รอ

วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม 2568 คอลัมน์ บรรเลงเพลงแข่ง โดย แว่นดำ
198
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
"ไม่รู้ต้องรออีกนานแค่ไหน ไม่รู้เมื่อไหร่ที่เราจะพบกัน" (มาช่า, 2539)

ผ่านมาแล้ว 9 นัด สำหรับพรีเมียร์ลีก 2025/26

คิดเป็นช่วงเวลาเกือบ 1 ใน 4 ของฤดูกาลนี้แล้ว

เส้นทางที่เหลือยังอีกยาวไกล ขณะเดียวกัน เส้นทางที่ผ่านมาก็มากพอบ่งบอกอะไรบางอย่าง

เช่นเดียวกับบรรดา "ผู้เล่นหน้าใหม่" บางรายส่อเค้าไปได้สวย แต่บางคนก็มีแววล่องจุ๊น ลุ้นไม่ขึ้น

สภาพแวดล้อมใหม่ ... ทีมใหม่ ... เพื่อนใหม่ ทั้งหมดล้วนเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับผู้เล่นที่เพิ่งย้ายทีม ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้อง "ปรับตัว" กับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้

บางสโมสรจึงเลือกเฟ้นนักเตะที่มีประสบการณ์ในเกาะอังกฤษมาแล้ว เพื่อลดทอนการปรับตัวไม่ให้มากเกินไป อย่างน้อยที่สุด นักเตะเหล่านี้ก็คุ้นเคยกับเกมลูกหนังพันธุ์เฮฟวี่เมทัลอยู่แล้ว ด้วยบอลหนักๆ เน้นร่างกายมาก่อน เสริมด้วยแท็กติกและทีมเวิร์ก

นั่นอาจเป็นส่วนหนึ่งให้ ไบรอัน เอ็มเบอโม่ หรือ มาเตอุส กุนญ่า ไปได้สวยกับแมนฯ ยูไนเต็ด, เอเบเรชี่ เอเซ่ กลมกลืนกับอาร์เซน่อลหรือ ชูเอา เปโดร คลิกกับเชลซีตั้งแต่วันแรกๆ ที่ย้ายไปร่วมทีม กลางทัวร์นาเม้นต์ชิงแชมป์สโมสรโลก

หากแต่สิ่งเหล่านี้ไม่เกิดกับ ... ลิเวอร์พูล

ทั้งที่ลงทุนกว่า 400 ล้านปอนด์ เพื่อสร้างทีมสานต่อความสำเร็จจากแชมป์พรีเมียร์ลีก 2024/25

ทว่า จนถึงตอนนี้ นอกจากเม็ดเงินที่ลงทุนลงไปกลับไม่งอกเงยแล้ว มันยังกลายเป็นสร้างปัญหาใหม่ขึ้นมาเสียอีก


เติมไม่เต็ม

ฤดูกาลที่แล้ว อาร์เน่อ สล็อต รับมรดกมาจาก เจอร์เก้น คล็อปป์ โดยแทบไม่มีการปรับเปลี่ยน

ทรัพยากรเดิม เพิ่มเติมคือ ไอเดียและแท็กติกนานับ สับเปลี่ยนน็อตบางตัว คีย์แมนแดนกลางกลายเป็น ไรอัน กราเฟ่นแบร์ค ทดแทนมิดฟิลด์ตัวรับพันธุ์แท้อย่าง วาตารุ เอ็นโด 

4-3-3 อันคุ้นเคยในยุคเจเค ถูกปรับเปลี่ยนเป็น 4-2-3-1 และบอลสไตล์ยุโรปมากขึ้น ทุกอย่างลงตัว และผลลัพธ์คือ แชมป์พรีเมียร์ลีก ตั้งแต่ปีแรกในเมืองผู้ดี

ปีที่ 2 ต่อยอดความสำเร็จ? งานของสล็อตอาจยากและง่ายกว่าเดิมในบางมุมบางประเด็นที่ต่างกัน

ในฐานะแชมป์เก่า แน่นอน โจทย์ย่อมยากกว่าเดิม บรรดาคู่แข่งล้วนต้องการล้มยักษ์ และศึกษาแนวทางการสไตล์สล็อตมาอย่างดี

ทว่า ในอีกมุม กุนซือดัตช์ก็สั่งสมประสบการณ์ในเมืองผู้ดีมาแล้วเช่นกัน

จากการลงทุนอย่างจำกัด กลับกลายเป็นการลงทุนระดับประวัติการณ์ด้วยเม็ดเงินกว่า 400 ล้านปอนด์ในตลาดเดียว 

