หนักเกินไปแล้ว

ชั่วโมงนี้ไม่รู้ ใครน่าสงสารกว่ากัน?
รูเบน อาโมริม หรือ สาวกปีศาจแดง
กลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ประวัติศาสตร์ต้องจารึกเอาไว้ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ตกรอบด้วยฝีเท้าทีมจากระดับดิวิชั่น 4 เป็นครั้งแรก!
กริมสบี้ ทาวน์ คือทีมที่ทำให้สถานการณ์ของกุนซือฝอยทองข้ามจากย่ำแย่สู่วิกฤติอย่างสมบูรณ์
จากความหวังใหม่ เมื่อครั้งเข้ามาแทนที่ เอริค เทน ฮาก อย่างเต็มตัว เมื่อ 1 พฤศจิกายน 2024 (คั่นกลางด้วย รุด ฟาน นิสเตลรอย ช่วงสั้นๆ ) 10 เดือนผ่านไป ยูไนเต็ดยังอยู่ในวังวน ไม่สิ บางที อาจแย่กว่าเดิมด้วยซ้ำ
ไม่ไหวแล้วโว้ยยยยยยย!!!! ถ้อยคำผรุสวาท อารมณ์เดือดดาลเกินกว่าตัวอักษรบรรยาย พรั่งพรูจากแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กระหึ่มตลอดสัปดาห์ทั้งในโซเชียล และโลกความเป็นจริง
จากโค้ชหนุ่มอนาคตไกล ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในบ้านเกิด ด้วยการผงาดง้ำคว่ำ 2 ยักษ์ใหญ่อย่างเบนฟิก้าและปอร์โต้ กลับเอาชื่อมาทิ้งในเมืองผู้ดีอย่างป่นปี้
แทบไม่เหลือแง่มุมสำหรับเหตุผลในการอยู่ต่อ
10 เดือนเหมือน 10 ปี
ใครบางคนบอกว่า แฟนบอลต้องให้เวลาสำหรับการปรับเปลี่ยนและความกดดันในฐานะสโมสรใหญ่
ลิเวอร์พูลยังต้องใช้เวลาหลายฤดูกาลกับ เจอร์เก้น คล็อปป์
แมนฯ ซิตี้ จบปีแรกในยุค เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ด้วยความว่างเปล่า
อาร์เซน่อล ร้างไร้ความสำเร็จด้วยน้ำมือ มิเกล อาร์เตต้า มากี่เพลาแล้ว?
หากแต่ทั้งหมดล้วนส่ง "สัญญาณบวก" ออกมาให้เห็น ความสำเร็จอาจยังไม่มา แต่ทิศทางและแนวทางการเล่นนั้นชัดเจน
หรือดูตัวอย่างใกล้ๆ อย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ นั่นก็ได้ โธมัส แฟร้งค์ เพิ่งเข้ามาแท้ๆ แต่ปลุกวิญญาณไก่ให้กลับมาคืนชีพอีกครั้ง แนวรับไม่เสียง่ายๆ เหมือนเดิม ไม่เห็นว่า กุนซือพันธุ์โคนมต้องใช้เวลาเนิ่นนาน
แล้วอาโมริมล่ะ?
รัก (ระบบ) ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง
3 เซนเตอร์แบ็ก คือสูตรถนัดและช่ำชองของอาโมริม เมื่อคราวนำสปอร์ติ้ง ลิสบอน กระหึ่มแผ่นดินโปรตุกีส และเรื่อยไปถึงระบบภาคพื้นยุโรป
ช่วงปลายก่อนโยกสู่ถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อาโมริมพาสปอร์ติ้งถล่มแมนฯ ซิตี้ กระจุยถึง 4-1 ด้วยระบบ วิธีการเล่นการเพรส และการสร้างสรรค์เกมแบบนี้
ระบบหลัง 3 ไม่ใช่สัตว์ประหลาด หลายทีมก็ใช้ และได้ผลก็มาก อาทิ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ยุคไร้พ่ายในลีกและดับเบิ้ลแชมป์ภายในประเทศ ฤดูกาล 2023-24 ของ ชาบี อลอนโซ่
ทว่า ดูเหมือนไม่คลิกกับแมนฯ ยูไนเต็ด แม้ผ่านเวลาเนิ่นนานมาร่วม 10 เดือนแล้ว
ระบบ 3-4-2-1 ไม่เวิร์ก และเป็นปัญหา?
