่อพักตัวหลักไม่ให้ล้าจนเกินไป
กัปตันทีม มาร์ติน โอเดการ์ด และ โนนี่ มาดูเอเก้ ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมา ได้สลับลงตัวจริงแทน เอเบเรชี่ เอเซ่ และ บูคาโย่ ซาก้า ขณะที่ เบน ไวท์ เสียบตำแหน่งแบ็กขวาแทน เจอร์เรียน ทิมเบอร์
ขณะที่ เบรนท์ฟอร์ด ของกุนซือ คีธ แอนดรูว์ส์ มาแบบเซอร์ไพรส์เล็กน้อยพัก อีกอร์ ติอาโก้ ดาวยิงตัวเก่งเจ้าของผลงาน 11 ประตูในลีก เป็นแค่สำรอง โดยส่ง เควิน ชาเดอ กับ ด็องโก้ วาตตาร่า ขยับมาเล่นหน้าคู่ พร้อมอัดหลังแน่น 5 คน
อาร์เซน่อล ขึ้นนำได้เร็วตั้งแต่ 11 นาทีแรก จากการประสานงานทางฝั่งขวาที่ มาดูเอเก้ ไขว้บอลให้ ไวท์ เติมขึ้นอย่างรู้ใจก่อนเปิดไปหน้าประตู มิเกล เมรีโน่ สอดมาโขกเน้นๆ จมตาข่าย
เป็นการเข้าทำที่ยอดเยี่ยมและสมบูรณ์แบบมาก และเป็นหนึ่งในจังหวะการเล่นฝั่งขวาที่สามารถโจมตีผู้มาเยือนได้อย่างต่อเนื่อง
การเปลี่ยนฝั่งขวามาเป็น มาดูเอเก้ และ ไวท์ อาจเป็นจุดที่หลายคนกังวลไม่น้อยก่อนเริ่มเกมเพราะคนแรกเพิ่งหายเจ็บกลับมา ส่วนอีกคนก็ห่างหายจากเกมพรีเมียร์ลีกไปนานสามเดือนครึ่ง หรือนับตั้งแต่ลงเล่นนัดเปิดสนาม

เมรีโน่ โขกต่อเนื่องในช่วงนี้
แต่ปรากฏว่าทั้งสองประสานงานกันได้อย่างลื่นไหล เข้าขาเหมือนเล่นด้วยกันมาหลายปี และเป็นจุดเริ่มต้นของโอกาสลุ้นประตูอีกหลายต่อหลายครั้งของทีม
มาดูเอเก้ และ ไวท์ ต่างมีโอกาสลุ้นยิงเอง เช่นเดียวกับ มาร์ติน โอเดการ์ด, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ และ ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่
อาร์เซน่อล เหนือกว่าชัดเจน แต่เมื่อไม่สามารถบวกประตูเพิ่มได้ เบรนท์ฟอร์ด ก็ยังอยู่ในเกม และน่าจะตีเสมอได้ด้วยจากลูกเตะมุมที่ เควิน ชาเดอ ได้โขกเต็มศีรษะ ดาบิด ราย่า ต้องปัดปลายมือก่อนบอลชนคานอีกที
อาร์เตต้า เจอโจทย์ให้ต้องแก้ระหว่างในท้ายครึ่งแรกด้วยเมื่อ คริสเตียน มอสเกร่า เซนเตอร์สำรองที่ลงตัวจริง มีอาการบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ทิมเบอร์ ที่น่าจะพักเต็มๆ จึงต้องลงมาเร็วกว่าที่คาด โดยขยับไปยืนปราการหลังตัวกลางคู่กับ ปิเอโร่ อินกาปีเย่
อาการบาดเจ็บยังคงเป็นปัญหาที่ตามเล่นงาน อาร์เซน่อล ไม่เลิกรา สลับกันเจ็บแทบทุกนัดที่ลงสนาม ขนาดใช้คู่เซนเตอร์สำรองก็ยังเดี้ยงตามหลังรอยรุ่นพี่ทั้ง กาเบรียล มากัลเญส และ วิลเลียม ซาลีบา ไปอีก
อาร์เตต้า เปิดใจถึงการมีผู้เล่นเจ็บเพิ่มว่า "มันน่าเหลือเชื่อนะ เพราะเราเสีย 'บิ๊ก กาบี้' และ 'วิลลี่' สองเซนเตอร์แบ็กตัวหลักที่เล่นร่วมกันมานานมาก จากนั้นเราก็มี มอสเกรร่า และ ปิเอโร่ อินกาปีเอ้ ที่ทำได้ดีมาก แล้วเราก็เสีย มอสเกร่า ไปอีก เราต้องปรับตัวอีกครั้ง"
ในครึ่งหลัง เบรนท์ฟอร์ด เปิดเกมรุกสู้มากขึ้น ได้ครองบอลและผ่านบอลมากกว่าครึ่งแรก ทีมของ แอนดรูว์ส คอยโจมตี อาร์เซน่อล ทั้งจากลูกเตะมุมและลูกทุ่มที่ถนัด