ลงทุนขนาดนี้ ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่คาดหวังถึงความสำเร็จ 

หากแต่ในอีกมุม การลงทุนมากและเปลี่ยนแปลงเยอะเกินไป อาจกลายเป็นดาบสองคม

โจ โคล อดีตผู้เล่นเชลซี ยุคเรืองรองของ โชเซ่ มูรินโญ่ บอกว่า ลิเวอร์พูลเปลี่ยนทีมมากเกินไป และนี่ไม่ใช่ทีมชุดเดิมจากฤดูกาลที่แล้ว

มาถึงตอนนี้ ฟูลแบ็ก 2 ฝั่งแทบไม่ต่างกับการ "ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ"

หลุมดำแบ็กขวาที่สูญเสียคีย์แมนอย่าง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ถูกถมด้วยเงิน 29.5 ล้านปอนด์กับ เยเรมี่ ฟริมปง โดยมี คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์ สแตนด์บายในฐานะแบ็กดาวรุ่งวัย 22 ปี

แบ็กซ้าย จัดไป 40 ล้านปอนด์กับ มิลอส เคอร์เคซ หนึ่งในแบ็กซ้ายที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่แล้ว เพื่อลบปัญหาฝั่งซ้าย ซึ่ง แอนดี้ โรเบิร์ตสัน อยู่ในช่วงถดถอย

เกือบ 70 ล้านปอนด์กับ 2 คนนี้เหมือนเผาเงินทิ้ง ทั้งคู่ไม่ตอบโจทย์แม้แต่น้อย และจนถึงตอนนี้ ยังไม่สามารถยึดตัวจริงได้เลยด้วยซ้ำ

ฟริมปง ไม่จี๊ดจ๊าดอย่างที่คาดหวัง ซ้ำร้าย ยังมีปัญหาบาดเจ็บง่าย จนอาจต้องตั้งคำถามว่า หมอนี่ไหวมั้ยกับบอลหนักๆ สไตล์ผู้ดี? และตอนนี้ยังต้องแย่งตำแหน่งกับไอ้หนุ่มไอร์แลนด์เหนืออยู่เลย

เคอร์เคซ ก็ไม่ต่าง ไม่เหมือนคนเดิมที่ระเบิดฟอร์มเปรี้ยงปร้างกับบอร์นมัธ ฤดูกาลที่แล้ว เกมรับรั่วและกลายเป็นบ่อให้เจาะ เกมรุกไม่มีการประสานงาน ไม่รู้ไปเหยียบตาปลา โคดี้ กัคโป ตอนไหน

ตอนนี้ แบ็กฮังกาเรียนไม่ได้เหนือกว่าลูกพี่ร็อบโบ้แม้แต่น้อย และบางที อาจไม่ต่างกับการทู่ซี้ใช้งาน คอสตาส ซิมิกาส (ที่ปล่อยให้โรม่ายืมตัว) ก็เป็นได้ 

ฝั่งขวาหาตัวแทนเทรนท์ไม่ได้ ฝั่งซ้ายยังคงปัญหาเดิม 

เพิ่มเติมปัญหาคู่เซนเตอร์ การปล่อย จาเรลล์ ควานซาห์ ออกไป ทำให้เกิดช่องว่างที่กำลังสำรอง โจ โกเมซ ไม่สม่ำเสมอ ขณะที่ไอ้หนู โจวานนี่ เลโอนี่ มีแวว แต่ก็ดันโชคร้าย บาดเจ็บยาวเสียอีก แถมแผนคว้า มาร์ก เกฮี ยังล่มในวินาทีสุดท้ายอย่างน่าเสียดายสุดๆ ด้วย

ด้วยการเจ็บของดาวรุ่งอิตาเลียน นั่นทำให้เม็ดเงิน 26 ล้านปอนด์ ทำให้การลงทุนฟรีๆ อีกหนึ่งเคสสำหรับฤดูกาลนี้

ภาระหนักตกอยู่ที่พี่ใหญ่ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ และ อิบราฮิม่า โกนาเต้ ที่แทบการันตีตัวจริงทุกนัด ในวันที่แข้งฝรั่งเศสไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด

ขณะที่มือสอง สโมสรอุตส่าห์ลงทุน 25 ล้านปอนด์กับ จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่ มือหนึ่งทีมชาติจอร์เจีย ทว่า มาถึงตอนนี้ ผลงานของโกล์วัย 25 ไม่อาจสร้างความอุ่นใจได้เหมือน ควีวิน เคลเลเฮอร์ ที่ขายให้เบรนท์ฟอร์ด (เพื่อโอกาสเป็นมือหนึ่ง) ด้วยซ้ำ

ช็อตโดน เควิน ชาเด้อ ของเบรนท์ฟอร์ด สังหารประตูที่ 2 ยังติดตา ทำไมไม่ออกมาปิดมุม? ทำไม และทำไม?


