อีกเกมยากที่ผ่านได้
อาร์เซน่อล ลงเล่นที่ฮิลล์ ดิ๊กกินสัน สเตเดี้ยม โดยรู้ดีว่าหล่นมาเป็นอันดับสองหลัง แมนฯ ซิตี้ เปิดรังถล่ม เวสต์แฮม ตามคาด อย่างไรก็ตาม จุดโทษประตูชัยของ วิคตอร์ โยเคเรส ก็ทำให้ทีมของ มิเกล อาร์เตต้า กลายเป็นจ่าฝูงของตารางในช่วงคริสต์มาส
ชัยชนะในรังเหย้าใหม่ของทอฟฟี่คืออีกหนึ่งเกมยากของปืนใหญ่ในฤดูกาลนี้ ไม่ต่างจากบ้านหลังเก่ากูดิสัน พาร์ค ที่สถิติไม่ค่อยดีนักเวลาไปเยือนเมื่อชนะกลับออกมาได้เพียงนัดเดียวจาก 7 ครั้งหลัง
ในการจัดทัพ อาร์เตต้า ส่งกัปตันทีม มาร์ติน โอเดการ์ด ลงตัวจริงอีกครั้ง เช่นเดียวกับ เลอันโทร ทรอสซาร์ หลังเป็นสำรองทั้งคู่ในเฉือนชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน ช่วงทดเจ็บ ขณะที่เกมรับได้ ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ กลับมาจากโทษแบน
ฝั่งซ้ายที่มีทั้ง ทรอสซาร์ และ คาลาฟิออรี่ ช่วยให้การขึ้นเกมรุกไม่ต้องพึ่งพาฝั่งขวามากจนเกินไป และมี 2-3 จังหวะที่ บูคาโย่ ซาก้า ขยับมาเล่นฝั่งซ้ายด้วยเพื่อหนีตัวประกบ วิตาลี่ มิโคเลนโก้
ตลอดครึ่งแรก อาร์เซน่อล มีโอกาสอยู่ฝ่ายเดียว แต่ก็ไม่ได้มากนัก และต้องพึ่งพาจุดโทษเพื่อประตูขึ้นนำซึ่งก็เป็นจุดโทษแบบที่ เอฟเวอร์ตัน แย้งไม่ได้เพราะ เจค โอโบรอัน จงใจใช้มือชัดเจนในการป้องกันลูกเตะมุมของ เดแคลน ไรซ์ ที่กำลังเข้าหัว คาลาฟิออรี่

เจค โอไบรอัน ใช้มือช่วยกลายเป็นจุดโทษ
วิคตอร์ โยเคเรส ได้โอกาสจากเพื่อนร่วมทีมให้สังหารลูกนิ่งเพื่อเรียกความมั่นใจ หลังยังคลำเป้าไม่เจอนับตั้งแต่หายเจ็บกลับมาลงเล่นเป็นนัดที่ 6
นี่คือเรื่องดีที่นักเตะ อาร์เซน่อล ทำให้เห็นบ่อยครั้ง และ อาร์เตต้า ก็ชื่นชมเป็นพิเศษ
"เป็นการตัดสินใจที่เยี่ยมมาก! ผมเห็นด้วยนะ มันแสดงถึงความเชื่อมั่นในตัวเพื่อนร่วมทีม เพราะ วิคตอร์ ซ้อมยิงทุกวันและเขาทำได้ยอดเยี่ยม" อาร์เตต้า กล่าว
"ในสนามทั้ง มาร์ติน (โอเดการ์ด), บูกาโย (ซาก้า) และ วิคตอร์ พวกเขาคุยและตัดสินใจกันเองว่าใครจะเป็นคนยิง ซึ่งมันเป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยมเพราะ วิคตอร์ ส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายได้สำเร็จ"
"ผมชอบเวลาที่ลูกทีมมีความเป็นเจ้าของทีมและตัดสินใจกันเองว่าอะไรดีที่สุดสำหรับสถานการณ์นั้น มันเป็นเรื่องบวกมากๆ"
โยเคเรส ยิงได้หนักหน่วงและเด็ดขาดอย่างมาก ต่อให้ จอร์แดน พิคฟอร์ด พุ่งถูกทางก็ไม่มีทางเซฟได้ นี่คือประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก และประตูที่ 7 จากทุกรายการในฤดูกาลนี้
สถิติยิงจุดโทษของ โยเคเรส สมบูรณ์แบบทีเดียวเพราะนับตั้งแต่ฤดูกาล 2023/24 ที่ย้ายไปเล่นให้ สปอร์ติ้ง ลิสบอน เป็นฤดูกาลแรก เขายิงจุดโทษทั้งหมด 17 ครั้ง เป็นประตูทั้งหมด ไม่มีพลาดเลย