มอสเกร่า เจ็บไปอีกราย
เอเบเรชี่ เอเซ่ และ บูคาโย่ ซาก้า จึงถูกส่งลงมาเพื่อพลิกเกมเพิ่มในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย ตามด้วย วิคตอร์ โยเคเรส
"เราสร้างโอกาสได้ค่อนข้างมาก เป็นโอกาสจะแจ้ง แต่สกอร์ยังคง 1-0 การรู้ว่าพวกเขาอันตรายขนาดไหนจากลูกตั้งเตะ หรือลูกทุ่ม ทุกครั้งที่ได้โอกาส เป็นเรื่องที่ยากลำบากสำหรับเราอย่างยิ่ง เพราะมันฝังอยู่ในห้วงความคิดของเราเสมอว่าพวกเขาแทบไม่ต้องการอะไรเลยเพื่อเปลี่ยนให้เป็นประตู" อาร์เตต้า กล่าวต่อ
"เราเพิ่งผ่านสัปดาห์ที่หนักหน่วงมาก ทั้งทางอารมณ์ ร่างกาย และในทุกระดับ แล้วเราต้องเล่นสามวันต่อมา โดยมีเวลาฟื้นตัวน้อยกว่า เบรนท์ฟอร์ด หนึ่งวัน ผมคิดว่าเราครองเกมได้"
สิ่งที่ อาร์เซน่อล รอคอยคือประตูที่สองเพื่อปิดเกม และต้องรอนานจนถึงช่วงทดเจ็บก่อนเป็น ซาก้า ที่ปลดปล่อยความอึดอัดใจของทุกคนลงได้สำเร็จ
เมรีโน่ ที่โขกประตูแรก และวิ่งพล่านทั่วสนามเพื่อช่วยทีมทั้งเกมรุกและเกมรับ จ่ายบอลเข้าช่องได้สวยงามให้ ซาก้า ล็อกแล้วยิงเข้าไปจนได้
"ส่วนที่ผมอาจจะชอบมากที่สุดคือตอนที่เกมเปิดมากขึ้น และพวกเขาเริ่มได้โมเมนตัม เราแย่งบอลกลับมา เราตรึงบอลไว้ เราเริ่มเล่น เรามีความกล้าหาญมากพอที่จะหลุดออกจากสถานการณ์บางอย่าง และยิงประตูที่สองและชนะเกมไปได้" อาร์เตต้า กล่าวสรุป
แม้ระดับของ เบรนท์ฟอร์ด อาจเทียบไม่ได้กับ สเปอร์ส, บาเยิร์น และ เชลซี แต่ก็เป็นทีมที่แกร่งพอตัว ทีมเวิร์กแน่น และมีจุดแข็งเฉพาะตัวในการเล่นงานคู่แข่ง

ซาก้า ลงสำรองซัดปิดท้าย
อาร์เตต้า พาทีมผ่านไปได้อีกนัด เป็นชัยชนะที่สำคัญไม่แพ้เกมอื่น และเก็บคลีนชีตเป็นนัดแรกในรอบ 5 นัดหลังสุดอีกด้วย
โปรแกรมต่อไปเป็นอีกงานยากสำหรับ อาร์เซน่อล กับการไปเยือน แอสตัน วิลล่า ของกุนซือ อูไน เอเมรี่ อดีตคนคุ้นเคยของแฟนบอลปืนใหญ่
วิลล่า เพิ่งบุกชนะ ไบรท์ตัน 4-3 ทำให้ชนะในลีกได้ถึง 8 จาก 9 นัดหลังสุด มีพลาดนัดเดียวในเกมเยือน ลิเวอร์พูล ซึ่งวันนั้น เอมิเลียโน่ มาร์ตีเนซ ก็พลาดจริงๆ จนเสียประตู
จะเป็นอีกสุดสัปดาห์ที่ยากเหมือนสัปดาห์ก่อนที่บุกเยือน เชลซี ที่เป็นทีมอันดับ 3 เพราะตอนนี้ วิลล่า เป็นทีมอันดับ 3 ที่กำลังมั่นใจเต็มเปี่ยม
ชัยชนะเหนือ เบรนท์ฟอร์ด ล่าสุด ได้ตอกย้ำให้เห็นอีกครั้งว่า อาร์เซน่อล ชุดนี้มีความแข็งแกร่งทั้งในด้านขุมกำลังทีมและสภาพจิตใจเพียงใด การหมุนเวียนนักเตะท่ามกลางปัญหาอาการบาดเจ็บยังคงให้ผลลัพธ์ที่ดี เช่นเดียวกับคาแรกเตอร์ที่แสดงออกมาตลอด 90 นาที
เหลือเพียงการเดินหน้าต่อไปอย่างไม่ประมาทในช่วงโปรแกรมโหดให้ไปถึงปลายทางสุดท้ายให้ได้เท่านั้น