แล้วทำไมทีมอื่นๆ ถึงเล่นได้
เชลซี ยุค อันโตนิโอ คอนเต้ เมื่อฤดูกาล 2016/17 เปิดฉากด้วยระบบ 4-2-3-1 สูตรเดิมก่อนหน้านั้น และไม่ได้ผล ก่อนกุนซืออิตาเลียนปรับมาใช้สูตรหลัง 3 ก่อนเดินหน้าคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างยิ่งใหญ่
คริสตัล พาเลซ ของ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ ก็ใช้สูตรนี้ และนอกจากได้ผลงานในสนามแล้ว ยังได้แชมป์ติดมือ ทั้งเอฟเอ คัพ เรื่อยมาถึง คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร นี่ก็ยืนหนึ่ง หลัง 3 เช่นกัน
วูล์ฟแฮมป์ตัน รอดตกชั้นในฤดูกาลที่แล้ว หลังการเข้ามาของ วิตอร์ เปเรยร่า ก็ด้วยระบบแบ็กทรี
อย่างที่ใครบางคนบอกว่า ระบบก็ส่วนหนึ่ง และอาจบอกได้ว่าเป็นเพียงตัวเลข หากแต่สิ่งสำคัญคือวิธีการเล่นเสียมากกว่า
แล้วหากระบบไม่เวิร์กล่ะ ทำไง? ง่ายๆ ก็แค่เปลี่ยน
แต่ดูเหมือนนี่เป็นคำที่หาไม่เจอในพจนานุกรมฉบับอาโมริม
คุณอาจเห็นการแก้เกม การเปลี่ยนตัวผู้เล่น หรือการโยกย้ายตำแหน่ง แต่คุณจะไม่เห็นการปรับเปลี่ยนระบบการเล่นจากกุนซือหน้าหนวด
ตั้งแต่วินาทีแรก จนถึงนกหวีดสุดท้าย อาโมริมยังคงยึดมั่นถือมั่นกับระบบของตัวเอง ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรก็ตาม
แม้ตามหลังกริมสบี้ และต้องการประตู อาโมริมเปลี่ยน โยชัว เซิร์คเซ่ ลงมาก็จริง แต่ไม่ใช่การเพิ่มตัวรุกแต่อย่างใด ด้วยการถอย เมสัน เมาน์ท ไปยืนวิงแบ็กซะอย่างงั้น
นั่นชี้ชัดว่า อาโมริมยึดระบบของตัวเอง แบ็กทรียังไงก็อย่างนั้น วิงแบ็กต้องมี หมายเลข 10 คู่แบบเดิม ปรับแค่เพียงหมากบนกระดาน
หากคุณไม่ควรยึดติดกับความสำเร็จ คุณยิ่งไม่ควรยึดติดกับความล้มเหลว มิใช่หรือ?
แต่อาโมริมยึดสูตรเดิมแม้ไม่ได้ผล นี่ไม่ใช่สิ่งที่ยอดโค้ชควรมี
ครั้งหนึ่งสมัยคุมบาร์เซโลน่า กวาร์ดิโอล่ายอมปรับระบบจาก 4-3-3 อันเรืองรองมาเป็น 3-4-3 เพื่อดัน ดานี่ อัลเวส ขึ้นมาเป็นวิงแบ็กฝั่งขวา และเติมเกมรุกมากขึ้น แม้ท้ายสุด ฤดูกาลดังกล่าว บาร์ซ่าพลาดเสียแชมป์ลา ลีกาให้เรอัล มาดริด แต่มันก็สะท้อนถึงความกล้าเปลี่ยนแปลง
เซอร์ อเล็กซ์ ฟอร์กูสัน เคยยิ่งใหญ่กับแมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยระบบหอกคู่ 4-4-2 ทว่า เมื่อโลกลูกหนังเปลี่ยนแปลง คนที่ใครก็เรียกว่า "ป๋า" ยังยอมปรับเปลี่ยนมาเล่น 4-3-3 บ้าง 4-2-3-1 บ้าง และนั่นคือหนึ่งในเหตุผลที่บรมกุนซือชาวสก็อตต์โลดแล่นบนยุทธจักรลูกหนังได้อย่างยาวนาน
คาร์โล อันเชล็อตติ ก็เป็นหนึ่งในตองอู เรื่องความยืดหยุ่น แบบนั้นก็ดี แบบนี้ก็ได้ แล้วแต่ว่า สูตรไหนเวิร์กและได้ผลสำหรับทีมของตนเอง
เร็วๆ นี้ ชาบี อลอนโซ่ ผู้นิยมแบ็กทรีเช่นกัน ยังยอมเปลี่ยนมาเล่นแบ็กโฟร์ เมื่อขุมกำลังเรอัล มาดริด ตอบโจทย์อย่างหลังมากกว่า
แล้วอาโมริมล่ะ?
ลูกรักลูกชัง
ด้วยบุคลิกแข็งกร้าวทั้งนอกและใน อาโมริมพร้อมชนมากกว่าประสานและปรับตัว ยิ่งสำทับให้บรรยากาศในห้องแต่งตัวเดือดปุดๆ เหมือนเติมไฟในเตาถ่านตลอดเวลา
ใครบางคนบอกว่า ดีโอโก้ ดาโล่ต์ คือลูกรักของน้าหนวด ต่อให้เล่นแย่แค่ไหนก็ยังได้เล่น หากไม่ใช่วิงแบ็กขวา ก็โยกไปวิงแบ็กซ้าย ถ้าไม่เวิร์ก ก็หุบเข้ามายืนเซนเตอร์ฝั่งขวาบ้าง ฝั่งซ้ายบ้าง
เกมกับกริมสบี้ กองหลังบ้านเดียวกันลงเล่นถึง 4 ตำแหน่ง ว้าว! นี่มันสุดยอดนักเตะที่ตอบทุกโจทย์ของกุนซือชัดๆ
ในทางกลับกัน อาโมริมบอกว่า ค็อบบี้ เมนู ไม่ได้ลงสนาม เพราะตำแหน่งทับกับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส
แย่งตัวจริงกับกัปตันทีมเนี่ยนะ! นี่เป็นคนที่การันตี 11 ตัวจริงผีแดงอยู่แล้ว ไม่ว่ายืนตัวบนในฐานะหมายเลข 10 หรือถอยลงมาเล่นตรงกลาง
ถ้าคุณเป็นเมนู คุณจะรู้สึกอย่างไร?