เธอไม่ใช่คนเดิม

ขณะเดียวกัน ต้องยอมรับว่า ผู้เล่นแกนหลักของทีมในฤดูกาลที่แล้ว ต่างไม่ได้อยู่ในฟอร์มแข็งแกร่งเหมือนฤดูกาลที่แล้ว

2 แข้งอาวุโสอย่าง โม ซาลาห์ และ ฟาน ไดค์ ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกจับตามอง

กัปตันพันธุ์ดัตช์ยังคงเป็นแกนหลักในแนวรับ กระนั้น หลายครั้งที่ดูเหมือน ฟาน ไดค์ มีความเลินเล่อ และสมาธิหลุด อาทิ ประตูแรกที่โดนเอ็มเบอโม่กระทุ้งต้นเกมแดงเดือดตั้งแต่ 63 วินาทีแรก

ไหนจะ "ภาษากาย" ในฐานะลูกพี่ นี่เป็นสิ่งที่ เวย์น รูนี่ย์ ตำนานแมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งข้อสังเกต

ขณะที่ คิง โม ไม่เหลือสภาพนักเตะยอดเยี่ยม PFA ฤดูกาลที่แล้ว ซีซั่นนี้ ซาลาห์ไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ 

ความคล่องแคล่วที่มีหายไปพร้อมกายสังขาร ทุกวันนี้ ใครก็หยุดซาลาห์ได้ ในเมื่อไม่มีความเร็ว ไม่มีความคล่อง และไม่มีอะไรเลย

ทัศนคติอันงุ่นง่านตามมา วันนี้ ลูกพี่โมถอดหน้ากากคนดีย์ ซึ่งพร้อมพลีชีพเพื่อชาติ กลายเป็นคนที่เห็นแก่ตัว เหมือนสมัยทะเลาะกับ ซาดิโอ มาเน่ ยังไงอย่างนั้น

หลังถูกเปลี่ยนตัวลงสนามเกมกับไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ตในฐานะตัวสำรอง ซาลาห์ยังอุตส่าห์มีช็อตเรียกเสียงฮือฮา ... เอิ่ม ไม่ใช่ประตูสุดสวย แต่เป็นการเลือกยิงมุมแคบเอง แทนที่จะส่งให้ โฟลเรียน เวียร์ตซ์ ที่ยืนโล่งๆ ทำประตู

ไหนจะการลบภาพเกี่ยวกับลิเวอร์พูลในโซเชียลมีเดียทิ้ง บ่งบอกถึงความเดือดดาล และก่อให้เกิดบรรยากาศตึงเครียดภายในห้องแต่งตัวโดยไม่จำเป็น

ไม่ใช่แค่ 2 ขาใหญ่ที่มีปัญหาในฤดูกาลนี้

โคดี้ กัคโป ไม่เหมือนคนเดิมในฤดูกาลที่แล้ว แข้งดัตช์เลี้ยงบอลชายเดี่ยว ไม่สนเคอร์เคซ ไม่จ่ายให้ใคร ตะบี้ตะบันยิงอย่างเดียว แถมไม่คมอีกต่างหาก นอกจากนั้น ยังไม่สามารถเลี้ยงกินตัวคู่แข่งได้ด้วย

เห็นอย่างนี้แล้ว แฟนหงส์ยิ่งเศร้า เมื่อคิดถึง หลุยส์ ดีอาซ ทีเด็ดริมเส้นที่กลายเป็นอาวุธเด็ดในการเจาะแนวรับคู่แข่ง ด้วยความสามารถในการเลี้ยงกินตัว ทะลุทะลวง และไหลลื่น

ขณะที่ปีกโคลอมเบียไปเสริมความแข็งแกร่งแนวรุกให้บาเยิร์น มิวนิค ลิเวอร์พูลกลับฝากความหวังไว้ที่กัคโป ที่ดูเหมือนเป็น "ลูกรัก" ของสล็อต และแทบไม่ถูกเปลี่ยนตัวออก แม้เล่นแย่แค่ไหนก็ตาม

อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เป็นอีกคนที่มาตรฐานหล่นฮวบ จากการเป็นคู่ขาตัวหลักของกราเฟ่นแบร์ค และทำให้แดนกลางลิเวอร์พูลไม่เป็นสองรองใคร ตอนนี้ "แม็คก้า" แทบไม่เหลือสภาพ

สาเหตุสำคัญคือ ปัญหาความฟิต ซึ่งเรื้อรังมาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว กระทั่ง มาถึงตอนนี้ ดาวเตะแชมป์โลกไม่อาจเรียกฟอร์มและร่างกายของตัวเองแบบ 100% ได้เลย

ของใหม่ไม่เข้าที่ + ของเก่าหมดอายุ = พัง พัง พัง ไม่มีเหลือ!

อายุน้อย 100 ล้าน

แข้งใหม่ที่ถูกจับตามากที่สุดย่อมไม่พ้น 2 วัยรุ่นพันล้านอย่าง โฟลเรียน เวียร์ตซ์ และ อเล็กซานเดอร์ อีซัค

แบรนด์เนม เมด อิน เยอรมนี มูลค่า 100 ล้านปอนด์คือเพชรเม็ดเงินแห่งวงการลูกหนังเมืองเบียร์ ทุกคนทราบดีถึงทักษะและคุณภาพของเพลย์เมกเกอร์วัย 22 ปี 

ด้วยทราบดีแน่ว่า ลิเวอร์พูลต้องเจออะไรบ้างในฤดูกาลป้องกันแชมป์ ใช่ครับ แท็กติกตั้งรับลึกนั่นไง ขนาดแฟนบอลรู้ แล้วสล็อตจะไม่รู้ได้อย่างไร

ทว่า ทั้งๆ ที่รู้ แต่กุนซือดัตช์กลับไม่อาจแก้หมากนี้ของคู่แข่งได้ นี่คือสิ่งที่ พอล เมอร์สัน กูรูอดีตแข้งอาร์เซน่อล ระบุถึงสาเหตุที่ลิเวอร์พูลย่อมจ่ายถึง 100 ล้านปอนด์

อาจเพราะความคาดหวังถึงความมหัศจรรย์ของเวียร์ตซ์ จากครั้งโลดแล่นในบ้านเกิด คราวนั้น ไอ้หนุ่มอนาคตไกลเต็มไปด้วยความพริ้วไหว และสามารถฉีกแนวรับคู่แข่งได้อย่างง่ายดาย ไม่ใช่ด้วยความเร็ว แต่เพราะความคล่องแคล่วและเทคนิคชั้นเลิศ

นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับ เวียร์ตซ์ เวอร์ชั่น หงส์แดง

ดาวเตะชาวเยอรมนีกลายเป็นมิดฟิลด์ดาดๆ ที่ได้แค่ส่งบอลถ่ายออกไปซ้ายขวา มีบอลสวยๆ บ้าง แต่ก็ไม่ได้มีความพิเศษใดๆ อย่างที่ถูกคาดหมาย

ยิ่งเมื่อเทียบกับตัวเลข 100 ล้านปอนด์แล้ว นี่คือความล้มเหลวโดยสิ้นเชิง

จากที่เคยถูกล้อเป็นสายลับ 007 ก่อนปลดล็อก 2 แอสซิสต์ในเกมชปล. กับแฟร้งค์เฟิร์ต เวียร์ตซ์กลับไม่เป็นโล้เป็นพายอีกครั้งเมื่อกลับมาอังกฤษ

ไม่เพียงสร้างเกมรุกอย่างที่ลิเวอร์พูลคาดหวังไว้ไม่ได้ กูรูหลายคนยังมองว่า การเข้ามาของเวียร์ตซ์ทำให้สมดุลย์ของทีมเสียไป

มันคืออีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ส่งให้หงส์แดงแทบไม่เหลือเค้าโครงของทีมแชมป์ฤดูกาลที่แล้ว

การคว้าศูนย์หน้า 125 ล้านปอนด์เข้ามาในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขาย ดูเหมือนกลายเป็นทุกขลาภ 

จนถึงตอนนี้ อีซัคเพิ่งยิงให้ทีมได้แค่ประตูเดียว และมาจากเกมคาราบาว คัพ กับเซาธ์แฮมป์ตัน 

สาเหตุสำคัญเป็นเพราะสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ และไม่มีปรีซีซั่นให้เรียกความฟิต จนกลายเป็นปัญหาเรื้อรังมาถึงปัจจุบัน กระทั่งเจ็บซ้ำจากเกมยุโรป และต้องใช้เวลาฟื้นฟูร่างกายอีกระยะ

คิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ 

จากทีแรกที่คิดว่า ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายชนะในดีลมหากาพย์กับนิวคาสเซิ่ล จากการได้ทั้งอีซัคและ อูโก้ เอกีตีเก้ เป้าหมายรองเข้ามาพร้อมกันทั้ง 2 ราย 

