:::     :::

จากวันแรกถึงวันนี้ของ ฟิลิป ยอร์เกนเซ่น

วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม 2567 คอลัมน์ สิงห์สนามจริง โดย ยักษ์เดนส์
572
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เมืองเล็กๆ ชื่อ ลอมมา ตั้งอยู่ระหว่าง มัลโม่ และ ลุนด์ บนชายฝั่งทางใต้ของ สวีเดน ห่างจาก เดนมาร์ก เพียงช่องแคบเท่านั้น

    ฟิลิป ยอร์เกนเซ่น เกิดที่นี่แต่เขาใช้เวลาช่วงวัยรุ่นหลายปี ในที่ที่มีสภาพอากาศที่แตกต่างกัน ห่างออกไปประมาณ 1,500 ไมล์ โดยเริ่มจากเกาะมายอร์ก้า ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แล้วจากนั้นก็ย้ายไปอยู่แผ่นดินใหญ่ของ สเปน

    ความหลากหลายของการเลี้ยงดูได้หล่อหลอมให้เขาโตเป็นผู้ชายและเป็นนักฟุตบอลอย่างในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม แก่นแท้ของเขาคือลักษณะนิสัยแบบสแกนดิเนเวียทั่วไป คือ ความสงบ เยือกเย็น และ ความมั่นใจ ซึ่งช่วยทำให้เขาสามารถเป็นอย่างทุกวันนี้ได้

    ฟิลิป เกิดในครอบครัวที่มีพ่อเป็นชาวเดนมาร์กและแม่เป็นชาวสวีเดน ทำให้เขาแทบไม่เห็นความแตกต่างระหว่างสองประเทศและวัฒนธรรมนี้เลย เขามีมีความรู้สึกเป็นทั้งชาวเดนมาร์กและชาวสวีเดนอย่างเท่าเทียมกัน และเคยเป็นตัวแทนของทั้งสองประเทศในระดับนานาชาติมาแล้ว


    ความหลงใหลในกีฬาฟุตบอลของพ่อของเขาที่เล่นให้กับทีมใน สวีเดน เป็นแรงกระตุ้นให้ผู้รักษาประตูของเรารักฟุตบอลมากขึ้น เขาไม่เคยละทิ้งมันเลย

    "ความทรงจำแรกเกี่ยวกับฟุตบอลของผมคือการเล่นให้กับทีมท้องถิ่นของผมใน สวีเดน ชื่อ จีไอเอฟ ไนกี้ เมื่อผมอายุ 5 ขวบ" ฟิลิป รำลึก "นั่นคือช่วงวัยที่คุณสามารถเริ่มเล่นให้กับสโมสรได้ สนามแข่งอยู่ใกล้บ้านผมมาก ดังนั้นผมมักที่นั่นกับพ่อ ทีมของพ่อ พี่ชาย น้องชาย และเพื่อนๆ ของผมเสมอ"

    "ตอนนั้นผมเป็นผู้เล่นเอาท์ฟิลด์, ตำแหน่งกองหน้า ตอนอายุ 6 ขวบ ผมก็ย้ายไป มัลโม่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก ผมอยากลองทำอะไรที่ยากขึ้นอีกหน่อย ผมเก่งเกินกว่าที่จะอยู่กับ ไนกี้!"

    "ผมสนุกกับมันมากตอนที่ยังเด็ก ผมพยายามสนุกกับมันทุกวัน ผมซ้อมอย่างหนักที่ มัลโม่ และเมื่อผมกลับบ้าน ผมก็ฝึกซ้อมกับทีมของพ่อ ผมชอบเล่นฟุตบอลมาก"

    ฟิลิป เริ่มเล่นตำแหน่งผู้รักษาประตูตอนประมาณ 10 ขวบ ที่ มัลโม่ เมื่อจำนวนผู้รักษาประตูลดลงจาก 100 เหลือ 20 เขาก็ผ่านการคัดเลือก ข่าวใหญ่ในเมืองลอมม่า ถือเป็นสัญญาณแรกที่ ฟิลิป บอกว่าเขามีความสามารถพิเศษ แต่เมื่อเขาอายุได้ 12 ปี ชีวิตที่ตั้งรกรากใน สวีเดน ก็พลิกผันไปอย่างสิ้นเชิง พ่อ-แม่ ของเขาซึ่งเปิดร้านทำผมต้องการลองทำอะไรใหม่ๆ ตระกู ยอร์เกนเซ่น จึงย้ายไปยัง มายอร์ก้า


    "ผมไม่โอเคกับเรื่องนั้นเลย, ที่ มัลโม่ เราเล่นได้ดีมาก เราคว้าแชมป์ได้ทุกอย่างทุกปี ดังนั้นผมจึงอยากอยู่ต่อ แต่พวกเขาตัดสินใจดีแล้ว มันช่วยให้ผมมาถึงจุดนี้ได้ มันเปิดโลกของผมให้กว้างขึ้น คุณได้เห็นสิ่งต่างๆ จากมุมมองอื่น ผมคิดว่า มัลโม่ คือสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่แล้วเมื่อผมมาที่ มายอร์ก้า ซึ่งไม่มีใครรู้จัก มัล โม่เลย"

    "นอกจากนี้ การฝึกสอนผู้รักษาประตูก็แตกต่างไปมากในช่วงดาวรุ่ง เราไม่มีโค้ชหรผู้รักษาประตูหรือเทรนเนอร์ใน มัลโม่ ในสเปน - ตอนผมอายุ 12 ปี ทีมระดับล่าง ซึ่งไม่ใช่ทีม มายอร์ก้า ด้วยซ้ำ ก็คือทีมเพนย่า อาร์ราบัล พวกเขามีโค้ชผู้รักษาประตูและได้รับการฝึกฝนที่ดี ผมได้เรียนรู้อะไรมากมาย"