วิคตอร์ โยเคเรส ไม่พลาดเมื่อได้โอกาสจากเพื่อน
ก่อนหน้านี้ ดาวยิงทีมชาติสวีเดนซัดจุดโทษให้ อาร์เซน่อล ไปแล้วครั้งแรกในเกมชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 5-0 เมื่อเดือนสิงหาคม แต่ประตูจากจุดโทษครั้งล่าสุดนี้ล้ำค่าอย่างยิ่งเพราะทำให้ อาร์เซน่อล เก็บชัยชนะสุดสำคัญเอาไว้ได้
ในครึ่งหลัง เกมค่อนข้างเปิดมากขึ้น เอฟเวอร์ตัน เดินหน้าลุยตั้งแต่รีสตาร์ตเพื่อทวงประตูคืนให้ได้ แต่โอกาสก็ไม่ได้จะแจ้งจนถึงขั้น ดาบิด ราย่า ต้องออกแรงเซฟ และครั้งเดียวที่เข้ากรอบก็ติดบล็อก
เป็น อาร์เซน่อล ที่น่าจะได้ประตูเพิ่มมากกว่าโดยเฉพาะโอกาสทองจาก บูคาโย่ ซาก้า ซัดเน้นๆ โดนเคลียร์บนเส้น ขณะที่ เลอันโดร ทรอสซาร์ กับ มาร์ติน ซูบีเมนดี้ ก็แม่นเสาไปคนละที
"ครึ่งหลังเรามีโอกาสทอง 3 ครั้งที่จะทำประตูที่สองหรือสามแต่ทำไม่ได้ ทำให้ช่วงท้ายเกมอาจต้องลุ้นเหนื่อยหน่อย แต่จริงๆ เราก็ไม่ได้เสียโอกาสอันตรายอะไร เพียงแต่ถ้าเราคมกว่านี้ สกอร์ก็น่าจะขาดกว่านี้" อาร์เตต้า กล่าว
ช่วงที่น่ากังวลใจมากสุดสำหรับ อาร์เซน่อล ในครึ่งหลังคือจังหวะปะทะกันของ วิลเลียม ซาลีบา กับ เตียโน่ แบร์รี่ ซึ่งเหตุการณ์คล้ายกันนี้ หรือเบาหวิวยิ่งกว่าเคยถูกเป่าเป็นจุดโทษมาแล้ว
แต่ครั้งนี้ผู้ตัดสิน แซม แบร์ร็อตต์ รวมถึงทีมงานวีเออาร์ไม่ได้มองว่ามีน้ำหนักมากพอจะเป็นจุดโทษ แม้ ซาลีบา เตะเข้าที่ขาของ แบร์รี่ ที่หวดโดนบอลก่อน
ถือว่าโชคดี อาร์เซน่อล ไม่เสียจุดโทษในจังหวะนี้ เพราะไม่งั้นมันอาจเป็นอีกวันแย่ๆ ของลูกทีม อาร์เซน่อล ที่สะดุดอีกครั้งซึ่งน่าจะเสียตำแหน่งจ่าฝูงให้กับ แมนฯ ซิตี้

เลโอ ทรอสซาร์ ซัดจูบเสาเต็มๆ
ความไม่เด็ดขาดในการจบสกอร์เพื่อเอาประตูที่ 2 และ 3 เพิ่มให้ได้ทำให้ อาร์เซน่อล ต้องลุ้นตัวเกร็งจนจบเกม แต่สุดท้ายก็เอาตัวรอดเก็บชัยชนะที่ต้องการได้สำเร็จ
"ผมแฮปปี้กับผลการแข่งขันและฟอร์มการเล่นในหลายๆ ช่วง การเจอกับทีมที่แพ้ยากและมีวินัยสูงแบบนี้เป็นเรื่องยาก" อาร์เตต้า กล่าวหลังเกม
"เอฟเวอร์ตัน พยายามยืดพื้นที่การเล่นของเราจนเกมอาจกลายเป็นความโกลาหลได้ แต่เราก็คุมสถานการณ์ไว้ได้ดี ยกเว้นแค่ช่วงลูกเตะมุมและลูกทุ่มต่อเนื่องกันไม่กี่ครั้ง"
อาร์เซน่อล ยังคงรักษาอันดับจ่าฝูงของตัวเองเอาไว้ได้ในการเข้าสู่โปรแกรมช่วงคริสต์มาส แต่แน่นอนว่ายังไม่มีอะไรการันตีทั้งนั้นโดยเฉพาะสถิติเก่าๆ ของ อาร์เซน่อล ที่เคยนำจ่าฝูงช่วงนี้ 4 ครั้ง แต่ไม่สามารถคว้าแชมป์ได้เลยซึ่ง 2 ครั้งหลังสุดเกิดขึ้นในยุค อาร์เตต้า ฤดูกาล 2022/23 และ 2023/24
ดังนั้นสิ่งที่ อาร์เตต้า ต้องทำต่อไปคือ "ทำงานหนักเพื่อเกมต่อไป ปรับปรุงจุดบกพร่อง และรักษาจิตวิญญาณกับพลังงานแบบนี้เอาไว้" อย่างที่กล่าวเอาไว้หลังจบเกมที่ครบรอบ 6 ปีในตำแหน่งกุนซือ อาร์เซน่อล พอดี
การเป็นจ่าฝูงในช่วงคริสต์มาสคือภาพสวยงามในวันนี้ แต่ อาร์เซน่อล รู้ดีว่ามีหลายอย่างต้องทำให้ดีขึ้น ยกระดับขึ้น เพื่อไม่ให้ภาพซ้ำตอนตบต้องมาหลอกหลอนเหมือนในวันวานอีก