ทว่า "หัวเราะทีหลังดังกว่า" เมื่อแชมป์คาราบาว คัพ จากแดนอีสานหันไปคว้า นิค โวลทามาเดอ มาจากสตุ๊ตการ์ท 

แล้วเป็นไง ไอ้หนุ่มจากเมืองเบียร์ (เหมือนเวียร์ตซ์) ต้องใช้เวลาปรับตัวเนิ่นนานงั้นเหรอ? ก็ไม่ ดาวเตะวัย 23 ปี เล่นให้สาลิกาดงไปแล้ว 10 เกมจากทุกรายการและทำ 5 ประตู (ก่อนเกมคาราบาว คัพ วันพุธที่ผ่านมา)

ไม่ต่างกับทีมอื่นๆ ซึ่งล้วนใช้เงินเพื่อซื้อความสำเร็จทั้งนั้น และเป้าหมายนั่นคือ "จ่ายแล้วจบ" 

มาร์ติน ซูบีเมนดี้ กลายเป็นคีย์แมนแดนกลางของอาร์เซน่อลในทันทีที่ย้ายมาจาก เรอัล โซเซียดาด และกลมกลืนกับทีมราวกับเล่นกันมาหลายปี 

เช่นเดียวกับ วิคเตอร์ โยเคเรส ที่ตอบโจทย์หน้าเป้าอย่างที่ มิเกล อาร์เตต้า ปรารถนา

จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ย้ายจากปารีส แซงต์ แชร์กแมง ด้วยดีกรีแชมป์ยุโรป และกลายเป็นคำตอบสุดท้ายของแมนฯ ซิตี้ 

เหล่านี้ล้วนเป็นผู้เล่นหน้าใหม่จากต่างแดน และพวกเขาล้วนปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว

แล้วลิเวอร์พูลล่ะ? แฟนบอลต้องรออีกนานแค่ไหน?



ไม่รู้ต้องรอีกนานแค่ไหน

อารมณ์เหนื่อยหน่ายและท้อแท้ ชวนให้นึกถึงเพลงงดังในตำนานอย่าง "รอ"ของสาว 5 พันปีอย่าง พี่มาช่า วัฒนพานิช

เนื้อร้องเขียนโดย พี่นิ่ม-สีฟ้า ในนามปากกา นวมิตร ซึ่งเขียนจากความรู้สึกระหว่างทำงานเพลงกับ พี่ปอนด์-ธนา ลวสุต ผู้เขียนทำนองและเรียบเรียงเพลงนี้

ครั้งหนึ่ง พี่ดี้-นิติพงษ์ ห่อนาค ตั้งฉายาพี่ปอนด์ว่าเป็น "หลวงประดิษฐ์" เนื่องจากความละเมียดละไม และแน่นอน กว่างานจะเสร็จสมบูรณ์ มันต้องใช้เวลาเนิ่นนาน และ "ไม่รู้ต้องรออีกนานแค่ไหน"

A1 ใครบางคนได้แค่เพียงแต่รอ คนบางคนจะคืนมา

ยังจำคำทุกๆ คำ ก่อนลา ตอกย้ำให้รับรู้ว่าให้รอ

B ดูมันนาน มันเหนื่อยจนไม่เข้าใจ มันลังเลและหมดหวัง

Hook ไม่รู้ต้องรออีกนานแค่ไหน ไม่รู้เมื่อไหร่ที่เราจะพบกัน

จะเหลือสักกี่ปี จะเหลือสักกี่วัน ที่ชีวิตฉันจะอยู่ ได้พบและเจอเธอ

A2 การรอคอยที่ไม่มีจุดหมาย มันเป็นความทรมาน

วันๆ หนึ่ง มันช่างดูเนิ่นนาน กว่าวันแต่ละวันจะเลยไป

Bridge ในใจมันยังร้อนรน ในใจมันยังโหยหา

ในใจมันยังทุกข์ทน เฝ้ารอเธอมา

ได้แต่ถามหัวใจ เมื่อไรจะเจอกัน

นั่นสิครับ ไม่รู้ว่าแฟนหงส์ต้องรออีกนานแค่ไหน

กว่าจะพบเวียร์ตซ์ เวอร์ชั่นของแทร่

กว่าอีซัคคนเดิมจะกลับมา

ได้แต่ถามหัวใจ เมื่อไรจะเจอกัน

 บทเพลงที่ 78  รอ

 คำร้อง  นวมิตร (กัลยารัตน์ วารณะวัฒน์ - พี่นิ่ม สีฟ้า)  ทำนอง / เรียบเรียง  ธนา ลวสุต

 ศิลปิน  มาช่า วัฒนพานิช  อัลบั้ม  Room Number Three  ปี  2539




ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด