2024-25 ... ฤดูกาลแห่งความพลิกผัน?
นี่คือฤดูกาลปลดปล่อยของหลายสโมสรอย่างไม่ได้นัดหมาย ด้วย "แชมป์นี้ที่รอคอย" ผุดเป็นดอกเห็ด ระดับปรากฎการณ์
หากแต่ไม่ใช่ฤดูกาลที่น่าจดจำสำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
การคว้าอันดับ 3 และโควต้าแชมเปี้ยนส์ ลีกสำเร็จ ไม่ต่างกับรางวัลปลอบใจ
สำหรับทีมอื่น นี่อาจเป็นความสำเร็จและบรรลุเป้าหมาย แต่สำหรับซิตี้แล้ว ไม่ ไม่ใช่โดยสิ้นเชิง
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้ร่ำรวยและช่ำชองความสำเร็จ ปิดจ็อบแบบมือเปล่าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2016-17 อันเป็นซีซั่นแรกในเมืองผู้ดีของตัวเอง
เจ็บกว่านี้มีอีกไหม
นี่คือฤดูกาลที่แมนฯ ซิตี้เจอปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บอย่างต่อเนื่องและหนักหน่วง แบบที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ
เฉพาะอย่างยิ่ง บิ๊กเนมระดับบัลลง ดอร์ อย่าง โรดรี้ ที่เจ็บมาตั้งแต่นัดชิงชนะเลิศ ยูโร ปีที่แล้ว และได้เล่นแค่ไม่กี่นาที ก่อนเจ็บซ้ำในเกมกับอาร์เซน่อล และปิดเทอมยาว
นี่คือแกนหลักภายใต้ฟุตบอลสไตล์เป๊ป
การขาดห้องเครื่องพันธุ์กระทิง เหมือนกระทุ้งศิลารากฐานและส่งแรงกระเพื่อมไปทั่วผนังกำแพงเมือง นำมาสู่การล่มสลายในเชิงลูกหนังของซิตี้
ปัญหาดังกล่าวรุมเร้าต่อเนื่อง ขุมกำลังผลัดกันเจ็บ โรงหมอแทบไม่ขาดแคลนคนป่วย เนธาน อาเก้, รูเบน ดีอาส, จอห์น สโตนส์, เอแดร์ซอน หรือ เออร์ลิง ฮาแลนด์
บางช่วงของฤดูกาล เป๊ปเหลือขุนพลชุดใหญ่ให้ใช้งานแทบไม่ครบมือ บีบให้ต้องส่งดาวรุ่งลงสนามอย่างเลี่ยงไม่ได้
เด็กเรือใบมีแวว แต่ยังไม่สุกงอมมากพอในการขึ้นมาทดแทนรุ่นพี่ และมันต้องใช้เวลา นี่คือสิ่งที่เหล่าซิตี้เซนส์ต้องทำใจยอมรับ
ระยะผลัดใบต้องให้เวลา
ปิดฉากอย่างมือเปล่า
ทุกคนทราบดีว่า ในวันที่เรือใบติดเครื่อง เด็กๆ ของเป๊ปสามารถชนะได้ทุกทีมในโลก หากแต่ดูเหมือนเป๊ปต้องเผชิญปัญหาซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนตั้งหลักไม่ได้เสียที
หลังเสียแต้มเรี่ยราด ซิตี้หมดสิทธิ์ป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกตั้งแต่ปีมะโว้ แม้ในทางทฤษฎีแล้วเป็นไปได้ แต่ในทางปฏิบัติ ทีมของเป๊ปห่างไกลจากมาตรฐานตลอด 4 ปีที่ผ่านมา
คาราบาว คัพ ไม่ต้องพูดถึง ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เป็นเวทีของสำรองและดาวรุ่งอยู่แล้ว
แชมเปี้ยนส์ ลีก ร่วงตั้งแต่รอบเพลย์ออฟ ด้วยน้ำมือของเรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่จากแดนกระทิง
แม้นำ 2-1 ในนาทีที่ 80 ซิตี้กลับเก็บผลไม่ได้ และเสีย 2 ประตูในช่วง 4 นาทีสุดท้าย พ่ายคาบ้าน 2-3 แบบช็อกๆ
แนวรับอันอ่อนด้อย โดน คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ชำเรายับและฝากแฮตทริกเอาไว้ ตกรอบราวกับบอลคนละชั้น
หนักหนากับรายการสุดท้ายที่อุตส่าห์ฝ่าด่านไปถึงรอบชิงชนะเลิศ เบื้องหน้าคือ คริสตัล พาเลซ ทีมที่ไม่เคยได้แชมป์ใดๆ มาก่อนเลยตลอด 119 ปีของสโมสร
ปิดท้ายด้วยโทรฟี่ไร้พ่าย ... ก็ไม่แย่เกินไปนี่
จะเติมความหวังซักครั้งลงที่ใจ ทำให้ใจดีดังเดิม มาเจอความช้ำที่เธอให้มาเพิ่ม เธอกลับเติมความเจ็บใจ
ความพ่ายแพ้ต่อทีมของ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ เสมือนหมัดน็อกปลายคางทางความรู้สึก โทรฟี่ใบสุดท้ายหลุดลอยไปต่อหน้าต่อตา
แม้มีเครื่องหมายคำถาม
ดีน เฮนเดอร์สัน ควรโดนใบแดงก่อนหรือไม่?
ทำไม ฮาแลนด์ ไม่ยิงจุดโทษ? หรือเพราะสถิติพลาดบ่อยๆ หรือเพิ่งหายเจ็บกลับมาและยังรู้สึกไม่ฟิตเต็มร้อย ... ที่สุดแล้ว บอลจากปลายสตั๊ด โอมาร์ มาห์มูช ติดเซฟเฮนโด้
เฮนเดอร์สันยอมรับหลังเกมว่า หากเป็นฮาแลนด์สังหาร ตนไม่รู้ว่าต้องพุ่งไปทางไหน แต่ถ้าเป็นมาห์มูชแล้วหวานหมู ศึกษาข้อมูลมาแล้ว
ว่ากันว่า ผู้เล่นเปลี่ยนกันเอง และนั่นย่อมทำให้เป๊ปไม่พอใจ
เป็นขวบปีอันน่าผิดหวัง วาระ 10 ปี เควิน เดอ บรอยน์ กลายเป็นงานอำลาแบบกร่อยๆ หนึ่งในมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก หมดสัญญาและจากไปแบบไม่สมเกียรติ
ชีวิตมีขึ้นมีลง
เป๊ปครับ หากคุณฟังภาษาไทยออก ผู้เขียนอยากมอบเพลงนี้ให้คุณครับ
"เรือ" แทร็กที่ 4 ในอัลบั้ม "กดปุ่ม" ของศิลปินสายครีเอท พี่เอก-ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว
สัจธรรมใส่ทำนอง และเรียงร้อยเสียงประสานโดย พี่ตั๋ม-จาตุรนต์ เอมซ์บุตร โปรดิวเซอร์คู่ใจ พี่บิลลี่ โอแกน ถูกใส่เนื้อร้องโดยตัวศิลปินเอง
เนื้อหาเป็นอย่างนี้ครับ ...
"เรือลำหนึ่งลอยล่องลอยตามกระแส ตามความผันแปรลำน้ำใหญ่
ลอยตามน้ำมา แล้วลอยตามน้ำไป ไม่เคยมีทุกข์ใดล่องลอยไปได้ทุกวัน
หากว่าน้ำขึ้นเมื่อไหร่ขึ้นตามไปไม่เคยหวั่น น้ำเมื่อมันลงเรือก็ลงเหมือนกัน
น้ำนิ่งก็นอนก็นอนนิ่งอีกวัน น้ำขึ้นเมื่อไหร่ขึ้นตามไปเหมือนกัน"
ชีวิตก็เป็นเช่นนี้ มีขึ้นมีลง เมื่อขึ้นก็อย่าหลง เมื่อลงก็อย่าจมอยู่กับมัน แล้วชีวิตก็มีทางไปตามวาระเวลาของมันเสมอ
พรุ่งนี้ วันที่ไร้เงา KDB เป๊ปก็ต้องหาทางออกใหม่ๆ วันที่ไร้โรดรี้ก็ต้องมีแผนสอง แผนสาม รองรับ
คำว่า "ดีที่สุด" ไม่มีอยู่จริง
วันนี้ใช่ พรุ่งนี้อาจไม่
การล่มสลายของสิ่งหนึ่ง ย่อมนำมาสู่การกำเนิดอีกสิ่งหนึ่ง เช่นเดียวกับกลยุทธ์ลูกหนัง
ยุคหนึ่งฟุตบอลสไตล์คาเตนัคโช่ (ตีหัวแล้วเข้าบ้าน) ครองโลก ก่อนการกำเนิด "โททั่ลฟุตบอล", ลิเบอโร่, ติกี้ตาก้า ฯลฯ และการค้นหาวิธีเอาชนะลูกหนังแบบเดิมเสมอ
เป๊ปเองยอมรับว่า ทุกวันนี้ พรีเมียร์ลีกอังกฤษไม่เหมือนเดิม ระดับความถึงลูกถึงคนและแท็กติกหลากหลายกว่าเดิม
นั่นคือโจทย์ที่กุนซือชาวกาตาลันต้องเรียนรู้
"ทุกวันช่างสุขใจล่องลอยไปในห้วงละหาร ตามกระแสธารลำน้ำนั้น
ล่องไปตามกระแสแรงโน้มถ่วงอาทิตย์และจันทร์ ตามกลางคืนและวัน ไม่ว่ามันจะเป็นเช่นไร
หากว่าน้ำขึ้นเมื่อไหร่ขึ้นตามไปไม่เคยหวั่น น้ำเมื่อมันลงเรือก็ลงเหมือนกัน
น้ำนิ่งก็นอนก็นอนนิ่งอีกวัน น้ำขึ้นเมื่อไหร่ขึ้นตามไปเหมือนกัน"
เรียนรู้และอยู่กับปัจจุบัน สัจธรรมของชีวิต
"ไม่เคยจะฝืนอะไรมุ่งไปด้วยใจยึดมั่น ล่องไปตามแสงตะวัน ตามแสงจันทร์ที่มันนั้นจะพาไป"
ในวันอันตกต่ำ เพียงเรียนรู้กับมัน นี่คืออีกหนึ่งบททดสอบของกุนซือพันธุ์กระทิง
ผู้เขียนเชื่อว่า คนระดับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะกลับมาผงาดอีกครั้งแน่นอนครับ
บทเพลงที่ 34 : เรือ
เนื้อร้อง : ธเนศ วรากุลนุเคราะห์
ทำนอง / เรียบเรียง : จาตุรนต์ เอมซ์บุตร
ศิลปิน : ธเนศ วรากุลนุเคราะห์
อัลบั้ม : กดปุ่ม
ปี : 2532