การขอย้ายทีมแบบยืมตัวอธิบายทุกอย่างในตัวมันเอง เด็กหนุ่มแมนคูเนี่ยนรักสโมสร และไม่ต้องการอำลา แต่ก็ต้องการนาทีลงสนาม ซึ่งอาจไม่มีวันได้รับภายใต้การคุมทีมของอาโมริม
คนหนึ่งลูกรัก คนหนึ่งลูกชัง ท่ามกลางบรรยากาศแบบนี้ ย่อมเป็นเรื่องยากในการหลอมรวมทีมเป็นเนื้อเดียว และคนเก่งทฤษฎีแบบอาโมริมอาจสอบวิชาจิตวิทยา
คุณคิดว่า นักเตะผีแดงจะพร้อมสู้ตายเพื่ออาโมริมรึเปล่า? ถ้าเพื่อสโมสรอาจใช่ แต่ถ้าเพื่อโค้ชคนนี้แล้วล่ะก็ อาจไม่ และไม่โดยสิ้นเชิง
ความปราชัยที่เธอลำเอียง!
บทสัมภาษณ์ของอาโมริมอาจทำให้คุณขมวดคิ้ว "อีหยังวะ" กับแนวคิด และคำถามกลับว่า พูดเพื่อ!
ตั้งแต่ก่อนชิงชนะเลิศ ยูโรปา ลีก กับสเปอร์ส ฤดูกาลก่อนนั่นแล้ว
"หากคุณได้แชมป์ยูโรปา ลีก กับแมนฯ ยูไนเต็ด ผมขอโทษจริงๆ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ แน่นอน นั่นคือความรู้สึกของผม มันคือการคว้าแชมป์ยุโรป แต่มันก็ไม่เพียงพอ ... "
ได้ยินอย่างนี้ แฟนบอลจะรู้สึกยังไงครับ? พวกเราจะเชียร์ต่อไปเพื่อ!
หนักเกินไปแล้ว
พิมพ์มาถึงบรรทัดนี้ เหนื่อยครับ พักกายพักกายใจ ฟังเพลงเพราะๆ กันดีกว่า
สุ่มเสียงทุ่มของสาวป๊อปร็อคคุณภาพ พี่ใหม่ เจริญปุระ มาพร้อมจังหวะจะโคนกระแทกกระทั้น และระบายความอัดอั้น อาจเหมาะกับความรู้สึกแฟนผีชั่วโมงนี้ครับ
เหนื่อยล้ามาเท่าไร หัวใจต้องสู้มา ร้อยพันปัญหาต้องสะสางไป
ได้แต่หวังไว้ว่าเธอ จะช่วยผ่อนช่วยคลาย แล้วเธอกลับกลายกลับทำปัญหา
อ้าว เพลงนี้ พี่ดี้-นิติพงษ์ ห่อนาค เขียนถึงอาโมริมเหรอเนี่ย ผู้เขียนเพิ่งรู้ (ฮา)
จากที่บอบช้ำมาแล้วในยุค เทน ฮาก แฟนผีกระอักเลือดกับคนมาใหม่อย่างอาโมริม จากหนักแล้วกลายเป็นหนักกว่าเดิมเสียอีก
หนักเกินไปแล้ว เกินจะแบก แบกมันไว้จนเต็มบ่า
รับเธอเข้ามา เธอกลับเหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่มันหนัก
ใจฉันทานไม่อยู่ ไม่อยากเห็น ไม่อยากรู้
หมดแรงจะทำเรื่องใด หมดแล้วกำลังใจ
10 เดือนผ่านไป ไม่เคยชนะติดต่อกัน 2 นัดมา 8 เดือนแล้ว, จบฤดูกาลด้วยมือเปล่า, พลาดโควต้ายุโรปเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี กระทั่ง แพ้ทีมดิวิชั่น 4 ตกรอบบอลถ้วยคิดในแง่ดี ... คงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้วล่ะ
บทเพลงที่ 61 หนักเกินไปแล้ว
คำร้อง โอภาส พันธุ์ดี (นิติพงษ์ ห่อนาค)
ทำนอง / เรียบเรียง โสฬส ปุณกะบุตร
ศิลปิน ใหม่ เจริญปุระ
อัลบั้ม ความลับสุดขอบฟ้า ปี 2535