    ครอบครัว ยอร์เกนเซ่น กลับมาที่ ลอมม่า หลังจากอยู่ที่หมู่เกาะเบลีเอริกส์ เป็นเวลาหนึ่งปี และ ฟิลิป ก็กลับไป มัลโม่ โดยเวลาว่างจากการเรียนมาฝึกซ้อมวันละสามครั้ง

    "ผมไม่ชอบโรงเรียน ผมแค่อยากเล่นฟุตบอล ผมไม่จำเป็นต้องเรียนมากนัก ผมซ้อมในตอนเช้า ในตอนบ่าย และซ้อมกับพ่อเมื่อกลับถึงบ้านที่ ลอมมา เป็นทางเลือกของผมเสมอมา ผมสนุกกับมันมาก"

    เรอัล มายอร์ก้า จับตาดู ฟิลิป เล่นให้กับ เปนยา อาร์ราบัล ซึ่งเป็น "สโมสรเพื่อน" ของพวกเขา โดยผู้รักษาประตูรายนี้เคยพูดเอาไว้ว่า สโมสรเสนอโอกาสให้เขาเล่นให้กับทีมแห่งนี้ก่อนที่เขาจะกลับไป สวีเดน - หนึ่งปีต่อมา เขาถามกลับว่าข้อเสนอนั้นยังอยู่หรือไม่ และมันยังอยู่ ซึ่งเขาเดินทางกลับมายัง มายอร์ก้า เพื่อเซ็นสัญญากับทีม เพียง 12 เดือนต่อมา ในช่วงซัมเมอร์ปี 2017 บียาร์เรอัล ก็ติดต่อมา


    "ผมเซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรกเมื่ออายุได้ 15 ปี มันเป็นความรู้สึกที่ดีมาก ผมมีความสุขมาก มันเป็นความฝันของผมที่จะได้ไปเรียนที่อะคาเดมีของสโมสรใหญ่"

    "งานหนักเพิ่งเริ่มต้น ผมสนุกกับมันเสมอ สำหรับผมมันไม่ใช่งานหนัก ผมสนุกกับการฝึกซ้อมและทำสิ่งอื่นๆ เพิ่มเติม ผมออกกำลังกายในยิมมากมายเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง กระโดดได้สูงขึ้น ผมดูผู้รักษาประตูคนอื่นๆ เยอะมาก"

    "ผมมีความปรารถนาที่จะทำงานหนักอยู่เสมอ นั่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมมานั่งอยู่ที่นี่"

    นอกจากการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันในสเปนแล้ว ฟิลิป ยังบอกอีกว่าเขาแทบไม่ต้องประสบปัญหาใดๆ ในช่วงวัยรุ่นเลย พัฒนาการของเขาคืบหน้าไปอย่างราบรื่นจนกระทั่งเมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว เมื่อเขาได้ขยับขึ้นไปเล่นในทีมชุดใหญ่ของ บียาร์เรอัล ในตำแหน่งผู้รักษาประตูมือสาม

    "ฟุตบอลมีความหมายกับผมมาก มันคือทั้งชีวิตของผม แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งมันเริ่มมากเกินไป ผมเริ่มปวดหัว ผมอาศัยอยู่คนเดียวในอพาร์ตเมนต์ใน กาสเตยอน, ผมกลับบ้านมาด้วยความคิดเรื่องการซ้อม และดูฟุตบอล วันรุ่งขึ้น ผมไปฝึกอีกครั้ง กลับบ้านมาและคิดถึงเรื่องการซ้อมตลอดทั้งวัน"


    "มีอยู่ครั้งหนึ่งผมรู้สึกว่ามันมากเกินไป ผมต้องคุยกับผู้คนและพยายามเข้าสังคมมากขึ้น ผมพยายามหาอะไรทำในช่วงบ่ายส่วนใหญ่ให้ห่างจากฟุตบอล ไปอยู่กับเพื่อนเพื่อพยายามตัดขาดจากโลกฟุตบอล หลังจากนั้น ผมพบว่าการเป็นผู้รักษาประตูที่ดีขึ้นและเป็นคนที่มีความสุขมากขึ้นเป็นเรื่องง่ายที่ขึ้น ทั้งสองสิ่งนี้มาคู่กัน"

    ฟิลิปไ ม่เคยมองย้อนกลับไปเลย ตอนริ่มต้นฤดูกาลที่แล้ว เขาคว้าโอกาสเป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่งของ บียาร์เรอัล พร้อมกับเซฟได้มากกว่าผู้รักษาประตูคนอื่นในลาลีกา ความสัมพันธ์ 7 ปีของเขากับทีม "เรือดำน้้ำ" สิ้นสุดลงในเดือนกรกฎาคม ด้วยการย้ายไป เชลซี

    "ในฐานะเด็กจาก สวีเดน ที่ติดตามดูฟุตบอลมาโดยตลอด ผมรู้จัก เชลซี เป็นดีว่าพวกเขาเป็นสโมสรใหญ่แค่ไหน และโปรเจ็กต์ที่พวกเขากำลังทำอยู่ก็ดีมาก นั่นคือเหตุผลที่ผมอยากเซ็นสัญญาด้วย"

    "ผมสนุกกับมันมาก มากกว่าที่คาดไว้ด้วยซ้ำ ทุกคนให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและทุกๆ คนที่คอยช่วยให้คุณฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อไปถึงระดับสูงสุด นี่คือความฝันของผมที่รักการซ้อมและพัฒนาตัวเอง"

    "ปีนี้ผมอยากเล่นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้, คว้าแชมป์ คอนเฟอเรนซ์ ลีก, คว้าโทรฟี่มาครอง และพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นทุกวัน"

คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด